มากกว่า 1 ปี ที่ผ่านมา -

Culture of Trust วัฒนธรรมสร้างความเชื่อใจในองค์กร

Trust, Culture of Trust, Begin with trust, วัฒนธรรมองค์กร, วัฒนธรรมบริษัท, ความเชื่อ, ความไว้วางใจ, ปัญหาหัวหน้า ลูกน้อง, หัวหน้าไม่ดี, หัวหน้าแย่, ทักษะความเป็นผู้นำ, ความเป็นผู้นำ, ผู้นำ, คุณสมบัติผู้นำ, เคล็ดลับความสำเร็จ

​Jay Shetty วิทยากรและนักเขียนชื่อดังเคยกล่าวไว้ว่า “สิ่งที่แพงที่สุดในโลกคือความไว้วางใจ ซึ่งสิ่งที่อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้มาและสามารถเสียไปในเวลาแค่ไม่กี่วินาที”

เป็นคำพูดที่สรุป "พลัง คุณค่า และความเปราะบาง" ของการสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจในที่ทำงาน (และนอกที่ทำงาน) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ความไว้วางใจเป็นพื้นฐานสำหรับเกือบทุกอย่างที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเพื่อเลือกตัวแทนที่จะมาบริหาร ดูแลผลประโยชน์ของเรา หรือการเลือกซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ด้วยเงินที่เราหามาอย่างยากลำบาก เพื่อเป็นหลักประกันในชีวิตของเรา นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ผู้นำสามารถสร้างเงื่อนไขให้พนักงานตระหนักถึงความสามารถและอำนาจของตนเองได้อย่างเต็มที่

แล้วผู้นำจะสร้างต้นทุนนี้ได้อย่างไร ?

บทความ The First Step to Becoming a Genuinely Empowering Leader โดย Frances X. Frei and Anne Morriss ได้เขียนไว้เกี่ยวกับแรงขับเคลื่อน 3 ประการของความเชื่อใจ (Triangle of Trust) คือ

Trust, Culture of Trust, Begin with trust, วัฒนธรรมองค์กร, วัฒนธรรมบริษัท, ความเชื่อ, ความไว้วางใจ, ปัญหาหัวหน้า ลูกน้อง, หัวหน้าไม่ดี, หัวหน้าแย่, ทักษะความเป็นผู้นำ, ความเป็นผู้นำ, ผู้นำ, คุณสมบัติผู้นำ, เคล็ดลับความสำเร็จ

  • ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy): เมื่อพวกเขาเชื่อว่าคุณห่วงใยพวกเขา

  • ตรรกะ (Logic): เมื่อพวกเขาเชื่อมั่นในวิจารณญาณและความสามารถของคุณ

  • ความจริงใจ (Authenticity): ผู้คนมักจะเชื่อใจคุณเมื่อพวกเขาคิดว่าพวกเขากำลังมีปฏิสัมพันธ์กับตัวตนที่แท้จริงของคุณ

เมื่อความไว้ใจสูญเสียไป แสดงว่ามี 1 ใน 3 ข้อนี้พังทลาย โดยหน้าที่ของผู้นำ คือ ต้องรักษาแรงขับเคลื่อนทั้ง 3 นี้ไว้ให้มั่นคง

การมอง "ความเป็นผู้นำ" โดยทั่วไป เรามักจะมองว่า เรียนจบอะไรมา มาจากภูมิหลังครอบครัวแบบไหน นิสัยใจคอ วิสัยทัศน์ กลยุทธ์ แลพพรสวรรค์ของคนนี้เป็นอย่างไร จริงมั้ยคะ?

แต่ที่สำคัญยิ่งกว่า คือต้องดูว่า ผู้นำคนนี้สร้างอิมแพค ส่งเสริมลูกน้อง หรือคนในทีมได้ดีแค่ไหน หน้าที่หลักของผู้นำ คือ ทำให้ลูกน้องตระหนัก รับรู้ถึงความสามารถของตนเอง และใช้มันได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าวันหนึ่ง พวกเขาเหล่านั้นอาจไม่ใช่ลูกน้องคุณอีกแล้วก็ตาม สิ่งนี้เรียกว่า "การเสริมศักยภาพความเป็นผู้นำ"

หากคุณรู้สึกว่า คุณใส่ใจผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าคนอื่น นั่นเป็นปัญหาด้าน Empathy เมื่อหัวหน้าขาดความเห็นอกเห็นใจลูกน้อง จึงไม่แปลกที่ลูกน้องจะไม่ไว้วางใจในตัวหัวหน้า การแก้ไขคือ แทนที่คุณจะพูดแต่สิ่งที่คุณต้องการ คุณลองถามคนในทีมว่า อยากให้คุณช่วยซัพพอร์ตอะไรมั้ย

หากคุณกำลังรู้สึกว่า ไม่มีใครเชื่อมั่นในความสามารถหรือแผนการของคุณ นั่นเป็นปัญหาเชิงตรรกะ หรือ Logic เราไม่ควรลืมว่า ผู้นำไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ แต่คุณต้องเปิดใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

หากผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าถึง "ตัวตนที่แท้จริง" ของคุณ — นั่นเป็นปัญหาที่ Authenticity แม้ว่าบางครั้งการปิดบังตัวตนที่แท้จริงของคุณอาจช่วยคุณแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ แต่นั่นอาจทำให้ความเชื่อใจและความสามารถในการเป็นผู้นำของคุณลดลงด้วย

แต่มีสิ่งสุดท้ายที่คุณต้องรู้ เส้นทางสู่การเสริมสร้างศักยภาพความเป็นผู้นำ ไม่ได้เริ่มต้นเมื่อคนอื่นเริ่มไว้วางใจคุณ มันเริ่มต้นเมื่อคุณเริ่มเชื่อมั่นในตัวเอง ถ้าคุณไม่เชื่อมั่นในตัวเอง แล้วทำไมคนอื่นต้องเชื่อคุณ?

เพิ่มโอกาสในการหาพนักงานที่มีคุณภาพกับแมนพาวเวอร์ คลิก