-
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยคว้ารางวัลสถานประกอบการดีเด่น ประจำปี 2567 ย้ำความมุ่งมั่นดูแลพนักงาน
3 September 2024 วันที่ 3 กันยายน 2567 บริษัท สกิลพาวเวอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย องค์กรชั้นนำด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งใน 46 สถานประกอบการที่ได้รับรางวัล “สถานประกอบการดีเด่น ประจำปี 2567” จากสำนักงานประกันสังคม ในงานวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานประกันสังคมครบรอบ 34 ปี ณ สำนักงานประกันสังคม (สำนักงานใหญ่) โดยมี นางสาวศิริขวัญ เตชะพัฒนารัตน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นตัวแทนรับมอบโล่เกียรติคุณในครั้งนี้รางวัลอันทรงเกียรตินี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแมนพาวเวอร์กรุ๊ปในการดูแลพนักงานให้ได้รับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อย่างครบถ้วน ตามมาตรฐานที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจขององค์กรในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและยั่งยืนให้แก่พนักงานทุกคนแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยขอขอบคุณสำนักงานประกันสังคมที่ให้เกียรติมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ และจะยังคงเดินหน้าปฏิบัติตามนโยบายของภาครัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแรงงานที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป
-
เมื่อโลกเข้าสู่ "ยุคดิจิทัล" ปรับตัวไม่ทัน เสี่ยงตกงาน
19 August 2024 โลกเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว ทำให้ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอทีนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงาน ManpowerGroup Global Insights IT Report ปี 2567 ชี้ให้เห็นถึง 8 เทรนด์สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงวงการไอทีและผลกระทบต่อตลาดแรงงาน8 เทรนด์ไอทีที่เปลี่ยนโลกAI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) กำลังเปลี่ยนจากของไฮเทคมาเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจ ทุกคนอยากใช้ AI เพื่อเพิ่มยอดขายและทำงานง่ายขึ้น แต่ปัญหาคือพนักงานส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ผู้นำองค์กรกว่า 78% กังวลเรื่องนี้ ดังนั้นการพัฒนาฝีมือแรงงานจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนCloud มาแรง เทรนด์การใช้คลาวด์เติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะช่วยให้ใช้ AI และ Machine Learning ได้ง่ายขึ้น เฉพาะในอเมริกาเหนือ ปีที่แล้วมีการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่เพิ่มขึ้นถึง 46% เท่าตัว! นี่คือสัญญาณว่าตลาดต้องการคนเก่งด้านคลาวด์จำนวนมาก เพราะบริษัทต่าง ๆ กำลังทุ่มเงินลงทุนกันหนักมากทักษะรอบตัวสำคัญเท่ากับทักษะไอที แน่นอนว่าความรู้ด้านไอทีเป็นพื้นฐาน แต่ทักษะการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และความยืดหยุ่นก็สำคัญไม่แพ้กัน นายจ้างยุคใหม่มองหาคนที่มีทั้งความสามารถทางเทคนิคและมนุษยสัมพันธ์ เพราะทีมไอทีต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดชิปขาดแคลนทั่วโลก ปัญหาการขาดแคลนชิปคอมพิวเตอร์ทำให้หลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาและยุโรป ต้องเร่งผลิตชิปเอง คาดว่าภายในปี 2573 อุตสาหกรรมนี้ต้องการแรงงานที่มีความสามารถกว่า 1 ล้านคน นับเป็นโอกาสทองสำหรับคนไทยที่มีความรู้ด้านนี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมใกล้ความจริง คอมพิวเตอร์ควอนตัมกำลังพัฒนาจากทฤษฎีสู่การใช้งานจริง สร้างโอกาสใหม่ ๆ แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทาย ปัญหาหลักคือขาดแคลนคนเก่งด้านควอนตัมอย่างหนัก ตำแหน่งงานว่างมากกว่าคนที่มีความสามารถถึง 3 เท่า ดังนั้นมหาวิทยาลัยต้องเร่งผลิตบัณฑิตด้านนี้ไอทีสีเขียวมาแรง องค์กรต่าง ๆ เริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยมีผู้บริหารไอทีกว่า 80% ตั้งเป้าลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมภายในปี 2570 ตลาดเทคโนโลยีสีเขียวกำลังเติบโต คนที่มีความรู้ด้านนี้จึงเป็นที่ต้องการสูงภัยไซเบอร์ร้ายแรงขึ้นทุกวัน อาชญากรไซเบอร์ก่อเหตุบ่อยขึ้น ทำให้ความต้องการบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์พุ่งสูง รายงานระบุว่าขาดแคลนคนเก่งด้านนี้ถึง 4 ล้านคนทั่วโลก บริษัทต่าง ๆ จึงทุ่มงบประมาณเพื่อเสริมสร้างระบบรักษาความปลอดภัยมากขึ้นAI กับคน ต้องไปด้วยกัน เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้เกิดการถกเถียงเรื่องผลกระทบต่อแรงงาน ผู้บริหารส่วนใหญ่เชื่อว่า AI จะสร้างงานใหม่ แต่พนักงานกลับกังวลว่าจะถูกแทนที่ ดังนั้นการสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาคนจึงสำคัญมากโลกไอทีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก องค์กรต้องปรับตัวให้ทันเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน การลงทุนพัฒนาทักษะพนักงานเป็นเรื่องสำคัญ บริษัทที่ประสบความสำเร็จคือบริษัทที่ให้ความสำคัญกับทั้งความรู้ด้านเทคนิคและทักษะการทำงานร่วมกันดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มจากแมนพาวเวอร์กรุ๊ป กรุณากรอกข้อมูลด้านล่าง
-
7 เคล็ดลับในการหาพนักงานให้ตรงใจ และใช้เวลาไม่นาน
6 August 2024 ปัญหาหนึ่งขององค์กรทุกที่ คือการหาทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพและเหมาะสมกับตำแหน่งที่ว่างอยู่ ซึ่งอาจกินเวลานาน จนทำให้พนักงานในบริษัทท้อและหมดกำลังใจ แต่จะรับคนที่ไม่ใช่ก็เกรงว่าจะทำให้มีปัญหาในระยะยาว การหาพนักงานจึงต้องอาศัยทักษะและเทคนิคเพื่อให้ได้คนที่ใช่ในเวลาที่รวดเร็ว 1. ใช้บริการ Recruitment Agency ในไทยสำหรับบริษัทที่กำลังต้องการพนักงานอย่างรวดเร็ว และมีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ การใช้บริการ Recruitment Agency ในไทยหรือบริษัทจัดหาพนักงานเป็นวิธีการที่ดีที่สุดและไวที่สุด เนื่องจากบริษัทจัดหางานมีประวัติผู้ที่กำลังหางานที่น่าสนใจและเหมาะกับตำแหน่งต่าง ๆ จำนวนมาก ช่วยให้ประหยัดเวลาในการค้นหาพนักงาน และยังช่วยให้เข้าถึงบุคลากรที่มีคุณภาพ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้บริการเอเจนซีรับจัดหาพนักงาน อย่าง Manpower จึงเป็นการช่วยลดภาระงานของแผนกทรัพยากรบุคคล ให้สามารถไปดูแลเรื่องสวัสดิการของพนักงานและเรื่องสำคัญอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องคัดกรองใบสมัครจากผู้สมัครจำนวนมาก แค่พิจารณาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงตามต้องการและน่าสนใจจริง ๆ 2. กำหนดคุณสมบัติและตำแหน่งหน้าที่ให้ชัดเจนเวลาที่ประกาศคุณสมบัติลงในเว็บหาพนักงาน พยายามกำหนดคุณสมบัติและตำแหน่งหน้าที่ให้ชัดเจนที่สุด เพื่อได้ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ ไม่เช่นนั้น ถึงแม้จะมีผู้สมัครงานมาเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้คุณภาพตามที่ต้องการ ทำให้ต้องเสียเวลามานั่งคัดใบสมัครทิ้งโดยไม่จำเป็น ด้วยเหตุนี้ ยิ่งเราใส่รายละเอียดมากเท่าไร ก็จะช่วยคัดกรองผู้สมัครได้มากเท่านั้น และลดเวลาการทำงานลงอีกด้วย 3. ลงประกาศรับสมัครในเว็บหาพนักงานที่มีคุณภาพ การลงประกาศในเว็บสมัครงานที่มีคุณภาพช่วยให้ได้ผู้สมัครที่องค์กรต้องการจริง ๆ โดยแนะนำให้ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติ ตำแหน่ง รวมถึงรายละเอียดของบริษัท สวัสดิการต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อดึงดูดใจผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ นอกจากการลงประกาศลงเว็บสมัครงานแล้ว ลองลงประกาศใน Social Network ต่าง ๆ รวมถึงลองมองหาผู้สมัครที่ฝากใบสมัครไว้ในเว็บหาพนักงาน เพื่อประหยัดเวลาในการประกาศรับสมัคร4. สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่บริษัทบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีชื่อเสียงในเรื่องของค่าตอบแทนที่เป็นธรรม มีสวัสดิการ และวัฒนธรรมองค์กรที่ดี มีคุณภาพ เอื้อต่อการทำงานและการพัฒนาทักษะ ก็ยิ่งดึงดูดใจคนเก่ง ๆ ให้ส่งใบสมัครมากยิ่งขึ้น ช่องทางแรกในการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่บริษัทก็คือ เว็บไซต์ของบริษัท จะต้องมีความสวยงาม ทันสมัย และมีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่ครบถ้วน ทั้งรายชื่อผู้บริหาร วิสัยทัศน์ พันธกิจ ที่ตั้งของบริษัท รวมถึงสินค้าและบริการต่าง ๆ นอกจากนี้ การรีวิวจากพนักงานก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่บริษัทมากยิ่งขึ้นด้วย 5. คัดกรอง Resume ของผู้สมัครอย่างละเอียด หลังจากที่ได้ Resume ของผู้สมัครมาแล้ว ต่อไปถึงขั้นตอนสำคัญก็คือ การคัดกรองคุณสมบัติของผู้สมัครจาก Resume ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ว่าครบถ้วนตามที่กำหนดหรือไม่ ทั้งในเรื่องคุณสมบัติ ประสบการณ์ ไปจนถึงเงินเดือนที่คาดหวัง ว่าตรงกับงบประมาณของบริษัทหรือไม่ คัดกรองผู้สมัครที่น่าสนใจและโดดเด่น มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เหนือกว่าผู้สมัครคนอื่น ๆ จัดอันดับผู้สมัครที่น่าสนใจ เพื่อทำการนัดหมายในการขอสัมภาษณ์งาน ตามวันเวลาที่สะดวกทั้งสองฝ่าย 6. สัมภาษณ์อย่างชาญฉลาดการสัมภาษณ์ผู้สมัครเพื่อเฟ้นหาพนักงานใหม่ที่เหมาะกับตำแหน่งและองค์กรเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้การเลือกผู้สมัครเลย เพราะการสัมภาษณ์และพูดคุยกันจะช่วยทำให้รู้ถึงความเชี่ยวชาญ การสื่อสาร การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงทัศนคติต่าง ๆ คำถามหลัก ๆ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ ประสบการณ์การทำงาน ทักษะ และความเชี่ยวชาญ คำถามอาจจะเริ่มจากการให้ผู้สมัครเล่าประสบการณ์การทำงานของตนเอง หน้าที่และความรับผิดชอบต่าง ๆ ที่เคยทำมา แรงบันดาลใจและเป้าหมายในชีวิต เพื่อตรวจสอบว่าเป้าหมายของผู้สมัครเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับบริษัทหรือไม่ ความรู้เกี่ยวกับบริษัท เพื่อให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและสนใจในการเข้ามาทำงานที่บริษัท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าและบริการ Core Value ประวัติบริษัท ไปจนถึงผู้บริหาร คำถามวัดทัศนคติในการทำงาน เพื่อให้เห็นถึงภาวะจิตใจและมุมมองต่อตนเองและผู้อื่น เช่น จุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง ข้อผิดพลาดที่เคยทำในอดีต การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต่าง ๆ 7. ตัดสินใจอย่างรวดเร็วสุดท้ายแล้ว เมื่อคัดกรองผู้สมัครจากเว็บหาพนักงาน และสัมภาษณ์จนได้ผู้สมัครที่เหมาะสมแล้ว อย่าทิ้งระยะเวลาเอาไว้นาน ให้รีบตัดสินใจ เพราะผู้สมัครที่มีศักยภาพมักเป็นที่ต้องการตัวจากหลายบริษัท การสัมภาษณ์ทิ้งเอาไว้ นอกจากจะทำให้พลาดโอกาสได้พนักงานเก่ง ๆ แล้ว ยังเสียเวลาในการหาพนักงานใหม่อีกด้วย ใครต้องการประหยัดเวลาในการเฟ้นหาพนักงาน แนะนำให้เลือกใช้บริการจัดหาพนักงานจาก Manpower บริษัทจัดหาพนักงาน เชี่ยวชาญการบริการที่ตอบโจทย์ HR อย่างครบวงจร และมีสำนักงานถึง 8 สาขาทั่วประเทศไทย ติดต่อหาเจ้าหน้าที่ของเราเลย ข้อมูลอ้างอิงHow To Find Employees In 2024. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 จาก https://www.forbes.com/advisor/business/how-find-employees/
-
7 อาชีพเงินเดือนดีที่บริษัทชั้นนำต้องการ
5 August 2024 ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจทวีความรุนแรง ประกอบกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดภาวะ Turnover Rate สูง การสรรหาพนักงานประจำที่เหมาะสมกับธุรกิจจึงไม่ใช่เรื่องง่าย บริษัทต่าง ๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการค้นหาบุคลากรที่มีความสามารถและทำงานร่วมกับทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ จะขอพาไปอัปเดต 7 อาชีพเงินเดือนสูงในปี 2567 ที่ต้องมาพร้อมกับความสามารถ ทักษะ และประสบการณ์ เพื่อช่วยขับเคลื่อนบริษัทให้นำหน้าคู่แข่งและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น 1. Financial Manager นักบริหารการเงินนักบริหารการเงิน หรือ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน ตำแหน่งที่เป็นหัวใจสำคัญของบริษัท เพราะมีหน้าที่วางแผน ควบคุม ดูแล และบริหารจัดการเงินทุนของบริษัทให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีเป้าหมายหลัก คือนำพาบริษัทไปสู่เป้าหมายทางการเงินและสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่องค์กร เงินเดือนเฉลี่ย/ปี: 6,430,000 บาท2. Data Analyst/Scientist วิศวกรออกแบบปัญญาประดิษฐ์Data Analyst/Scientist เป็นตำแหน่งงานเงินเดือนสูงที่เป็นที่ต้องการในตลาดงานปัจจุบัน เนื่องจากในยุคดิจิทัล ข้อมูลคือสิ่งที่มีบทบาทสำคัญที่สามารถนำไปต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตได้ บริษัทต่าง ๆ จึงต่างต้องการบุคลากรที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลและความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ สำหรับนำมาวิเคราะห์ข้อมูล พัฒนาโมเดล และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน พร้อมช่วยแก้ไขปัญหาทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เงินเดือนเฉลี่ย/ปี: 4,330,000 บาท3. Software Developer นักออกแบบระบบไอทีนักออกแบบระบบไอที เป็นตำแหน่งที่ทำหน้าที่ออกแบบ พัฒนา เขียนโปรแกรม ทดสอบ และดูแลรักษาระบบซอฟต์แวร์ต่าง ๆ โดยมีความเชี่ยวชาญด้านการใช้ภาษาคอมพิวเตอร์ เช่น C++, Python, Java รวมถึงการอ่านและป้องกันฐานข้อมูลในระบบของบริษัท ในปัจจุบันมีแยกย่อยสาขางานให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมในแต่ละประเภทอุตสาหกรรมเงินเดือนเฉลี่ย/ปี: 3,670,000 บาท4. Cybersecurity ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ทวีความรุนแรงขึ้น บริษัทต่าง ๆ จึงต้องการผู้เชี่ยวชาญด้าน Cybersecurity เข้ามาช่วยดูแลให้ระบบเกิดความปลอดภัย ทำให้เป็นหนึ่งในอาชีพเงินเดือนดีที่หลาย ๆ คนอยากจะทำ แต่ก็เป็นตำแหน่งงานที่ต้องมีความรู้และทักษะในการป้องกันระบบเครือข่ายและข้อมูลจากภัยคุกคามต่าง ๆ เช่น มัลแวร์ แฮกเกอร์ การโจมตีแบบ DDoS การโจมตีแบบ Phishing ที่ล้วนสร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาลหากไม่ป้องกันให้ดี เงินเดือนเฉลี่ย/ปี: 3,356,000 บาท5. Digital Media Content Creator อาชีพด้านการตลาดนักครีเอเตอร์สื่อดิจิทัล เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์เนื้อหาบนสื่อดิจิทัล ทำหน้าที่วางแผนกลยุทธ์ของเนื้อหา ผลิตเนื้อหาที่สร้างความสนใจและดึงดูดผู้ชม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาด ตลอดจนวิเคราะห์ผลลัพธ์ วัดผลประสิทธิภาพ และปรับปรุงกลยุทธ์เนื้อหาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นับว่าเป็นตำแหน่งงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ของบริษัทต่าง ๆ เงินเดือนเฉลี่ย/ปี: 3,130,000 บาท6. Business Management Analyst นักวิเคราะห์ธุรกิจนักวิเคราะห์ธุรกิจ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า BA เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ พัฒนาระบบ ที่เกี่ยวกับการเติบโตของธุรกิจ ทั้งยังช่วยให้เดินหน้าไปในทิศทางที่เหมาะสม รวมถึงช่วยเพิ่มช่องทางการทำรายได้ให้มากขึ้น ทั้งบนช่องทางโซเชียลมีเดียและในแบบออฟไลน์ โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนลูกค้า พร้อมสร้างจุดแข็งให้เหนือคู่แข่งเงินเดือนเฉลี่ย/ปี: 2,910,000 บาท7. UX/UI Designer นักออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้สำหรับอาชีพ User Experience and User Interface Design หรือเรียกสั้น ๆ ว่า UX/UI ถือเป็นอาชีพเงินเดือนสูงที่มาแรงอีกอาชีพหนึ่ง มีหน้าที่ในการออกแบบระบบ โปรแกรม เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และผลิตภัณฑ์ดิจิทัลต่าง ๆ ให้ใช้งานง่าย สะดวก มีประสิทธิภาพ และตรงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยมีเป้าหมายหลักคือ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว เงินเดือนเฉลี่ย/ปี: 2,860,000 บาทสำหรับบริษัทชั้นนำ การพัฒนาองค์กรให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล ด้วยการจ้างงานบุคลากร หรือพนักงานประจำที่มีความสามารถ เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่จะนำพาองค์กรไปสู่อนาคตที่มั่นคงและประสบความสำเร็จได้ไม่ยากสำหรับบริษัทหรือธุรกิจที่กำลังมองหาพนักงานในกลุ่มสายงานเหล่านี้ สามารถมาใช้บริการของ Manpower เรามีบริการสรรหาบุคลากรหาพนักงานประจำทุกระดับ เรามีโปรไฟล์ของผู้สมัครที่มีความสามารถ (Talented Candidates) มากมาย ที่พร้อมช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้ก้าวไปข้างหน้าและเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยประสบการณ์กว่า 70 ปี อย่าพลาดโอกาสในการเลือกสรรพนักงานที่เหมาะสมกับธุรกิจคุณไปกับเรา สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยข้อมูลอ้างอิงแนะนำ 15 อาชีพรายได้เยอะ ฐานเงินเดือนสูง ถ้าอยากรวยต้องทำอาชีพนี้. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 จาก https://thethaiger.com/th/news/855083/
-
7 สิ่งสำคัญในการทำ Resume ภาษาอังกฤษให้ได้งานไว
4 August 2024 ในการสมัครงาน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ Resume ซึ่งเปรียบเหมือนกับการทำโฆษณาสินค้า แต่สินค้าคือ ผู้สมัคร การเขียน Resume ให้โดดเด่นและมีความเป็นมืออาชีพจึงมีความสำคัญ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยตัดสินว่าใบสมัครของเราจะโดนปัดตกหรือโดนส่งต่อเพื่อรอสัมภาษณ์ต่อไป ในบทความนี้ จะมาบอกเคล็ดลับการเขียน Resume ภาษาอังกฤษ เพื่ออัปโหลดในเว็บหางานให้ดูเป็นมืออาชีพและน่าสนใจ จนทำให้บริษัทอยากเรียกมาสัมภาษณ์งาน 1. องค์ประกอบของ Resumeอันดับแรกในการทำ Resume ภาษาอังกฤษคือ การรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการสมัครงาน ซึ่งไม่ใช่แค่ประวัติส่วนตัวและการศึกษาเท่านั้น แต่ต้องใส่คุณสมบัติที่น่าสนใจ เพื่อให้โดดเด่นต่างจากผู้สมัครคนอื่น ๆ ด้วย โดยการเขียน Resume ที่ดี จะต้องมีข้อมูลดังต่อไปนี้ ข้อมูลส่วนตัวชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ปัจจุบัน ช่องทางติดต่อ ทั้งเบอร์โทรศัพท์ อีเมล ไลน์ สัญชาติวันเกิดความสนใจหรืองานอดิเรกแบบย่อรูปถ่าย แนะนำเป็นภาพถ่ายหน้าตรง แต่งตัวสุภาพสรุปความโดดเด่น ทำไมบริษัทจึงควรเลือกคุณอย่าลืมใส่ Resume Summary เวลาเขียน Resume ภาษาอังกฤษ โดยให้ใส่ผลงานการทำงานที่โดดเด่น ยิ่งใส่เป็นยอดขาย หรือสถิติตัวเลขยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หากว่าเคยได้รับรางวัลจากการทำงาน แนะนำว่าให้ใส่ลงไปในส่วนนี้ด้วย ข้อควรระวังคือ ไม่ควรใส่ยาวเกินกว่า 4 - 5 ประโยค เพราะจะทำให้เยิ่นเย้อ ให้ใส่เฉพาะที่สำคัญจริง ๆ ทักษะ ความสามารถ และคุณสมบัติต่าง ๆปัจจุบันทักษะและความสามารถต่าง ๆ มีความสำคัญมาก ซึ่งหลาย ๆ บริษัทต่างก็ให้ความสำคัญทั้งในส่วนที่เป็น Hard Skill และ Soft Skill Hard Skill ให้เน้นทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในตำแหน่งงานที่สมัคร เช่น Data Analysis, Social Media Marketing Soft Skill ให้ใส่ทักษะที่ครอบคลุมทั้งเรื่องการสื่อสาร การตัดสินใจ การทำงานเป็นทีม การบริหารจัดการ การแก้ไขปัญหา รวมถึงการเรียนรู้และปรับตัว ประสบการณ์ทำงานและประวัติการศึกษาโดยนำปีล่าสุดหรือปีปัจจุบันขึ้นมาก่อน แล้วค่อยไล่ย้อนกลับไป ในส่วนของประสบการณ์การทำงานให้ระบุหน้าที่และความรับผิดชอบหลัก สามารถใส่เป็นหัวข้อ หรือเขียนเป็นเรียงความก็ได้ ส่วนประวัติการศึกษา แนะนำให้ใส่สาขา และเกรดเฉลี่ย (GPA) หากได้รับเกียรตินิยมก็ควรใส่ลงไปใน Resume ด้วย บุคคลอ้างอิงไม่ว่าจะเป็นการเขียน Resume ภาษาอังกฤษหรือภาษาไหน ๆ บุคคลอ้างอิงที่ใส่ไว้มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าทักษะและความสามารถต่าง ๆ เลย ผู้สมัครจึงควรเลือกบุคคลที่น่าเชื่อถือ หากเป็นนักศึกษาที่จบใหม่อาจจะใช้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา แต่หากว่ามีประสบการณ์การทำงานแล้ว แนะนำให้ใช้บุคคลอ้างอิงเป็นหัวหน้าที่เคยทำงานด้วยกัน และอย่าลืมขออนุญาตบุคคลที่กล่าวอ้างชื่อทุกครั้ง 2. จัดเรียงข้อมูลตามลำดับความสำคัญ และความโดดเด่นเมื่อรวบรวมข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดในการเขียน Resume ภาษาอังกฤษมาได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ การจัดเรียงข้อมูลต่าง ๆ ตามลำดับความสำคัญและโดดเด่น หากว่าเราเป็นผู้สมัครที่มีประสบการณ์ หรือมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แนะนำให้นำประสบการณ์ทำงานขึ้นมาก่อน แต่หากว่าผู้สมัครเป็นนักศึกษาจบใหม่ ให้ใส่ประวัติการศึกษา แล้วค่อยเสริมด้วยทักษะที่โดดเด่น เพื่อให้ Resume ดูน่าสนใจ 3. ออกแบบ Resume ให้สวยงามและอ่านง่ายในการทำ Resume ภาษาอังกฤษ แนะนำว่าให้ออกแบบให้เรียบง่าย สวยงาม สามารถอ่านได้ง่าย ไม่ออกแบบหรือใส่รายละเอียดที่ซับซ้อน เพื่อให้ดูเป็นมืออาชีพ ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ช่วยออกแบบ Resume ให้สวยงาม น่าอ่าน และดูเป็นมืออาชีพจำนวนมาก ทั้ง Canva, Resume.in.th, Novoresume 4. การใช้ภาษาในการเขียนภาษาที่ใช้ในการเขียน Resume ภาษาอังกฤษมีความสำคัญไม่แพ้องค์ประกอบอื่น ๆ เพราะเนื้อหาที่ใส่ในการเขียน Resume ค่อนข้างจำกัด และบริษัทก็ไม่มีเวลาอ่าน Resume ของผู้สมัครแต่ละคนมากนัก การเขียนให้กระชับ ชัดเจน ตรงประเด็น เข้าใจง่าย เป็นทางการ และสุภาพ จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้ารับการทำงานเพิ่มมากขึ้น 5. ตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างก่อนส่งสิ่งที่ทำให้ผู้สมัครตกม้าตายตอนจบหลายคนคือ การไม่ตรวจสอบความถูกต้องและคำผิดก่อนส่ง เพราะคำผิดเพียงแค่จุดเล็ก ๆ จุดเดียว อาจจะทำให้บริษัทเห็นถึงความไม่รอบคอบหรือไม่ใส่ใจได้ ดังนั้น ก่อนส่งแนะนำให้ตรวจรายละเอียดอย่างรอบคอบ ทั้งการตรวจด้วยตนเอง ให้คนอื่นช่วยตรวจ หรือใช้โปรแกรมตรวจคำผิดต่าง ๆ 6. เลือกใช้รูปที่สุภาพ การเลือกรูปที่ใช้ในการทำ Resume ภาษาอังกฤษก็มีความสำคัญ ควรเลือกรูปที่เห็นใบหน้าชัดเจน ไม่สวมหมวกหรือแว่นดำ แสงในภาพสวย ดูอบอุ่น และเป็นมิตร สามารถยิ้มหรืออมยิ้มได้ ควรใช้รูปที่ใส่ชุดที่ค่อนข้างเป็นทางการ โดยเฉพาะหากสมัครในตำแหน่งผู้บริหาร 7. ใช้ AI ในการช่วยทำ Resume ภาษาอังกฤษหากว่าใครไม่มั่นใจในภาษาอังกฤษ หรือต้องการตรวจสอบองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อความมั่นใจ แนะนำให้ใช้ AI ในการช่วยทำ Resume ภาษาอังกฤษได้เช่นเดียวกัน Resumaticเป็น AI ช่วยเขียน Resume ภาษาอังกฤษแบบเน้นผลลัพธ์ หากว่าใครมี Resume อยู่แล้ว สามารถใช้ AI ตัวนี้ให้คะแนนการเขียน Resume และแนะนำการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ MajorGen เป็นอีกหนึ่ง AI ช่วยสร้าง Resume ที่หลาย ๆ คนเลือกใช้ โดยสามารถอัปโหลด Resume และใส่ข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่อสร้าง Resume ที่โดดเด่นเหนือผู้สมัครคนอื่น ๆ ใครที่กำลังมองหาโอกาสและความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน สามารถเช็กตำแหน่งงานหรือฝาก Resume กับ Manpower ได้เลย เราอัปเดตตำแหน่งงานใหม่ทุกวัน หางานคุณภาพที่ตรงใจ ต้อง Manpower เว็บสมัครงานที่จัดหาคน-จัดหางานชั้นนำระดับโลก ด้วยประสบการณ์กว่า 70 ปีข้อมูลอ้างอิง10 เว็บ AI ช่วยเขียน Resume แถมช่วยซ้อมสัมภาษณ์ มาเตรียมตัวกัน. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 จาก https://www.designil.com/10-ai-job-search/ How to Write a Resume (Examples & Guide). สืบค้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 จาก https://www.myperfectresume.com/career-center/resumes/how-to/write รวม 9 เว็บไซต์ช่วยทำ Resume ฟรี!. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 จาก https://contentshifu.com/blog/9-free-online-resume-builder
-
สร้างกลยุทธ์ที่เน้น "คน" เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทุ่นแรงด้วย AI
16 July 2024 ปัญญาประดิษฐ์ (AI) บุกเข้าสู่โลกการทำงาน: เทรนด์สำคัญที่คุณต้องรู้แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเผยผลวิจัย ยืนยันกระแสการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในองค์กร ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน บริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลกที่มีพนักงานเกิน 5,000 คน มากกว่าครึ่ง (52%) ได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาปรับใช้ และคาดการณ์ว่าการใช้ AI จะยิ่งขยายตัว โดยมีบริษัทที่ยังไม่ใช้ AI ถึง 33% วางแผนที่จะนำเครื่องมือ AI มาใช้ภายใน 3 ปีข้างหน้ารายงานฉบับนี้ เน้นเทรนด์สำคัญของ AI ที่ส่งผลต่ออนาคตของการทำงาน ดังนี้:ผลกระทบเชิงบวก: นายจ้างส่วนใหญ่ มองว่า AI จะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจ รวมถึงการฝึกอบรมพนักงาน การสรรหาบุคลากร การมีส่วนร่วมของพนักงาน และความหลากหลายศักยภาพที่พัฒนาขึ้น: ภายในปี 2030 คาดว่า AI จะพัฒนาจากการใช้งานเฉพาะด้าน ไปสู่ระบบอัจฉริยะที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น มีความสามารถรับผิดชอบที่หลากหลายการกระจายโอกาส: เครื่องมือ AI ใหม่ ๆ จะช่วยกระจายอำนาจ การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานอย่างเป็นกลาง การพัฒนาทักษะเฉพาะบุคคล และผู้ช่วยอัจฉริยะความคิดเห็นที่หลากหลาย: แม้พนักงานส่วนใหญ่จะตื่นเต้นกับศักยภาพของ AI แต่ระดับความคิดเห็นเชิงบวกอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและระดับตำแหน่ง โดยพนักงานประจำในยุโรปมีความกังวลมากกว่าอย่างไรก็ตาม องค์กรที่ต้องการนำกลยุทธ์ AI ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องรับมือกับความท้าทายด้านต้นทุน ทักษะของพนักงาน และกฎระเบียบ/ความเป็นส่วนตัว การสร้างแนวทางที่ให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นอันดับแรก จะเป็นหัวใจสำคัญในการใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อยกระดับผลผลิตและสร้างมูลค่าทางธุรกิจกรุณากรอกข้อมูลด้านล่าง เพื่อดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็ม
-
สมรสเท่าเทียมผ่านแล้ว! ประวัติศาสตร์บทใหม่ของสังคมไทย
18 June 2024 สิ้นสุดการรอคอยกว่า 12 ปี นับตั้งแต่เริ่มมีการเสนอร่างกฎหมายฉบับแรก วันนี้ 18 มิถุนายน 2567 วุฒิสภาไทย มีมติโหวตผ่านร่าง พ.ร.บ. คู่สมรสเท่าเทียม ด้วยคะแนน 130 เสียง ไม่เห็นด้วย 4 เสียง และงดออกเสียง 18 เสียง ส่งผลให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านทั้ง สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาก้าวสำคัญนี้ ทำให้ไทยกลายเป็นประเทศแรกใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศที่ 38 ของโลก ที่รองรับการสมรสของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) อย่างถูกกฎหมายแมนพาวเวอร์กรุ๊ปขอแสดงความยินดีกับคู่รักชาว LGBTQ+ ทุกท่าน รวมถึง ขอบพระคุณตัวแทนทุกท่าน ที่ช่วยกันผลักดันกฎหมายนี้ให้สำเร็จกฎหมายสมรสเท่าเทียม นี้เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่ สังคมที่เท่าเทียมเปิดโอกาส ให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างถูกกฎหมาย สิทธิ์และความคุ้มครอง เช่นเดียวกับคู่รักชายหญิงเรา แมนพาวเวอร์กรุ๊ปมุ่งมั่นที่จะสนับสนุน ความหลากหลายทางเพศสร้างโอกาส และ ส่งเสริมความเท่าเทียม ในสถานที่ทำงาน เราเชื่อว่า ทุกคนควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าเพศสภาพใดเปิดตัวเอง… เปิดใจ… เปิดพื้นที่ให้ทุกเพศวิถีแสดงออกได้อย่างเท่าเทียม
-
ผลสำรวจ "แนวโน้มการจ้างงาน" ไตรมาสที่ 3/2567
17 June 2024 ภาพรวมการจ้างงานทั่วโลกไตรมาส 3 ปี 2024 ยังทรงตัว แต่ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วผลสำรวจดัชนีความต้องการแรงงาน (Net Employment Outlook) ประจำไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 22% เท่ากับไตรมาส 2 ปี 2024 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2023อัตราการรับสมัครแรงงานสูงสุด อยู่ใน อเมริกาเหนือ (27%) ตามมาด้วย เอเชียแปซิฟิก (23%)อเมริกากลางและใต้ (22%) และ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (18%)อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการรับสมัครแรงงานสูง ได้แก่ ไอที (29%) ตามมาด้วย การเงินและอสังหาริมทรัพย์ (27%) และ สาธารณสุขและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (27%)กว่าครึ่ง (55%) ของนายจ้าง คาดว่าจะ เพิ่มจำนวนพนักงาน เนื่องจาก ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ภายในสองปีข้างหน้า เกือบครึ่ง (48%) ของบริษัท ระบุว่า ได้นำ AI มาใช้ รวมถึง ระบบสนทนาโต้ตอบอัตโนมัติ (generative conversational AI)ประเด็นสำคัญดัชนีความต้องการแรงงาน (Net Employment Outlook) ประจำไตรมาส 3 ปี 2024 อยู่ที่ 22% เท่ากับไตรมาส 2 ปี 2024 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2023อัตราการรับสมัครแรงงานสูงสุด อยู่ใน อเมริกาเหนือ (27%) ตามมาด้วย เอเชียแปซิฟิก (23%) อเมริกากลางและใต้ (22%) และ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (18%)อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการรับสมัครแรงงานสูง ได้แก่ ไอที (29%) ตามมาด้วย การเงินและอสังหาริมทรัพย์ (27%) และ สาธารณสุขและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (27%)ในการสำรวจดัชนีความต้องการแรงงาน หรืออัตราแนวโน้มการจ้างงานจากแมนพาวเวอร์กรุ๊ป (ManpowerGroup Employment Outlook Survey) ฉบับล่าสุด มีการสำรวจความคิดเห็นของนายจ้างกว่า 40,374 ราย จาก 42 ประเทศ เกี่ยวกับแผนการรับสมัครแรงงานในไตรมาส 3 รวมถึงการนำ AI มาใช้ และ ความท้าทายที่พบเจอกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มIf you are a human, ignore this field* * * * Full name* * * * E-mail Address* * * * Company Name
-
“แมนพาวเวอร์” พลัสพลังองค์กร ด้วยพลัง “ความหลากหลาย”
5 June 2024 ไม่ใช่แค่กลุ่ม LGBTQ+ เท่านั้น แต่ความหลากหลายในที่นี้มีทั้งอายุ เชื้อชาติ การศึกษา ที่แมนพาวเวอร์ให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียมและไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลังวันที่ 3 มิถุนายน 2567 คุณวณิชชา วิริยะกิจพัฒนา ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาองค์กร แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ผู้นำธุรกิจด้านให้บริการจัดหาคน-จัดหางานระดับโลก ได้ให้เกียรติขึ้นกล่าวในฟอรัมงาน BANGKOK PRIDE FORUM 2024 โดยทาง The Betterได้จัดในฟอรัมที่ชื่อว่า “LGBTQIAN+ เข้าใจพลังของความหลากหลายที่มีในทุกคน” ซึ่งหัวข้อที่คุณวณิชชาได้พูดคือ “พลัสพลังองค์กร ด้วยพลัง LGBTQIAN+” เกี่ยวกับการยอมรับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศและเข้าใจตัวตนของพวกเขาจะลบล้างข้อจำกัดที่เกิดจากการเหมารวมลักษณะทางเพศ รวมถึงการขจัดการเหมารวมจะปลดปล่อยให้ทุกคนบรรลุศักยภาพได้อย่างเต็มที่โดยปราศจากข้อจำกัดอันแบ่งแยกของสังคมโดยคุณวณิชชา ได้เกริ่นให้ทุกคนทำความเข้าใจเกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยว่า “เนื่องจาก แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เป็นองค์กรที่จัดหาคนเข้าตลาดแรงงาน ซึ่งในแต่ละปีเราสามารถจัดหาคนเข้าตลาดแรงงานได้กว่า 20,000 คน ดังนั้นเราสามารถพูดได้ว่าตลาดแรงงานวันนี้มีความหลากหลายเยอะขึ้นมาก ความหลากหลายในที่นี้ไม่ได้มีเพียงแค่ทางด้านเพศเท่านั้นแต่ยังรวมถึงเชื้อชาติ ศาสนา การศึกษาด้วย และยังรวมถึงบุคลิกภาพอีกด้วย”คุณวณิชชา กล่าวต่อว่า “แม้ในปัจจุบันสังคมไทยมีการเปิดรับ และเปิดกว้างมากขึ้นก็จริง แต่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ที่มาของความเหลื่อมล้ำหรือความไม่เท่าเทียมมาจากหลายปัจจัยมาก อย่างแรกมาจากบรรทัดฐานของเรา ยกตัวอย่างเช่นเราเรียนรู้และเรารับรู้มาว่าตำแหน่ง หรือหน้าที่นี้จะต้องเป็นคนประเภทไหนเท่านั้นที่จะมาทำงาน ปัจจัยอย่างที่สองเกิดจากอคติ เพราะความเหลื่อมล้ำมีอยู่ทุกภาคส่วน เช่น หากเราอยากได้วิศวกรเราจะคิดถึงผู้ชาย หากอยากได้แนวบริการเราก็อยากได้ผู้หญิง หรือแม้กระทั่งว่าตอนเราไปสัมภาษณ์งาน ถ้าเราแต่งตัวเป็นตัวเองมากเราก็จะถูกตัดสินได้ การอคติบางอย่างมันเกิดขึ้นในตลาดแรงงานไม่ได้แค่ LGBTQIAN+ เท่านั้น“ความเหลื่อมล้ำที่คุณวณิชชากล่าวข้างต้นองค์กรสามารถปรับตัวได้โดยคุณวณิชชาแนะนำว่า "ก่อนที่จะพูดถึงองค์กร ขวัญอยากให้ทุกคนมองมาที่ตัวเองก่อน เริ่มจากตัวเราเองก่อน ตัวเราต้องรับรู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาธรรมชาติเกิดขึ้นกับใครก็ได้มันไม่ใช่เรื่องผิดแปลกเลย สิ่งสำคัญคือเราต้องเคารพตัวเอง เคารพสิ่งที่เราเป็น และเราต้องเคารพคนอื่นด้วย ในเมื่อเราอยากใช้สิทธิ์ของเรา เราต้องเคารพสิทธิ์คนอื่น และเมื่อเราเคารพตัวเองแล้วเราต้องมีความมั่นใจในตัวเองด้วยว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม และเมื่อไหร่ไปสู่ความมั่นใจแล้ว เราไม่โอ้อวด แสดงออกอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนและถูกกาลเทศะ”คุณวณิชชาแนะนำจะต้องทำอย่างไรให้คนที่มีความหลากหลายได้รับการยอมรับมากขึ้น คุณวณิชชาแนะว่า "ให้มองว่าเราได้รับการยอมรับอยู่แล้วค่ะ แต่สิ่งสำคัญคือเรารับรู้มันอย่างไรโดยเริ่มต้นที่ตัวเรา ต่อมาคือสถาบันครอบครัว หน่วยที่ใกล้ชิดกับบุคคลมากที่สุดต้องเปิดใจและเข้าใจยอมรับกันและกัน ขวัญเองโชคดีนะคะที่ครอบครัวเข้าใจในสิ่งที่เราเป็นเรา มองสิ่งที่เราเป็น ครอบครัวของแฟนก็เข้าใจเช่นกัน ดังนั้นควรจะคิดว่าปัจจัยที่สองที่สำคัญคือสถาบันครอบครัวที่ทำให้เรายอมรับตัวเองและมีความมั่นใจมากขึ้น""ปัจจัยที่สามปัจจัยขององค์กรเรา ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมงาน ในฐานะที่เป็นหัวหน้างาน เราจะต้องมีความเปิดกว้างในเรื่องนี้ดูที่ความสามารถของเขาเรา ไม่ได้ดูที่ว่าคนคนนี้มีพฤติกรรมที่ดูเหมือนจะก้าวร้าวแบบนี้โตไม่ได้หรอก อันนี้เรียกว่าอคติส่วนบุคคล หากเราจะสนับสนุนเรื่องความเหลื่อมล้ำให้ลดลง ปัจจัยนี้ ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญ เริ่มจากที่คุณที่เป็นเพื่อนร่วมงานคุณ เหยียดเพศหรือไม่ ถ้าวันนี้จะต้องมีการประเมินผลงาน ในฐานะหัวหน้างานคุณจะประเมินเขาจากผลงานหรือประเมินจากอคติส่วนบุคคล ดังนั้นหัวหน้างานจึงเป็นปัจจัยหลักในการทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในองค์กร" คุณวณิชชากล่าวคุณวณิชชาได้กล่าวถึงในมุมเรื่องการแสดงออก ที่จะต้องมองย้อนกลับไปที่ตัวเราต้องเคารพตัวเอง และที่สำคัญเราต้องเคารพสถานที่ด้วย การแสดงออกของคุณย่อมได้รับการสนับสนุนอยู่แล้ว แต่การแสดงออกของคุณต้องไม่ละเมิดสิทธิคนอื่นต้องมีความเคารพและมีกาลเทศะ มีความเป็นมืออาชีพ ไม่จำเป็นว่าจะต้องแสดงออกทางเรื่องการแต่งกาย แต่การแสดงออกทางด้านความคิดเห็นก็มีผลเช่นเดียวกันแมนพาวเวอร์ เราส่งเสริมให้คนไม่ว่าจะเลเวลอะไร อายุงานเท่าไหร่ เพศอะไร หรือพูดภาษาอะไร เราส่งเสริมให้เขาแสดงความคิดเห็น เพราะการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างและหลากหลายจะทำให้เกิดนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ ความคิดใหม่ๆ ส่งเสริมพลังบวกซึ่งกันและกันความมั่นใจมาจากข้างในเราและออกมาที่การแสดงออกของเราไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายหรือที่ความคิดทั้งหมดมันส่งเสริมให้ผลงานของเราโดยรวมดีขึ้น คุณวณิชชายังได้กล่าวถึงการสนับสนุนจากองค์กรที่เป็นเชิงนโยบายว่า "การสนับสนุนขององค์กรคือ สนับสนุนเรื่องพื้นฐาน เช่น นโยบาย ปัจจัยขั้นแรกเวลาเราจะคัดเลือกคนเราไม่ได้เลือกปฏิบัติไม่ได้ดูที่สถาบันการศึกษา หรืออายุ เพศอะไรในฐานะองค์กรจะไม่เลือกปฏิบัติ สองเมื่อเขาเข้ามาแล้วเราก็ไม่เลือกปฏิบัติเราไม่ละเลยทุกๆ คน อย่างเช่นในแมนพาวเวอร์เมื่อเข้ามาปฐมนิเทศแล้ว การปฐมนิเทศจะมีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ แม้ในรอบนั้นจะมีคนต่างชาติแค่คนเดียว ต้อนรับทุกคนอย่างอบอุ่น บ่มเพาะให้วัฒนธรรมองค์กร“"นโยบายด้านสวัสดิการ เรามีประกันกลุ่ม เมื่อก่อนหากเราต้องทำประกันให้กับคู่ของเราที่เป็นสามีภรรยาเท่านั้น แต่องค์กรของเราสามารถขับเคลื่อนให้เกิดความเท่าเทียมกันตรงนี้ได้ โดยที่เราคุยกับบริษัทประกันว่าเราสามารถการันตีได้ว่าพนักงานคนนี้และคู่ของเขาเป็นคู่กันจริงๆ เป็นสิ่งที่ของเราเราช่วยผลักดันกันตรงนี้ได้เช่นกัน” คุณวณิชชากล่าวเมื่อมีการผลักดันทั้งเรื่องของกฎหมาย ผลักดันในด้านของสังคม มีนโยบายการต่อต้านความไม่เป็นธรรม ภาคเอกชนเราทำอย่างไรกับพนักงานเราได้บ้างเรามีช่องทาง ที่จะให้รายงานความไม่เป็นธรรมที่ส่วนกลางได้พนักงานทุกคนสามารถรายงาน เหตุการณ์ที่ไม่เป็นธรรมได้ทั้งผู้ที่ถูกกระทำและผู้ที่ถูกกระทำหรือผู้ที่เห็นเหตุการณ์นั่นเองสามารถรายงานความเหลื่อมล้ำเพื่อให้ทางบริษัทแม่เข้ามาตรวจสอบได้ เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันคุณวณิชชากล่าวถึงความหลากหลายมีส่วนสำคัญต่อองค์กร “ในความเป็นจริงแล้วทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างแน่นอน พวกเราทุกคนเปรียบเสมือนเป็นมดที่ต้องช่วยกัน เหรียญมีสองด้านถ้าเรามองด้านหน้าแสดงว่ามันมีแต่หนึ่งเช่นกันนั่นหมายความว่าในกลุ่มหนึ่งมีคนที่หลากหลายกัน เมื่อเราประชุมแล้วเรารู้สึกว่าเราไม่สนใจความคิดของคนกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มของเรา เราตัดความคิดนั้นทิ้งแทนที่จะได้ความคิดเห็น 10 คนคิดคุณได้แค่ความคิดของกลุ่มคุณเอง แทนที่จะได้ต่อยอดสิ่งใหม่อีก 10 ไอเดีย เราก็ได้แค่ไม่กี่ไอเดียเราไม่สามารถนำไปพัฒนาอะไรใหม่ใหม่ได้มากกว่าเดิม”“องค์กรที่ยังมีความเหลื่อมล้ำ หากเป็นตัวขวัญเองที่ต้องอยู่ในองค์กรดังกล่าวคงจะอยู่ไม่ได้ เมื่อเรามีความกังวล มีความไม่สบายใจ ประสิทภาพการทำงานก็ย่อมไม่ดี แน่นอนว่าจำเป็นต้องออกจากองค์กรนั้นๆ ออกไปเจริญเติบโตที่อื่น ทั้งที่จริงเราอาจจะมีประโยชน์ต่อองค์กรนั้นก็ได้ เราชาว LGBTQ+ เรามีคุณค่าในตัวเอง เรารู้ความสามารถของเราเอง หากองค์กรมีความเหลื่อมล้ำก็จะเสียเราไป เพราะทุกคนในองค์กรมีความสำคัญเท่าเทียมกันหมด ขอเพียงแค่คุณเคารพตัวเอง เคารพผู้อื่นและมีความมั่นใจในการแสดงออกในความคิดเห็นของคุณ แมนพาวเวอร์ มีมุม career counseling เพื่อปรึกษาอาชีพการงาน ถามเรื่องอื่นๆ ในชีวิต รับฟังคนทุกคน มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนบริษัทควบคุมคนหลากหลายมาแลกเปลี่ยนความคิดกันสักเดือนละครั้ง“เมื่อพูดถึงการรับสมัครงานในปัจจุบันคุณวณิชชาได้กล่าวว่า "ปัจจุบันในการสมัครงานเราก็ไม่ได้ระบุเพศ อายุ เราจะจะเขียนว่าเพศไม่จำกัด อายุไม่จำกัด การศึกษา เวลาสัมภาษณ์ขอให้เป็นตัวของเราเอง แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ให้เป็นตัวเราจริงๆ ไม่ใช่ตัวเราอย่างที่คนอื่นให้เป็น ไม่ต้องแสดงความมั่นใจจนเกินไปเพราะบางครั้งไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น เราแสดงในสิ่งที่เราเป็นจริงๆ และเราเคารพตัวเอง เขาถามหาสิ่งที่คุณประสบความสำเร็จในอดีตส่วนบุคลิกต่างๆ ที่มันไม่เข้ากันเราสามารถที่จะปรับจูนกันได้" คุณวณิชชากล่าวปิดท้ายว่า ”สุดท้ายนี้ที่ขวัญอยากจะฝากคือ เคารพกันและกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถัดมาคืออย่าพึ่งท้อแม้ว่าเราจะรู้สึกว่าเราให้เกียรติเขาไปแล้วแต่ไม่เห็นมีใครจะให้เกียรติเรากลับเลย เราก็อย่าพึ่งท้อใจ สังคมเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น คนเริ่มทำความเข้าใจมากยิ่งขึ้น เราจำเป็นจะต้องให้เกียรติคนอื่นเหมือนที่เราเคยให้เกียรติมา เราควรเปิดใจและให้โอกาสกับตัวเองกล้าเป็นตัวเอง กล้าที่จะให้กำลังใจตัวเองในการที่จะเดินไปในชีวิตของตัวเอง”Credit: The Better News
-
ระวัง! พนักงานลาออกบ่อย เสี่ยงทำองค์กรเดินถอยหลัง มีสาเหตุมาจากอะไร แก้อย่างไรได้บ้าง?
9 May 2024 “พนักงานลาออก” ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกองค์กร ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในหน้าที่การงานใหม่ ปัญหาสุขภาพส่วนตัว และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่หากมีพนักงานลาออกบ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าขององค์กร หรือผู้บริหารจำเป็นที่จะต้องพิจารณาหาสาเหตุ เพราะการที่พนักงานลาออกบ่อย สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาบางอย่างภายในองค์กร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อองค์กรได้ในระยะยาวในบทความนี้ Manpower จะพามาทำความเข้าใจผลกระทบของการที่พนักงานลาออกบ่อย พร้อมสาเหตุและแนวทางการแก้ปัญหาผลกระทบจากการที่พนักงานลาออกบ่อยการที่พนักงานลาออกบ่อย หรือลาออกพร้อมกันเป็นจำนวนมากอาจส่งผลกระทบต่อองค์กรในด้านต่าง ๆ ดังนี้1.ผลลัพธ์และคุณภาพของงานลดลงเมื่อพนักงานลาออกบ่อย การส่งต่อความรับผิดชอบ และรายละเอียดของงานจะมีประสิทธิภาพลดลง ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ และคุณภาพของงานลดลงตามไปด้วย ส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้า รวมถึงสะท้อนภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในด้านลบขององค์กร2.ส่งผลถึงผลประกอบการขององค์กรลูกค้ามีแนวโน้มสูงที่จะยกเลิก หรือปฏิเสธการต่อสัญญา หากลูกค้ารู้สึกไม่ประทับใจต่อผลลัพธ์ และคุณภาพงานขององค์กร ซึ่งทำรายได้ขององค์กรลดลงตามไปด้วย3.มีต้นทุนมากขึ้นในการสรรหาพนักงานใหม่การสรรหาพนักงานหาคนทำงานว่าจ้าง และอบรมพนักงานใหม่มีต้นทุนที่องค์กรจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นค่าลงโฆษณาในเว็บไซต์หางาน ค่าใช้จ่ายในการสอบหรือประเมิน (บางกรณี) และค่าจัดฝึกอบรมพนักงานใหม่ เป็นต้นหากพนักงานยังลาออกบ่อยอยู่เรื่อย ๆ ท้ายที่สุดจะกระทบต่อผลประกอบการ และสุขภาพทางการเงินขององค์กรในระยะยาวสาเหตุที่พนักงานลาออกบ่อย มีอะไรบ้างการที่พนักงานลาออกบ่อยสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อย คือ1.หัวหน้า หรือเพื่อนร่วมงาน Toxicหากหัวหน้า และเพื่อนร่วมงานบางคนมีพฤติกรรมในแง่ลบอาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ ความเครียด และปัญหาสุขภาพจิตของพนักงานคนอื่น ๆ ในองค์กร อาทิ หัวหน้าใช้อารมณ์ในการสื่อสาร เพื่อนร่วมงานไม่ช่วยทำงาน การนินทา การพูดจาเสียดสี และอื่น ๆ ซึ่งพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมเหล่านี้มักตัดสินใจลาออกในท้ายที่สุด2.พนักงานรู้สึกไม่มีคุณค่าต่อองค์กรพนักงานหลายคนมักประสบกับความรู้สึกไม่มีคุณค่าต่อองค์กร โดยเฉพาะในกรณีที่พนักงานตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ แต่ไม่เคยได้รับรางวัล การปรับขึ้นเงินเดือน หรือแม้กระทั่งคำชม3.วัฒนธรรมองค์กรไม่ตอบโจทย์วัฒนธรรมองค์กรหลายรูปแบบส่งผลกระทบต่อพนักงานในด้านลบ อาทิ วัฒนธรรมองค์กรแบบครอบครัวที่มุ่งเน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน วัฒนธรรมอาวุโสที่เน้นการเคารพบุคคลจากอายุ และวัฒนธรรมการใช้เส้นสายที่เน้นการเอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มผู้ที่มีอำนาจ4.พนักงานรู้สึกขาดที่พึ่งพิงการที่พนักงานรู้สึกขาดที่พึ่งพิงมักมีสาเหตุมาจากหัวหน้างาน หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลไม่สามารถสอน ให้คำปรึกษา หรือแนะนำแนวทางในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ ส่งผลให้พนักงานไม่สามารถแก้ปัญหาในการทำงาน บริหารความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และจัดการความเครียดของตนเองได้สาเหตุเหล่านี้มักส่งผลกระทบต่ออารมณ์ ความรู้สึก และความเครียดของพนักงาน ซึ่งสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร่างกายได้ในที่สุด พนักงานหลายคนจึงเลือกแก้ปัญหาด้วยการลาออก โดยเฉพาะพนักงานที่มีความสามารถสูง เพราะเป็นกลุ่มที่มีความต้องการในตลาดแรงงานสูงแนวทางการแก้ปัญหาพนักงานลาออกบ่อยอย่างไรก็ตาม ปัญหาพนักงานลาออกบ่อยเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ โดยวิธีแก้ปัญหาพนักงานลาออกบ่อย ได้แก่1.ปรับปรุงการบริหารงานของแต่ละแผนกอย่างเหมาะสมเจ้าขององค์กร หรือผู้บริหารจำเป็นที่จะต้องสำรวจการบริหารงานของแต่ละแผนก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนงานที่พนักงานแต่ละคนได้รับมอบหมาย และความยาก-ง่ายของงานนั้น ๆ โดยควรแนะนำ หรือกำหนดนโยบายให้หัวหน้าแผนกจัดสรรความรับผิดชอบของพนักงานแต่ละคนอย่างเหมาะสม2.ส่งเสริมการเรียนรู้ และการเติบโตในสายอาชีพองค์กรยุคใหม่หลายแห่งมีนโยบายส่งเสริมการเรียนรู้ และการเติบโตในสายอาชีพให้กับพนักงาน เพื่อสะท้อนว่า องค์กรให้ความสำคัญกับพนักงาน อาทิ สวัสดิการหนังสือฟรีเดือนละ 1 เล่ม การจัดอบรมเฉพาะด้าน และการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง หรือเลื่อนขั้นตามความสามารถ3.เติมเต็มความเชื่อมั่น และพลังใจให้พนักงานองค์กรสามารถเติมเต็มความเชื่อมั่น และพลังใจให้พนักงานได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการลงมือแก้ปัญหาภายในอย่างรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส4.พูดคุย และให้คำแนะนำกับพนักงานอย่างเหมาะสมความเครียดจากการทำงานเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกินขึ้นได้ โดยการพูดคุย และให้คำแนะนำกับพนักงานอย่างเหมาะสมจะช่วยให้พนักงานจัดการความเครียดได้ดีขึ้น และลดโอกาสเกิดความรู้สึกไร้ที่พึ่งพิงในหมู่พนักงาน5.ปรับปรุงคุณภาพการสรรหาบุคลากรกระบวนการสรรหาบุคลากรที่ไม่มีคุณภาพสามารถส่งผลกระทบให้พนักงานลาออกบ่อยได้เช่นกัน โดยการสรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพควรคำนึงถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ของผู้สมัครอย่างรอบด้าน ทั้งความสามารถในการทำงาน ทัศนคติ และแนวคิดที่สอดคล้องกับองค์กร เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน และไม่ก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมการทำงานในด้านลบอย่างไรก็ตาม การสรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพถือเป็นเรื่องท้าทายของหลายองค์กร โดยเฉพาะองค์กรขนาดเล็กที่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลมืออาชีพ เจ้าขององค์กร หรือผู้บริหารมักทำการสรรหาบุคลากรด้วยตนเอง ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการใช้บริการสรรหาบุคลากรจากบริษัท HRที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันปัญหาพนักงานลาออกบ่อยตั้งแต่เนิ่นๆแนะนำบริการสรรหาบุคลากรทุกระดับจาก Manpowerบริการสรรหาพนักงานประจำทุกระดับจาก Manpower ตอบโจทย์การสรรหาพนักงานประจำในทุกระดับ รวมถึงบริการ HR แบบครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า "คน" หรือ "Manpower" คือ กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกธุรกิจ ด้วยประสบการณ์ในการสรรหาบุคลากรตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับบริหารให้เข้ากับองค์กรชั้นนำของเรากว่า 20 ปีในประเทศไทย เพื่อยกระดับตลาดแรงงาน พัฒนาศักยภาพพนักงานและธุรกิจสู่ความสำเร็จไปพร้อมกันติดต่อเราLINE OA: @manpowergroup_thCall Center: 02-171-2345E-mail: [email protected]
-
Burnout Syndrome คืออะไร? ภาวะหมดไฟในการทำงาน มีสาเหตุและวิธีแก้อย่างไรบ้าง
9 May 2024 หนึ่งในความท้าทายที่องค์กรยุคใหม่ทั่วโลกกำลังเผชิญ คือ Burnout Syndrome หรือภาวะหมดไฟในการทำงานของพนักงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อองค์กรในหลายด้าน ในบทความนี้ Manpower จะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับภาวะ Burnout พร้อมแนะนำแนวทางสำหรับองค์กร เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดภาวะ Burnout ของพนักงานBurnout คืออะไร?Burnout คือ ภาวะหมดไฟในการทำงาน หรือหมดไฟในการใช้ชีวิต ซึ่งแม้ภาวะนี้จะไม่ถือเป็นโรค แต่เป็นกลุ่มอาการที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายได้ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้บัญญัติเอาไว้ว่า เบิร์นเอ้าท์ คือ กลุ่มอาการเหนื่อยหน่ายทางจิตใจ อันมีผลมาจากความเครียดในที่ทำงานที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมสาเหตุของภาวะหมดไฟในการทำงานหรือ Burnoutโดยสาเหตุหลักที่พบว่า ทำให้เกิดภาวะ Burnout ได้แก่1.ปริมาณงานที่มากเกินไปอย่างไม่สมเหตุสมผลพนักงานถูกมอบหมายให้ทำงานเพิ่มเติม ส่งผลให้ปริมาณงานมากเกินไป และไม่สามารถจัดการงานได้ทันกำหนด 2.วัฒนธรรมองค์กรไม่เป็นมิตรพนักงานได้รับผลกระทบจากวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เป็นมิตร ไม่ว่าจะเป็นการเหยียดเพศ นินทา การเมือง และการบูลลี่3.ขาดการสนับสนุนจากหัวหน้างานพนักงานไม่ได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้างานอย่างเหมาะสม ทำให้รู้สึกขาดที่ปรึกษาและพึ่งพิง4.การบริหารงานแบบ Micro ManagementMicro Management คือ การบริหารงานที่มุ่งเน้นไปที่การควบคุม หรือการดูแลรายละเอียดของงานอย่างมากจนเกินไป จนทำให้พนักงานรู้สึกไม่ได้รับความไว้วางใจ หรือเกิดความไม่มั่นใจในตนเอง5.เงินเดือน หรือผลตอบแทนที่ไม่ยุติธรรมเงินเดือน หรือผลตอบแทนที่ไม่ยุติธรรมเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พนักงานรู้สึกไร้คุณค่าในที่ทำงาน โดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง ทั้งงานหลักและงานที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติมสาเหตุทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้ภาวะ Burnout จะเกิดขึ้นที่ตัวพนักงาน แต่องค์กรมีบทบาทสำคัญที่ช่วยป้องกัน และลดโอกาสเกิดภาวะ Burnout ของพนักงานได้ผลกระทบของภาวะ Burnout ต่อพนักงานภาวะ Burnout ส่งผลกระทบต่อพนักงานโดยตรง ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ยกตัวอย่างผลกระทบ ดังนี้1.ความรู้สึกเหนื่อยล้าทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นอาการอ่อนเพลีย ไม่กระตือรือร้นในการทำงาน หมดกำลังใจ ไปจนถึงความรู้สึกด้านลบต่อตนเองและผู้อื่น โดยอาจนำไปสู่ปัญหาด้านพฤติกรรมและสุขภาพจิตได้ในระยะยาว2.ปัญหาด้านการนอนหลับ และรับประทานอาหารโดยภาวะ Burnout มักก่อให้เกิดปัญหาด้านการนอนหลับและการรับประทานอาหาร ซึ่งอาจทำให้นอนหลับมากหรือน้อยเกินไป และรับประทานอาหารมากหรือน้อยเกินไป อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการใช้สารเสพติดอย่างบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอื่น ๆ3.ปัญหาด้านสุขภาพ ภาวะ Burnout ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภูมิคุ้มกันต่ำลง ปวดกล้ามเนื้อ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และอื่น ๆโดยการศึกษาของThe Business Journalพบว่า พนักงานกว่า 1 ใน 3 ตัดสินใจลาออก เนื่องจากประสบกับภาวะ Burnoutผลกระทบของภาวะ Burnout ต่อองค์กรเมื่อพนักงานเกิดภาวะ Burnout สามารถส่งผลกระทบต่อองค์กรได้ในหลายมิติ ยกตัวอย่างผลกระทบ ดังนี้1.รายได้ลดลงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานที่ลดลงจะส่งผลให้คุณภาพของงานลดลงตามไปด้วย โดยอาจทำให้ลูกค้ายกเลิกสัญญา และรายได้ลดลง2.สูญเสียบุคลากรที่มีความสามารถบุคลากรที่มีความสามารถมักมองหาองค์กรที่สามารถตอบโจทย์ตนเองได้ ทั้งด้านการเติบโตในหน้าที่การงาน สุขภาพร่างกายและจิตใจ ดังนั้นบุคลากรกลุ่มนี้จึงมีแนวโน้มลาออกสูงเมื่อประสบกับภาวะ Burnout ส่งผลให้องค์กรสูญเสียบุคลากรที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร3.งบประมาณเพิ่มขึ้น ในกรณีที่พนักงานลาออกเป็นจำนวนมาก หรือความถี่ในการลาออกสูง องค์กรมีความจำเป็นที่จะต้องลงทุนเพิ่ม ทั้งในกระบวนการสรรหา เทรนนิ่ง และการเสนอฐานเงินเดือนที่สูงขึ้นนอกจากนี้ องค์กรยังได้รับผลกระทบอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาว อาทิ การสูญเสียภาพลักษณ์ในมุมมองของลูกค้า ชื่อเสียงที่ไม่ดึงดูดบุคลากรคุณภาพ และประสิทธิภาพในการแข่งขันกับคู่แข่งที่ลดลงวิธีแก้ Burnout Syndrome มีอะไรบ้างแล้ว Burnout แก้ยังไงได้บ้าง? โดยองค์กรสามารถลดกระทบจากพนักงาน Burnout ได้ ด้วยการป้องกันโอกาสเกิดภาวะ Burnout ตั้งแต่เนิ่น ๆ ดังนี้1.การจัดการปริมาณ และความยาก-ง่ายของงานอย่างเหมาะสมวิธีการนี้จะช่วยไม่ให้พนักงานคนใดคนหนึ่งทำงานมากหรือน้อยเกินไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดการงาน และมุมมองต่อคุณค่าของตนเอง2.ปรับปรุงคุณภาพการบริหารงานของหัวหน้าทีม หรือหัวหน้าแผนกการบริหารงานอย่างมีคุณภาพจะช่วยให้สมาชิกในทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำให้เกิดสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างหัวหน้าและลูกน้อง 3.สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตร พื้นที่การทำงานควรปราศจากการบูลลี่ พูดจาเสียดสี เหยียดเพศ และพฤติกรรมอื่นๆ ที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็นอย่างเหมาะสม เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่า ความคิดเห็นของตนเองมีคุณค่าและถูกรับฟัง4.กำหนดนโยบายเพิ่มเงินเดือน หรือรางวัลตอบแทนที่เหมาะสมและยุติธรรมนโยบายที่ชัดเจนและยุติธรรมจะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่า ความทุ่มเทในหน้าที่การงานถูกมองเห็น และมีคุณค่า5.ส่งเสริมนโยบายด้านสุขภาพ สุขภาพที่แข็งแรงช่วยลดโอกาสเกิดภาวะ Burnout ได้ นอกจากนี้ นโยบายส่งเสริมสุขภาพขององค์กร เช่น ส่วนลดฟิตเนส อาหารกลางวันเพื่อสุขภาพ และอื่นๆ ยังชี้ให้พนักงานเห็นถึงความใส่ใจ และคุณภาพชีวิตที่ดีกุญแจสำคัญที่ช่วยให้พนักงานมีความเป็นอยู่ที่ดี คือ การบริหารองค์กรอย่างมีคุณภาพ โดยถือเป็นหน้าที่ของผู้บริหาร ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะ Burnout ของพนักงาน และเป็นผลดีต่อองค์กรในระยะยาว ดังนั้นเจ้าขององค์กรหลายคนจึงเลือกว่าจ้างผู้บริหาร แทนการบริหารองค์กรด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม การสรรหาผู้บริหารที่มีความสามารถอย่างแท้จริงเป็นเรื่องท้าทาย เพราะต้องมีทั้งองค์ความรู้และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล โดยควรเลือกสรรหาพนักงานระดับผู้บริหารผ่านเว็บไซต์หางานหรือบริษัท HRที่น่าเชื่อถือ เพื่อสร้างองค์กรที่เติบโตอย่างแข็งแรงแนะนำบริการสรรหาพนักงานระดับผู้บริหารจาก ManpowerบริการสรรหาพนักงานประจำทุกระดับจากManpowerตอบโจทย์การสรรหาพนักงานประจำในทุกระดับ รวมถึงบริการ HR แบบครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า "คน" หรือ "Manpower" คือ กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกธุรกิจ ด้วยประสบการณ์ในการสรรหาบุคลากรตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับบริหารให้เข้ากับองค์กรชั้นนำของเรากว่า 20 ปีในประเทศไทย เพื่อยกระดับตลาดแรงงาน พัฒนาศักยภาพพนักงานและธุรกิจสู่ความสำเร็จไปพร้อมกันติดต่อเราLINE OA: @manpowergroup_thCall Center: 02-171-2345E-mail: [email protected]
-
Game to Work: เล่นเกมส์ไม่ใช่สิ่งที่ไร้สาระเสมอไป! เจาะลึกรายงานจาก ManpowerGroup ว่าทักษะใดจากเกมเมอร์ที่สามารถมีส่วนพัฒนาองค์กรได้
19 April 2024 ในรายงาน Global Insights ของ ManpowerGroup พบว่าการเล่นเกมกําลังพลิกโฉมอนาคตของการทํางานอย่างไร Gamification (การใช้เกมและองค์ประกอบของเกม เช่นการตั้งเป้าหมาย การแข่งขัน และการให้รางวัล เพื่อกระตุ้นและสร้างความสนใจในการเรียนรู้) ถือเป็นหนึ่งในสไตล์การทำงานที่หลายองค์กรเริ่มนำมาปรับใช้กับวัฒนธรรมของตัวเอง เพื่อสร้างบรรยากาศความสนุกสนาน พลิกโฉมการทำงานและพัฒนาองค์กรแบบเดิมให้ไม่จำเจอีกต่อไป ค้นพบเทคโนโลยีสําคัญที่พร้อมจะปฏิวัติอุตสาหกรรมทําความเข้าใจผลกระทบต่อการปฏิบัติงานและคาดการณ์อิทธิพลที่มีต่อพนักงานทั่วโลก ด้วยอุตสาหกรรมเกมที่เป็นผู้นําด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี องค์กรต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากขอบเขตนี้เพื่อระบุและบ่มเพโลยีที่จําเป็นซึ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลท่ามกลางการขาดแคลนผู้มีความสามารถ แมนพาวเวอร์กรุ๊ปกําลังเจาะชุมชนเกมเพื่อค้นหากลุ่มผู้มีความสามารถจํานวนมากด้วยการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของความสามารถด้านดิจิทัลและทักษะด้านอารมณ์ที่องค์กรต้องการมากที่สุดคลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็ม
-
ไขข้อสงสัย! HR คืออะไร และ HR มีหน้าที่อะไรบ้าง ?
5 April 2024 เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource) หรือ HR คือ ตำแหน่งภายในองค์กรที่มีความสำคัญต่อทั้งพนักงานและการเติบโตขององค์กร ในบทความนี้ Manpower จะพาไปทำความรู้จักกับหน้าที่และคุณสมบัติของ HR ที่ดี ซึ่งช่วยเสริมโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรให้มีความแข็งแรง HR มีกี่ประเภท? HR คือ ตำแหน่งงานที่รู้จักกันในชื่อฝ่ายบุคคล โดยบริษัทขนาดกลาง-ใหญ่มักจะมีการแบ่ง HR ออกเป็น 2 ประเภท ตามลักษณะงานที่รับผิดชอบ ได้แก่ 1.HRM (Human Resources Management) HRM หรือการบริหารทรัพยากรบุคคล ยกตัวอย่างหน้าที่ของ HRM ดังนี้ กระบวนการสรรหาบุคลากร หรือการหาคนทำงาน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การวางแผน สรรหาผู้สมัครจากเว็บไซต์หางานต่าง ๆ บรรจุ และแต่งตั้งบุคคลเข้าทำงานในองค์กร กำหนดกลยุทธ์ของการบริหารทรัพยากรบุคคล รวมถึงกฎระเบียบต่าง ๆ ประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์กร ดำเนินเรื่องเงินเดือน สวัสดิการ และผลประโยชน์ต่าง ๆ ขององค์กร 2.HRD (Human Resources Development) HRD หรือการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ยกตัวอย่างหน้าที่ของ HRD ดังนี้ ออกแบบกระบวนการฝึกสำหรับพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะและความรู้เพิ่มเติมในสายอาชีพ พัฒนาบุคลากรให้มีคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีงาม พัฒนาบุคลากรให้มีความรักและผูกพันในองค์กร สำหรับบริษัทขนาดเล็กอาจไม่จำเป็นต้องแบ่งความรับผิดชอบของ HR เป็น 2 ฝ่าย เพราะการว่าจ้าง HR จำนวน 1 คน มีความเหมาะสมต่อบริษัทที่มีพนักงานตั้งแต่ 1-50 คน ซึ่ง HR สามารถดูแลทั้งการบริหารทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลได้อย่างครอบคลุม HR มีหน้าที่อะไรบ้าง? บทบาทและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบของ HR สามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1.การสรรหาและคัดเลือกทรัพยากรบุคคล (Recruitment and Selection) หัวใจของ HR คือ การสรรหาทรัพยากรและจัดการแรงงาน โดยการสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพ และทัศนคติสอดคล้องกับองค์กร คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรเติบโตไปสู่เป้าหมาย นอกจากนี้ HR ยังรับผิดชอบในการประเมินพฤติกรรมของบุคลากรด้วย หากบุคลากรมีการฝ่าฝืนกฎระเบียบของบริษัท หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม HR จะทำหน้าที่ในการยื่นจดหมายเตือน ไปจนถึงบทลงโทษที่หนักกว่า 2.การบริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการ (Salary and Benefits) HR มีบทบาทสำคัญในการบริหารค่าตอบแทน หรือเงินเดือนให้สอดคล้องกับคุณสมบัติ ความสามารถ และตำแหน่งงานของบุคลากร รวมถึงการจัดหาสวัสดิการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน เช่น ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสวัสดิการอื่น ๆ เพื่อเสริมคุณภาพความเป็นอยู่ของบุคลากร ทำให้องค์กรสามารถรักษาบุคลากรคุณภาพเอาไว้ได้ 3.การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร หรือพัฒนาองค์กร (Human Resource Development / Organization Development) อีกหนึ่งบทบาทของ HR คือ การพัฒนาบุคลากร หรือการพัฒนาองค์กร ผ่านโปรแกรมฝึกอบรมต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้บุคลากรมีองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่ทันสมัย ซึ่งสามารถนำมาประกอบการทำงานได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อองค์กร นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการฝึกอบรมที่เกี่ยวกับทักษะทางสังคม (Soft Skills) อาทิ ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills) ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) และทักษะการคิดเชิงตรรกะ (Logical Thinking) เป็นต้น 4.พนักงานสัมพันธ์ (Employee Engagement) การรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพเอาไว้ได้ในปัจจุบันต้องอาศัยบทบาทของ HR ในด้านพนักงานสัมพันธ์ เพื่อให้บุคลากรทำงานภายใต้องค์กรอย่างมีความสุข เช่น การจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร แก้ไขข้อพิพาทระหว่างบุคลากร ไปจนถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกจ้างและนายจ้าง โดยหน้าที่ของ HR ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเติบโตไปสู่เป้าหมายได้อย่างราบรื่น พร้อมการขับเคลื่อนด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความสุข คุณสมบัติของ HR ในการทำหน้าที่ให้ลุล่วงสมบูรณ์ HR จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1.มนุษยสัมพันธ์ดี HR จะต้องมีมนุษยสัมพันธ์อันดี สามารถเข้ากับบุคลากรทุกคนได้ง่าย ทำให้มองเห็นภาพรวมของบุคลากรได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำหน้าที่ต่าง ๆ ของ HR 2.มีความรู้ด้านจิตวิทยา หน้าที่ของ HR ครอบคลุมตั้งแต่การสรรหาและคัดเลือกบุคลากรเข้ามาในองค์กร ตลอดจนการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างบุคลากร ดังนั้น HR จึงควรมีองค์ความรู้พื้นฐานด้านจิตวิทยา สามารถสังเกตทัศนคติของบุคลากรได้ผ่านการแสดงออกทางพฤติกรรมและคำพูด รวมถึงสามารถเลือกใช้คำพูด หรือสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เพื่อแก้ไขความขัดแย้งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.มีความซื่อตรง การทำหน้าที่ HR ต้องอาศัยความซื่อตรง ไม่เอนเอียง หรือยึดอคติของตนเป็นหลัก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพ การรับฟังปัญหาในการทำงานของบุคลากร และอื่น ๆ 4.ทัศนคติที่พร้อมเติบโต (Growth Mindset) ทัศนคติที่พร้อมเติบโต หรือ Growth Mindset คือ การเชื่อว่าตนเองและบุคคลอื่นสามารถพัฒนาและเติบโตได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีความสำคัญต่อการสังเกตพฤติกรรมบุคลากร คุณภาพการทำงาน ตลอดจนการออกแบบโปรแกรมฝึกอบรม และสวัสดิการเพิ่มเติมที่ส่งเสริมให้บุคลากรได้มีโอกาสพัฒนาตนเอง 5.มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน HR ควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน เพื่อมอบสิทธิแรงงานที่เป็นธรรมให้กับบุคลากร พร้อมกับไม่ทำให้องค์กรสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดข้อกำหนดด้านกฎหมายแรงงาน โดยคุณสมบัติทั้ง 5 ข้อ เป็นคุณสมบัติพื้นฐานของ HR ที่ดี ซึ่งการว่าจ้าง HR ในปัจจุบันมีฐานเงินเดือนเริ่มต้นที่ 25,000 - 30,000 บาท และสามารถเพิ่มไปถึง 300,000 ในระดับอาวุโส แม้การว่าจ้าง HR คือ พื้นฐานที่สำคัญต่อองค์กรทุกขนาด แต่สำหรับองค์กรขนาดเล็กที่ยังมีงบประมาณไม่มากนัก การว่าจ้าง HR ประจำอาจทำให้สภาพคล่องทางการเงินขององค์กรลดลง ดังนั้นหลายองค์กรในปัจจุบันจึงหันมาใช้บริการจากบริษัท HR แบบครบวงจรที่สามารถประหยัดงบประมาณในระยะยาวได้มากกว่า แนะนำบริการสรรหาพนักงานประจำทุกระดับจาก Manpower บริการสรรหาพนักงานประจำทุกระดับจาก Manpower ตอบโจทย์การสรรหาพนักงานประจำในทุกระดับ รวมถึงบริการ HR แบบครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า "คน" หรือ "Manpower" คือ กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกธุรกิจ ด้วยประสบการณ์ในการสรรหาบุคลากรตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับบริหารให้เข้ากับองค์กรชั้นนำของเรากว่า 20 ปีในประเทศไทย เพื่อยกระดับตลาดแรงงาน พัฒนาศักยภาพพนักงานและธุรกิจสู่ความสำเร็จไปพร้อมกัน ติดต่อเรา LINE OA: @manpowergroup_th Call Center: 02-171-2345 E-mail: [email protected]
-
ไขข้อสงสัย ลดหย่อนภาษี คืออะไร พร้อมสรุป 5 แนวทางลดหย่อนภาษี
20 March 2024 การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาถือเป็นหนึ่งในหน้าที่ของพลเมืองไทย ซึ่งเป็นผู้มีรายได้สุทธิตลอดทั้งปีตั้งแต่ 150,000 บาท ขึ้นไป โดยอัตราภาษีที่ต้องชำระจะขึ้นอยู่กับยอดสุทธิของเงินได้ทั้งหมด หลังหักรายจ่ายตลอดทั้งปี ทั้งนี้ กรมสรรพากรมีข้อกำหนดสำหรับการลดหย่อนภาษีอยู่ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนชำระภาษีได้ถูกลง เพื่อให้สามารถนำเงินส่วนต่างไปเก็บออม หรือต่อยอดทางธุรกิจเพิ่มเติม ในบทความนี้ Manpower จะไขข้อสงสัยว่า การลดหย่อนภาษี คืออะไร การลดหย่อนภาษี มีอะไรบ้าง และการลดหย่อนภาษีต้องทำยังไง พร้อมสรุปวิธีคำนวณภาษีที่ต้องชำระสำหรับวัยทำงานและ 5 แนวทางลดหย่อนภาษีประจำรอบปี 2566 สรุปวิธีคำนวณภาษีวิธีคำนวณภาษีบุคคลธรรมดา คือ “รายได้ต่อปี - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ” หลังจากนั้นให้นำ “เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี = เงินภาษีที่ต้องจ่าย” โดยอัตราภาษีจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินได้สุทธิ ดังนี้ผู้มีเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี ได้รับการยกเว้นภาษีผู้มีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 150,001-300,000 บาทต่อปี อัตราภาษีอยู่ที่ 5%ผู้มีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 300,001-500,000 บาทต่อปี อัตราภาษีอยู่ที่ 10%ผู้มีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 500,01-750,000 บาทต่อปี อัตราภาษีอยู่ที่ 15%ผู้มีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 750,001-1,000,000 บาทต่อปี อัตราภาษีอยู่ที่ 20%ผู้มีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 1,000,001-2,000,000 บาทต่อปี อัตราภาษีอยู่ที่ 25%ผู้มีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 2,000,001-5,000,000 บาทต่อปี อัตราภาษีอยู่ที่ 30%ผู้มีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 5,000,001 บาทต่อปี ขึ้นไป อัตราภาษีอยู่ที่ 35%ยกตัวอย่างนาย A มีรายได้ต่อปีจำนวน 500,000 บาท - ค่าใช้จ่ายจำนวน 250,000 บาท - ค่าลดหย่อนส่วนตัวจำนวน 60,000 บาท (กรณีไม่มีค่าลดหย่อนอื่น ๆ ) = เงินได้สุทธิจำนวน 190,000 บาท ซึ่งเข้าข่ายอัตราภาษีที่ 10% ดังนั้นเงินภาษีที่นาย A ต้องจ่าย คือ 19,000 บาทรวม 5 แนวทางลดหย่อนภาษีจากวิธีการคำนวณภาษีบุคคลธรรมดาจะเห็นได้ว่า ค่าลดหย่อนเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้อัตราภาษีถูกลง โดย 5 วิธีลดหย่อนภาษี บุคคลธรรมดา ได้แก่ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัวค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาทค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท สำหรับกรณีที่คู่สมรสไม่มีไม่มีเงินได้และจะต้องมีการจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร ไม่เกินครรภ์ละ 60,000 บาทค่าลดหย่อนภาษีกฎหมายและบุตรบุญธรรม คนละ 30,000 บาทค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูบิดามารดาของตนเองและของคู่สมรส คนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 4 คน รวมไม่เกิน 120,000 บาทค่าลดหย่อนกรณีอุปการะผู้พิการ หรือบุคคลทุพพลภาพ คนละ 60,000 บาทค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุนเงินประกันสังคม ไม่เกิน 6,300ประกันชีวิตและประกันสะสมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทประกันสุขภาพของบิดามารดา ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทประกันชีวิตแบบบำนาญที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป ลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาคเงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนภาษีเงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ และบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ สามารถนำมาลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนภาษีเงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทค่าลดหย่อนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย หรือดอกเบี้ยที่จ่ายเพื่อซื้อบ้าน ซื้อคอนโด สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาทค่าลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ถ้าปีนั้นๆมีโครงการโครงการ "ช้อปดีมีคืน" สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 30,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าและบริการในประเทศ ตามช่วงเวลาที่โครงการกำหนดไว้ โดยสินค้าที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ได้แก่ สินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT), สินค้า OTOP และ สินค้าหมวดหนังสือและ E-Bookยกตัวอย่างนาย B มีรายได้เท่ากับนาย A ที่กล่าวถึงในตอนต้น คือ 500,000 บาทต่อปี และมีรายจ่ายเท่ากันเป็นจำนวน 250,000 บาท แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา นาย B ได้ซื้อประกันชีวิตที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปี ขึ้นไป ซึ่งสามารถนำมาลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท ดังนั้นเงินได้สุทธิของนาย B จะเท่ากับรายได้ต่อปีจำนวน 500,000 บาท - ค่าใช้จ่ายจำนวน 250,000 บาท - ค่าลดหย่อน 160,000 บาท (ค่าลดหย่อนส่วนตัวรวมกับค่าลดหย่อนประกันชีวิต) = 90,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ 150,000 บาท ส่งผลให้นาย B ได้รับการยกเว้นภาษี ทั้งนี้ นาย B จำเป็นจะต้องยื่นภาษีพร้อมกับหลักฐานการซื้อประกันชีวิต เพื่อให้ได้รับสิทธิดังกล่าวส่วนกรณีที่มีการเสียภาษี ณ ที่จ่าย หรือค่าลดหย่อนภาษีมากกว่ารายได้ สามารถยื่นขอคืนภาษีจากกรมสรรพากรได้เช่นกัน ซึ่งสามารถเข้าเช็คเงินคืนภาษีได้ที่หน้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากรโดยการเสียภาษีเป็นหน้าที่ของประชาชนผู้มีรายได้ตามเกณฑ์ ในกรณีที่ถูกเรียกภาษีย้อนหลังเนื่องจากไม่ชำระภาษีตามเวลาที่กำหนด กรมสรรพากรจะมีการเรียกเบี้ยปรับเพิ่มเติมตามระยะเวลาที่ล่าช้า โดยการวางแผนลดหย่อนภาษีอย่างรัดกุมจะช่วยให้ผู้เสียภาษีชำระภาษีได้ถูกลง และสามารถนำเงินส่วนต่างไปก่อให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้ แนะนำบริการรับทำเงินเดือนจาก Manpowerบริการรับทำเงินเดือนจาก Manpower ตอบโจทย์การให้การทำเงินเดือนอย่างครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า "คน" หรือ "Manpower" คือ กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกธุรกิจ ด้วยประสบการณ์ในการสรรหาบุคลากรตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับบริหารให้เข้ากับองค์กรชั้นนำของเรากว่า 20 ปีในประเทศไทย เพื่อยกระดับตลาดแรงงาน พัฒนาศักยภาพพนักงานและธุรกิจสู่ความสำเร็จไปพร้อมกันติดต่อเราLINE OA: @manpowergroup_thCall Center: 02-171-2345E-mail: [email protected]:www.manpowerthailand.com
-
มาแล้ว ! สีเสื้อมงคล 2567 สีมงคลตามวันเกิด เสริมดวง งานรุ่ง รักปัง จาก 3 อาจารย์ชื่อดัง
12 February 2024 รวม สีเสื้อมงคลประจำวัน 2567 จาก 3 อาจารย์ชื่อดังเซฟไว้ได้ไหม..มันสำคัญกับฉันมากนาทีนี้ Personal Color ก็ต้องหลบค่ะ เปิดศักราชใหม่ มันต้องยุคของ สีเสื้อมงคล 2567 เท่านั้น!!!! ไอเทมสำคัญที่ต้องเซฟไว้ในรายการโปรด เพราะหลายคนมีความเชื่อว่า หากใส่เสื้อสีตรงกับวันนั้นๆ จะทำให้เราเกิดโชคลาภ มีเสน่ห์ เสริมเมตตา งานก็ดี แถมมีโชคอีกด้วย หลาย ๆ คนจึงมักให้ความสำคัญกับการเลือกใส่สีเสื้อตามประจำวันนั่นเองวันนี้แมนพาวเวอร์ได้นำสีเสื้อมงคลประจำวันเกิดปี 2567 จาก 3 อาจารย์ชื่อดัง มาฝากกันค่ะ บอกเลยว่าใส่แล้วช่วยเสริมความมั่นใจ งานรุ่ง รักปัง เฮงสุด ๆ !สีเสื้อมงคล 2567 จากอาจารย์ไก่ พ.พาทินีหนึ่งในอาจารย์หมอดูดวงชื่อดังของประเทศไทย โดยอาจารย์ไก่มีความเชี่ยวชาญในด้านโหราศาสตร์ไทยและพม่าเป็นพิเศษ ซึ่งในปี 2567 นี้ อาจารย์ไก่ได้แนะนำสีเสื้อมงคลประจำแต่ละวันเอาไว้ ดังนี้ สีเสื้อมงคลวันอาทิตย์โชคดี : สีเขียวต้นไม้การเงิน : สีเทาดำ, สีดำสนิทการงาน : สีชมพูอ่อนผู้ใหญ่รัก : สีบรอนซ์ทอง, สีบรอนซ์เงินเสริมเสน่ห์ เมตตา : สีแดงทุกโทนสีต้องห้าม : สีน้ำเงินเข้มสีเสื้อมงคลวันจันทร์โชคดี : สีม่วงอ่อน, สีดำสนิท, สีเทาดำการเงิน : สีส้มสว่าง, สีน้ำตาลอ่อนการงาน : สีเขียวแก่ผู้ใหญ่รัก : สีฟ้ายีนส์เสริมเสน่ห์ เมตตา : สีขาว, สีครีมสีต้องห้าม : สีแดงเลือดนกสีเสื้อมงคลวันอังคารโชคดี : สีส้มสว่าง, สีน้ำตาลอ่อนการเงิน : สีบรอนซ์ทอง, สีบรอนซ์เงินการงาน : สีม่วงลาเวนเดอร์, สีเทาดำผู้ใหญ่รัก : สีแดงเลือดหมูเสริมเสน่ห์ เมตตา : สีชมพูกลีบบัวสีต้องห้าม : สีเหลืองสีเสื้อมงคลวันพุธ โชคดี : สีบรอนซ์ทอง, สีบรอนซ์เงินการเงิน : สีฟ้าอ่อน, สีน้ำเงินกรมท่าการงาน : สีส้มสว่าง, สีน้ำตาลอ่อนผู้ใหญ่รัก : สีขาว, สีครีมเสริมเสน่ห์ เมตตา : สีเขียวทุกโทนสีต้องห้าม : สีชมพูสีเสื้อมงคลวันพฤหัสบดีโชคดี : สีแดงทุกโทนการเงิน : สีเหลืองสว่าง, สีครีมการงาน : สีฟ้าอ่อนผู้ใหญ่รัก : สีเขียวทุกโทนเสริมเสน่ห์ เมตตา : สีส้มสว่าง, สีน้ำตาลอ่อนสีต้องห้าม : สีดำสนิท, สีม่วงเข้มสีเสื้อมงคลวันศุกร์โชคดี : สีชมพูอ่อนการเงิน: สีเขียวพาสเทลการงาน : สีขาว, สีเหลืองสว่างผู้ใหญ่รัก : สีส้มสว่าง, สีน้ำตาลอ่อนเสริมเสน่ห์ เมตตา : สีฟ้า, สีน้ำเงินสีต้องห้าม : สีบรอนซ์เงิน, สีน้ำตาลไหม้สีเสื้อมงคลวันเสาร์โชคดี : สีฟ้า, สีน้ำเงินเข้มการเงิน : สีแดงทุกโทนการงาน : สีบรอนซ์เงิน, สีน้ำตาลไหม้ผู้ใหญ่รัก : สีชมพูเสริมเสน่ห์ เมตตา : สีม่วงพาสเทล, สีดำสนิท, สีเทาดำสีต้องห้าม : สีเขียวเข้มสีเสื้อมงคล 2567 จากอาจารย์คฑา ชินบัญชรอาจารย์คฑา ชินบัญชร คือ หมอดูชื่อดังอีกหนึ่งคนที่เชี่ยวชาญในด้านโหราศาสตร์จีน ฮวงจุ้ย และไพ่ยิปซี โดยอาจารย์คฑาได้เผยสีเสื้อมงคล 2567 ซึ่งแบ่งตามวันเกิด ดังนี้สีเสื้อมงคล คนเกิดวันอาทิตย์โชคลาภ เงินทอง : สีเขียว สีดำ และสีม่วงการงาน : สีแดง สีส้ม และสีชมพูผู้ใหญ่เมตตา ความรัก : สีเหลือง สีเขียวอ่อน และสีดำอำนาจบารมี : สีชมพูสุขภาพ : สีขาว สีทอง และสีเหลืองสีต้องห้าม : สีน้ำเงินสีเสื้อมงคล คนเกิดวันจันทร์โชคลาภ เงินทอง : สีม่วง สีเหลือง และสีส้มการงาน : สีเหลือง สีเขียวอ่อน และสีฟ้าผู้ใหญ่เมตตา ความรัก : สีม่วง สีน้ำเงิน และสีชมพูอำนาจบารมี : สีเขียวสุขภาพ : สีชมพู สีฟ้าคราม และสีโอลด์โรสสีต้องห้าม : สีแดงสีเสื้อมงคล คนเกิดวันอังคารโชคลาภ เงินทอง : สีแดง และสีส้มการงาน : สีม่วง สีน้ำเงิน และสีส้มผู้ใหญ่เมตตา ความรัก : สีส้ม สีเหลือง และสีแดงอำนาจบารมี : สีม่วงสุขภาพ : สีเขียวทุกเฉดสีต้องห้าม : สีขาวสีเสื้อมงคล คนเกิดวันพุธโชคลาภ เงินทอง : สีน้ำตาล สีครีม และสีช็อกโกแลตการงาน : สีส้ม และสีน้ำตาลผู้ใหญ่เมตตา ความรัก : สีดำ สีเทา และสีครีมอำนาจบารมี : สีส้มแสดสุขภาพ : สีน้ำเงิน สีฟ้า และสีม่วงสีต้องห้าม : สีชมพูสีเสื้อมงคล คนเกิดวันพฤหัสบดีโชคลาภ เงินทอง : สีแดง สีเหลือง และสีทองการงาน : สีฟ้า สีน้ำเงิน และสีเขียวผู้ใหญ่เมตตา ความรัก : สีแดง สีส้ม และสีขาวอำนาจบารมี : สีน้ำเงินสด และสีฟ้าสุขภาพ : สีดำ สีเทา และสีน้ำเงินสีต้องห้าม : สีม่วงสีเสื้อมงคล คนเกิดวันศุกร์โชคลาภ เงินทอง : สีชมพู สีฟ้า และสีส้มการงาน : สีขาว สีเหลือง และสีเขียวผู้ใหญ่เมตตา ความรัก : สีเหลือง สีส้มอิฐ และสีชมพูอำนาจบารมี : สีขาว และสีเหลืองสุขภาพ : สีแดงทุกเฉดสีต้องห้าม : สีดำสีเสื้อมงคล คนเกิดวันเสาร์โชคลาภ เงินทอง : สีน้ำเงิน สีฟ้า และสีแดงการงาน : สีดำ สีเทา และสีฟ้าผู้ใหญ่เมตตา ความรัก : สีชมพู สีฟ้า และสีน้ำเงินอำนาจบารมี : สีดำ และสีน้ำตาลสุขภาพ : สีส้ม สีเหลือง และสีครีมสีต้องห้าม : สีเขียวสีเสื้อมงคล 2567 จากอาจารย์ช้าง ทศพรอาจารย์ช้าง หรือหมอช้างมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านฮวงจุ้ย และโหราศาสตร์ไทย โดยอาจารย์ช้างเป็นให้คำแนะนำสีเสื้อมงคลประจำปี 2567 ตามแต่ละวันเกิด คือสีเสื้อมงคล คนเกิดวันอาทิตย์เสริมสิริมงคล : สีเขียวอำนาจบารมี : สีแดง และสีชมพูผู้ใหญ่เมตตา อุปถัมภ์ : สีม่วง และสีดำสีต้องห้าม : สีฟ้า และสีน้ำเงินสีเสื้อมงคล คนเกิดวันจันทร์เสริมสิริมงคล : สีดำอำนาจบารมี : สีเขียวผู้ใหญ่เมตตา อุปถัมภ์ : สีฟ้า และสีน้ำเงินสีต้องห้าม : สีส้มสีเสื้อมงคล คนเกิดวันอังคารเสริมสิริมงคล : สีเทาอำนาจบารมี : สีดำผู้ใหญ่เมตตา อุปถัมภ์ : สีส้มสีต้องห้าม : สีขาว และสีครีมสีเสื้อมงคล คนเกิดวันพุธเสริมสิริมงคล : สีม่วง และสีดำอำนาจบารมี : สีเหลือง และสีเทาผู้ใหญ่เมตตา อุปถัมภ์ : สีขาว และสีครีมสีต้องห้าม : สีแดง และสีชมพูสีเสื้อมงคล คนเกิดวันพฤหัสบดีเสริมสิริมงคล : สีส้มอำนาจบารมี : สีฟ้า และสีน้ำเงินผู้ใหญ่เมตตา อุปถัมภ์ : สีเขียวสีต้องห้าม : สีดำสีเสื้อมงคล คนเกิดวันศุกร์เสริมสิริมงคล : สีแดง และสีชมพูอำนาจบารมี : สีขาว และสีครีมผู้ใหญ่เมตตา อุปถัมภ์ : สีเหลือง และสีเทาสีต้องห้าม : สีม่วง และสีดำสีเสื้อมงคล คนเกิดวันเสาร์เสริมสิริมงคล : สีฟ้า และสีน้ำเงินอำนาจบารมี : สีม่วง และสีดำผู้ใหญ่เมตตา อุปถัมภ์ : สีแดง และสีชมพูสีต้องห้าม : สีเขียวเอาล่ะค่ะ นอกจากจะใส่เสื้อสีมลคลแล้ว ก็ต้องลงมือทำเพื่อช่วยให้สิ่งที่หวังไว้เป็นจริงด้วยนะคะ!ปีใหม่ หางานใหม่กับแมนพาวเวอร์คลิก > https://bit.ly/3tROE6f
-
ธุรกิจควรเริ่มกระบวนการสรรหาบุคลากรอย่างไร ? เพื่อค้นหาพนักงานคุณภาพ!
23 January 2024 กระบวนการสรรหาบุคลากร คือ กระบวนการในค้นหาตลอดจนคัดเลือกบุคลากร โดยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของธุรกิจ ดังนั้นเจ้าของธุรกิจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) จึงต้องใส่ใจในกระบวนการสรรหาบุคลากร เพื่อให้ได้พนักงานคุณภาพ ซึ่งหมายถึงพนักงานที่สามารถรับผิดชอบงานตามมอบหมายได้เป็นอย่างดี รวมถึงคุณลักษณะในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมเชิงบวกในการทำงานในบทความนี้ Manpower จะพามาสำรวจสาเหตุที่ต้องสรรหาบุคลากรและขั้นตอนต่าง ๆ ในกระบวนการสรรหาบุคลากร เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงพนักงานคุณภาพสาเหตุที่ต้องสรรหาบุคลากรโดยทั่วไป มี 3 สาเหตุหลัก ที่ธุรกิจจะต้องสรรหาบุคลากรใหม่ ได้แก่ 1.ตำแหน่งเดิมว่างลง การที่ตำแหน่งว่างสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ บุคลากรเดิมลาออก ถูกให้ออก เสียชีวิต เกษียณอายุ หรือมีการโยกย้ายตำแหน่งเกิดขึ้น2.เพิ่มตำแหน่งใหม่การเพิ่มตำแหน่งใหม่มักเกิดกับธุรกิจที่กำลังเติบโต และธุรกิจที่กำลังปรับตัวเพื่อตอบสนองกับความต้องการของตลาดอุตสาหกรรม ส่งผลให้ธุรกิจต้องการกำลังคนที่มากขึ้นในหลายแผนก3.ตั้งธุรกิจใหม่แน่นอนว่าการก่อตั้งธุรกิจใหม่ต้องมีการสรรหาพนักงานเข้ามา เพื่อให้ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้หากไม่มีการก่อตั้งธุรกิจใหม่ ไม่มีการเพิ่มตำแหน่ง และตำแหน่งเดิมยังมีบุคลากรที่เหมาะสมทำงานอยู่ ธุรกิจไม่จำเป็นที่จะต้องสรรหาบุคลากรใหม่ เพราะจะทำให้ธุรกิจมีกำลังคนมากเกินความจำเป็น ส่งผลให้ธุรกิจต้องเสียต้นทุนกับทรัพยากรบุคคลเพิ่มขึ้น ในขณะที่ผลประกอบการเท่าเดิมกระบวนการคัดสรรบุคลากร 5 ขั้นตอนสำหรับธุรกิจที่จำเป็นต้องหาบุคลากรใหม่หรือเพิ่ม มีขั้นตอนเบื้องต้นในกระบวนการคัดสรรบุคลากร 5 ข้อ ดังนี้1.วางแผนการสรรหาและคัดเลือกเมื่อธุรกิจต้องการสรรหาบุคลากร เจ้าของธุรกิจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะต้องเริ่มวางแผนจากการสำรวจความต้องการบุคลากร เช่น เจ้าหน้าที่ในแผนก A แจ้งลาออกล่วงหน้าเป็นจำนวน 1 คน ดังนั้นจะต้องหาบุคลากรใหม่มาแทนที่ 1 คน โดยเจ้าของธุรกิจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะต้องวางกำหนดการอย่างรัดกุมตั้งแต่เริ่มประกาศหาคนทำงานสอบสัมภาษณ์และกำหนดวันเริ่มงาน เพื่อให้หาบุคลากรได้ทันในระยะเวลา 1 เดือน 2.กำหนดคุณลักษณะของงาน (Job Description) และคุณสมบัติของพนักงาน (Qualification)เจ้าของธุรกิจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะต้องเขียนกำหนดคุณลักษณะของงาน ในประกาศรับสมัครงานให้ถูกต้องและชัดเจน โดยสามารถให้หัวหน้าแผนกนั้น ๆ ช่วยตรวจสอบความถูกต้องได้ นอกจากนี้ ยังต้องกำหนดคุณสมบัติของพนักงานให้ชัดเจนด้วย เพื่อให้ได้ผู้ที่มีความสามารถและเหมาะสมกับตำแหน่ง โดยคุณลักษณะของงานและคุณสมบัติของพนักงานมักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอตามการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ยกตัวอย่างคุณสมบัติของพนักงานที่หลายธุรกิจทั่วโลกต้องการ อาทิEmotional Intelligence หรือความฉลาดทางอารมณ์Communication Intelligence หรือความสามารถในการสื่อสารกับผู้อื่นProblem Solving Skill หรือความสามารถในการแก้ปัญหา3.สื่อสารเพื่อสรรหา การสื่อสารเพื่อสรรหาบุคลากรสามารถทำได้หลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์ประกาศหางานบริษัทจัดหาพนักงานไปจนถึงช่องทาง Social Media ต่าง ๆ อาทิ Facebook, LINE, Instagram หรือ LinkedIn เป็นต้น โดยประกาศรับสมัครงานที่เผยแพร่ออกไปควรมีความชัดเจน ใช้คำที่เข้าใจง่ายและสามารถสร้างแรงจูงใจได้เป็นอย่างดี เช่น การเขียนแสดงวิสัยทัศน์ของบริษัท ซึ่งจะช่วยดึงดูดบุคลากรที่มีวิสัยทัศน์หรือเป้าหมายที่ใกล้กับบริษัทได้ 4.การคัดเลือกการคัดเลือกบุคลากรจากผู้เข้าสมัคร เจ้าของธุรกิจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะต้องยึดคุณสมบัติของพนักงานที่กำหนดเอาไว้ในตอนแรก ซึ่งการประเมินคุณสมบัติของผู้สมัครสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การทำแบบสอบถาม การสัมภาษณ์แบบถาม-ตอบ หรือแบบทดสอบทางจิตวิทยาต่าง ๆ โดยการประเมินคุณสมบัติของผู้สมัครควรให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องเข้ามามีบทบาทด้วย อาทิ หัวหน้างานหรือหัวหน้าแผนก เพราะเป็นบุคลากรที่จะได้ร่วมงานกันโดยตรงในอนาคต5.การเซ็นสัญญาจ้างงานขั้นตอนสุดท้าย คือ การเซ็นสัญญาจ้างงาน โดยจะครอบคลุมตั้งแต่การเจรจารายละเอียดการจ้างงานตั้งแต่อัตราจ้าง รูปแบบการจ่ายเงินเดือนพนักงานสวัสดิการ ไปจนถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ให้ชัดเจน หากผู้สมัครพอใจในข้อเสนอของธุรกิจ ก็สามารถดำเนินการเซ็นสัญญาและเริ่มร่วมงานกันได้ทันทีหรือในวันเวลาที่ตกลงกันไว้โดยธุรกิจสามารถระบุข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาทดลองงานได้ในสัญญาจ้าง เช่น ผู้ถูกว่าจ้างจะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นพนักงานประจำเมื่อผ่านการประเมินหลังครบระยะเวลาทดลองงาน 3 เดือน เป็นต้นอย่างไรก็ตาม กระบวนการสรรหาบุคลากรนับเป็นเรื่องท้าทายของธุรกิจใหม่ที่เพิ่งก่อตั้ง โดยเฉพาะธุรกิจที่ยังไม่มีการว่าจ้างเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ส่งผลให้เจ้าของธุรกิจจะต้องดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ในกระบวนการสรรหาบุคลากรด้วยตนเอง ซึ่งต้องใช้ทั้งความรู้และความเข้าใจในตลาดแรงงาน การเขียนประกาศรับสมัครพนักงานให้น่าสนใจ สวัสดิการของลูกจ้างตามกฎหมาย ไปจนถึงการร่างสัญญาจ้างให้ครอบคลุมทั้งสิทธิของนายจ้างและลูกจ้างอย่างถูกต้อง ในขณะที่บริษัทจัดหาพนักงานสามารถช่วยเจ้าของธุรกิจประหยัดเวลาและต้นทุนในการสรรหาบุคลากรได้มากกว่าแนะนำบริการหาคนทำงานจาก Manpowerบริการจัดหาพนักงานชั้นนำระดับโลก ตอบโจทย์การให้บริการสรรหาบุคลากรอย่างครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า "คน" หรือ "Manpower" คือ กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกธุรกิจ ด้วยประสบการณ์ในการสรรหาบุคลากรตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับบริหารให้เข้ากับองค์กรชั้นนำของเรากว่า 20 ปีในประเทศไทย เพื่อยกระดับตลาดแรงงาน พัฒนาศักยภาพพนักงานและธุรกิจสู่ความสำเร็จไปพร้อมกันติดต่อเราLINE OA: @manpowergroup_thCall Center: 02-171-2345E-mail:[email protected]
-
แนะนำขั้นตอนในการเช็คเงินคืนภาษี พร้อมเทคนิคและช่องทางขอคืนภาษี
23 January 2024 อย่างที่ทราบกันว่าการเช็คเงินคืนภาษีหรือตรวจสอบคืนภาษี เพื่อขอคืนภาษีนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องทำกันในทุกๆ ปี โดยการยื่นภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่มีรายได้พึงประเมินถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ (120,000 บาทต่อปี) เพื่อเสียภาษีตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร แต่นอกจากการเสียภาษีแล้ว ผู้เสียภาษียังสามารถ ‘ขอคืนภาษี’ ได้ด้วยเช่นกัน โดยในบทความนี้ Manpower จะพาไปทำความรู้จักกับการยื่นขอภาษีและวิธีเช็คเงินคืนภาษีที่สะดวกและเข้าใจง่ายการขอคืนภาษี คืออะไร ?การยื่นขอคืนภาษี คือ การที่ผู้เสียภาษียื่นขอเงินภาษีคืนจากกรมสรรพากร โดยผู้ที่สามารถยื่นขอคืนภาษีได้จะต้องเป็นผู้ที่เสียภาษี ณ ที่จ่ายระหว่างปีมากกว่ามูลค่าภาษีที่ตนเองมีหน้าที่ต้องจ่ายจริง ซึ่งสรรพากรจะเป็นผู้พิจารณาคืนภาษีตามเงื่อนไขและคืนเงินส่วนต่างระหว่างมูลค่าภาษีที่ต้องจ่ายจริงกับภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งมีวิธีการตรวจสอบการยื่นภาษีและเช็คเงินคืนภาษีตามขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เลยค่ะวิธีการเช็คเงินภาษีคืน มีอะไรบ้างวิธีเช็คเงินคืนภาษีที่ง่ายและสะดวกที่สุด คือ การตรวจสอบคืนภาษีกับเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ซึ่งมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้เข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.thกดเลือกหน้า My Tax Account ตรวจสอบข้อมูลการยื่นภาษีล็อกอินด้วยเลขประจำตัวประชาชนและรหัสผ่านยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTPกดตรวจสอบข้อมูลในช่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (90/91)ในหน้าตรวจส