-
จุดดีจุดเด่นของ 5 ช่องทางหาคนทำงาน ธุรกิจต้องทราบ!
28 September 2023 การมีทรัพยากรบุคคลหรือพนักงานที่มีคุณภาพและมีความเชี่ยวชาญในงานที่ได้รับมอบหมาย เป็นสิ่งที่ไม่ว่าองค์กรใดล้วนต้องการ ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีแหล่งหาคนทำงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเว็บหาคนทำงานโดยตรง สื่อโซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่สื่อเฉพาะกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งธุรกิจสามารถพบกับบุคลากรได้หลากหลายระดับ ด้วยช่องทางที่หลากหลายเหล่านี้ ธุรกิจใหม่หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลคงสัยว่าจะหาพนักงานได้จากที่ไหน ในบทความนี้แมนพาวเวอร์ จะมาแนะนำ 5 ช่องทางการหาคนทำงาน พร้อมบอกข้อดีและข้อด้อยของแต่ละช่องทาง เพื่อให้ธุรกิจได้นำไปพิจารณาคัดสรรบุคลากรต่อไป 5 ช่องทางหาคนทำงาน พร้อมบอกจุดเด่น จุดด้อย 1. แหล่งประกาศงานออนไลน์ (Online Job Boards) แหล่งประกาศงานออนไลน์ คือ เว็บไซต์หางานต่าง ๆ ที่ทุกคนคงทราบกันดี เพราะเว็บหาพนักงานเหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งรวมของทั้งบริษัท องค์กร และผู้ที่กำลังมองหางานมากมาย และยังเป็นแหล่งข้อมูลการสรรหา (Database Recruitment) ที่นายจ้าง และฝ่ายทรัพยากรบุคคลสามารถเข้าไปค้นหาผู้มีศักยภาพเป็นพนักงาน โดยองค์กรสามารถโพสต์หาคนทำงานและรอให้ผู้ที่สนใจเข้ามาสมัคร หรือติดต่อเพื่อเสนอตำแหน่งงาน หลังจากที่พิจารณาเรซูเม่ และข้อมูลต่าง ๆ เบื้องต้นแล้วได้อีกด้วย ทั้งนี้ Online Job Board แต่ละแห่งมีความเชี่ยวชาญ และเน้นตลาดแรงงานที่แตกต่างกัน ซึ่งธุรกิจต้องพิจารณาให้ดีว่าเว็บไซต์ใดที่เหมาะสมกับองค์กรของตนเอง ข้อดีของแหล่งประกาศงานออนไลน์ สามารถพบกับผู้สมัครที่สนใจงานจริง ๆ หากเป็น Online Job Boards ที่มีชื่อเสียงจะมีผู้สมัครหลากหลายระดับจำนวนมาก เข้าถึงผู้สมัครได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และสามารถคัดกรองระดับผู้สมัครงานที่ต้องการได้อีกด้วย ข้อด้อยของแหล่งประกาศงานออนไลน์ อาจไม่สามารถบริหารสื่อทั้งหมดได้ด้วยตัวธุรกิจเอง มีค่าใช้จ่ายสูงในการประกาศรับสมัครงาน ต้องใช้เวลาในการประเมินและคัดกรองผู้สมัครจำนวนมาก 2. แหล่งสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) สื่อสังคมออนไลน์ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งชีวิตประจำวันของใครหลายคน โดยจากผลสำรวจพบว่าคนไทยในช่วงอายุ 16-64 ปี มักใช้เวลาบนสื่อโซเชียลโดยเฉลี่ยประมาณ 2 ชั่วโมง 44 นาทีต่อวัน ซึ่ง Facebook ยังคงเป็นสื่อโซเชียลอันดับหนึ่งที่ผู้คนนิยมใช้งานมากที่สุด นอกจากนี้ยังมี LinkedIn ที่เปรียบเสมือนโซเชียลมีเดียด้านธุรกิจที่สามารถใช้เพื่อประกาศงานหรือสร้างโปรไฟล์ขององค์กรได้อีกด้วย พูดได้ว่าสื่อโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ที่ผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามารวมตัวกันมากที่สุด จึงเป็นหนึ่งช่องทางที่ธุรกิจสามารถหาคนทำงานได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด ข้อดีของแหล่งสื่อสังคมออนไลน์ เข้าถึงผู้คนได้ในหลากหลายระดับ ตั้งแต่ผู้ที่จบใหม่ ไปจนถึงผู้ที่มีประสบการณ์หลัก 10 ปี เชื่อมโยงเครือข่ายทั่วโลก สามารถพบกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสายงาน สามารถพิจารณาโปรไฟล์และติดต่อผู้สมัครได้โดยตรง ทั้งผู้ที่ต้องการหางาน และผู้ที่ยังทำงานอยู่แต่มีโปรไฟล์ที่น่าสนใจ ข้อด้อยของแหล่งสื่อสังคมออนไลน์ มีตัวเลือกมากเกินไป ส่งผลให้ต้องใช้เวลานานในการคัดเลือกบุคลากร สื่อโซเชียลแต่ละแพลตฟอร์มมีกลุ่มผู้ใช้งานแตกต่างกันไป เช่น Facebook อาจเหมาะกับผู้ที่เริ่มหางานใหม่ ๆ หรือตำแหน่งงานขั้นต้น ส่วน LinkedIn มักเป็นที่อยู่ของตลาดแรงงานระดับกลาง-สูงเป็นต้นไป ดังนั้น องค์กรต้องพิจารณาแพลตฟอร์มและกลุ่มบุคลากรที่ต้องการอย่างรอบคอบ 3. มหกรรมหางาน (Job Fair) มหกรรมหางาน คือ อีเวนต์ที่พาผู้ว่าจ้างและผู้สมัครงานมาพบกัน โดยมีงานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานเฉพาะสายงาน เช่น มหกรรมหางานไอที หรืองาน Job Fair ตามมหาวิทยาลัยที่เหล่าองค์กรมาเพื่อเฟ้นหาเด็กจบใหม่ ไปจนถึงมหกรรม Job Fair ขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือของหลายฝ่าย ซึ่งบริษัทสามารถพบเจอกับผู้ที่มีความสนใจอยู่แล้ว รวมไปถึงกลุ่มผู้มีศักยภาพ และมีโอกาสได้ผู้ที่มีความสามารถเฉพาะทางที่ดี และเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์งานได้ในทันที นอกจากนี้ มหกรรมหางานยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทไปในตัว โดยเฉพาะกับธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเริ่มขยายเครือข่าย ข้อดีของมหกรรมหางาน องค์กรสามารถพบปะกับผู้สมัครได้โดยตรง ไม่เสียเวลาในขั้นตอนต่าง ๆ สามารถสื่อสารได้สองทาง สอบถามและถามตอบข้อมูลได้ทันท่วงที สร้างภาพลักษณ์ให้องค์กร และสร้างความประทับใจให้ผู้สมัครงาน ได้เห็นการทำงานขององค์กรคู่แข่ง และสามารถปรับตัวท่ามกลางการแข่งขันได้ ข้อด้อยของมหกรรมหางาน มีค่าใช้จ่ายในหลาย ๆ ส่วนที่อาจรวมกันจนสูงขึ้นเกินงบประมาณ ต้องอาศัยทรัพยากรบุคคลและเวลาไม่น้อยในการออกงาน เป็นการแข่งขันกับบริษัทอื่น ๆ โดยตรง เช่น การจัดบูธให้น่าเชื่อถือ ความชัดเจนในงานที่เปิดรับสมัคร เจ้าหน้าที่ตัวแทนที่มีทักษะการพูดคุยเจรจา 4. การแนะนำจากเครือข่ายธุรกิจ (Referral) ช่องทางหาคนทำงานนี้ นับเป็นช่องทางที่ประหยัดงบประมาณและทรัพยากรต่าง ๆ อีกทั้งเป็นช่องทางที่จะได้พบกับบุคลากรที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยการแนะนำพนักงานนี้อาจมาจากพาร์ทเนอร์ธุรกิจ หรือจากพนักงานในองค์กรเอง ส่งผลให้มีแนวโน้มสูงที่จะได้พบกับบุคลากรที่มีทักษะความสามารถ ตรงกับตำแหน่ง และสามารถเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้ดี เพราะพนักงานในองค์กรจะไตร่ตรองก่อนแนะนำผู้สมัครงาน เพื่อไม่ให้เสียเครดิต อีกทั้งคนที่แนะนำอาจเป็นผู้ที่เข้ามาทำงานด้วยกันในระยะยาว ข้อดีของการแนะนำจากเครือข่ายธุรกิจ ได้พบกับผู้ที่มีศักยภาพ มีทักษะความสามารถที่ตรงกับตำแหน่ง และเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร ประหยัดค่าใช้จ่ายและทรัพยากรในการหาคนทำงาน เพราะไม่จำเป็นต้องออกหาบุคลากร ข้อด้อยของการแนะนำจากเครือข่ายธุรกิจ ต้องระมัดระวังในบางประเด็น เช่น ความโปร่งใสในการรับคน หรือตำแหน่งงานที่มีความเฉพาะทางสูง องค์กรอาจต้องมีกลยุทธ์ในการสร้างแรงจูงใจให้เกิด Referral จากพนักงานในองค์กร หรือข้อเสนอกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจ 5. เว็บไซต์ธุรกิจ (Corporate Website) หนึ่งช่องทางที่องค์กรไม่ควรมองข้าม การประกาศผ่านเว็บไซต์ขององค์กรเองถือเป็นแหล่งหาคนทำงานแบบ Passive ที่ให้ผู้สมัครเข้ามาหาตัวบริษัทเอง ซึ่งองค์กรสามารถสร้างหน้าเว็บรับสมัครงานแยกขึ้นมาหรือรวมกับเว็บไซต์หลักก็ได้ นอกจากนี้ ต้องไม่ลืมที่จะออกแบบมาให้น่าดึงดูด และเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ข้อดีของเว็บไซต์ธุรกิจ ได้พบกับผู้สมัครที่มีความสนใจทำงานร่วมกับองค์กรจริง ๆ มีโอกาสได้พนักงานสูง ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ สามารถควบคุมสื่อที่ประกาศออกไปได้ทั้งหมด ข้อด้อยของเว็บไซต์ธุรกิจ อาจไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างมากนัก จึงไม่เหมาะกับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มใหม่ แนะนำ Recruitment Agency ทางเลือกหาคนทำงานคุณภาพ Recruitment Agency หรือ บริษัทจัดหางาน คือ ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยองค์กรจัดหาและคัดเลือกบุคลากรที่ตรงกับความต้องการ มีศักยภาพ เข้ากับทีมและวัฒนธรรมองค์กรได้ดี ที่สำคัญคือมีทักษะตรงตามตำแหน่งงาน อีกทั้งมีโอกาสสูงที่จะได้รักษาพนักงานดี ๆ เอาไว้ โดยที่องค์กรไม่จำเป็นต้องสละเวลามาทำเอง โดย Recruitment Agency มีบริการครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นในการสรรหา ประกาศรับสมัคร และคัดเลือกบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ หรือจ้างชั่วคราว รวมไปถึงช่วยเหลืองานฝ่ายทรัพยากรบุคคลด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ บริษัทจัดหางานยังมีบริการอื่น ๆ ที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระบริษัทได้ อาทิ บริการรับทำเงินเดือน (Payroll) บริการทำวีซ่า และออกใบอนุญาตทำงานสำหรับพนักงานชาวต่างชาติ พูดได้ว่าเป็นหนึ่งช่องทางหาคนทำงานที่มีประสิทธิภาพ และให้ประโยชน์กับองค์กรในระยะยาว หากธุรกิจหรือองค์กรต้องการเฟ้นหาบุคลากรคุณภาพ ManpowerGroup Thailand พร้อมมอบบริการที่ตอบโจทย์และตอบสนองกับการพัฒนาธุรกิจคุณ Manpower เก่งหาคน ถนัดหางาน “We Love our Jobs” บริษัทจัดหางานชั้นนำระดับโลก ตอบโจทย์การให้บริการอย่างครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า "คน" หรือ "Manpower" คือ กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกธุรกิจ ด้วยประสบการณ์ในการสรรหาบุคลากรตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับบริหารให้เข้ากับองค์กรชั้นนำของเรากว่า 20 ปีในประเทศไทย เพื่อยกระดับตลาดแรงงาน พัฒนาศักยภาพพนักงานและธุรกิจสู่ความสำเร็จไปพร้อมกัน ติดต่อเรา LINE OA: @manpowergroup_th Call Center: 02-171-2345 E-mail: recruitmentthailand@manpower.co.th Website: www.manpowerthailand.com
-
ความมั่นใจในการตอบคำถามของคนเป็นผู้นำ Skill นี้ไม่ได้มีมาตั้งแต่เกิด
26 September 2023 ในโลกที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว “ผู้นำ” ไม่ใช่มีหน้าที่เพียงเป็นกัปตันขององค์กรเท่านั้นแต่ยังเป็น “หน้าตา” หรือ “ตัวแทน” ที่บ่งบอกถึงองค์กรของคุณต่อบุคคลภายนอกความมั่นใจในการพูดในที่สาธารณะ (Public Speaking) กลายเป็นทักษะสำคัญสำหรับการเป็นผู้นำที่ดีซึ่งสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือการเตรียมความพร้อมที่ดีไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของข้อมูลบุคลิกภาพของผู้พูดกลุยุทธ์ในการสื่อสารแล้วกลยุทธ์อะไรบ้างที่สามารถดึงดูดผู้ฟังของเราเองได้?คุณลักษณะสำคัญของผู้นำที่มีทักษะการพูดต่อหน้าสาธารณะได้อย่างดีเยี่ยม และเป็นที่หน้าจดจำความมั่นใจ:ความมั่นใจเป็นรากฐานของความสำเร็จในการพูดในที่สาธารณะผู้นำต้องแสดงความมั่นใจในตนเองทั้งคำพูดภาษากายและกิริยาท่าทางสิ่งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในตนเองของผู้นำแต่ยังส่งเสริมความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือในหมู่ผู้ชมอีกด้วยความจริงใจและความถูกต้อง: เรียกได้ว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งสื่ออย่างแท้จริงประชาชนเสพสื่อกันจนกลายเป็นเรื่องปกติดังนั้นข้อมูลที่เราจะกล่าวพูดออกไปนับว่ามีความสำคัญอย่างมากรวมถึงการแสดงออกอย่างจริงใจอีกด้วยความชัดเจน: ความสามารถในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนได้อย่างชัดเจนและกระชับเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ไม่ว่าผู้ฟังจะเป็นใคร นักพูดในที่สาธารณะที่ดีสามารถปรับและปรับข้อความของตนให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ความมีสติ: แน่นอนว่าการพูดในที่สาธารณะนั้นจะมีความตึงเครียดมีความกดดันด้วยเนื้อหาและบรรยากาศ ณ ตอนนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้พูดต้องมีสติและไหวพริบในการโต้ตอบคำถามอย่างมีวิจารณาญาณและควมคุมบทสนทนาให้ได้อยู่เสมอเมื่อเจอคำถามที่ไม่คาดคิดกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการพูดในที่สาธารณะที่ยอดเยี่ยม:- ความพร้อมของข้อมูล: ผู้นำควรจัดทำข้อความสำคัญไว้ล่วงหน้าเพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับเป้าหมายและค่านิยมขององค์กรข้อความเหล่านี้ควรปรับให้เข้ากับบริบทต่าง ๆ โดยยังคงรักษาความสอดคล้องไว้ได้- การรับรู้ของผู้ชม: การทำความเข้าใจมุมมองความสนใจ และข้อกังวลของผู้ชมช่วยให้ผู้นำปรับแต่งข้อความของตนให้สอดคล้องกับผู้รับเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนลูกค้าหรือประชาชนทั่วไป- การฝึกอบรมการพูดในที่สาธารณะ:โปรแกรมการฝึกอบรมการพูดในที่สาธารณะเช่น Public Persona หลักสูตรเครือข่ายผู้บริหารที่จะมาสอนเคล็ดลับการพูดสะกดคนฟังการบริหารภาพลักษณ์ที่ดีซึ่งจะสามารถช่วยให้ผู้นำมีทักษะและเทคนิคที่จำเป็นโปรแกรมเหล่านี้มอบประสบการณ์ตรง และปรับปรุงทุกอย่างตั้งแต่การเล่าเรื่องไปจนถึงการจัดการกับคำถามที่ท้าทายการฟังอย่างกระตือรือร้น: การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการพูดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการฟังอย่างกระตือรือร้นด้วยผู้นำควรตั้งใจฟังผู้ฟังซึ่งรวมถึงการจดบันทึกและโต้ตอบอย่างมีวิจารณญาณส่งเสริมการสนทนาที่มีส่วนร่วมและร่วมมือกันก้าวขึ้นสู่อีกขั้นของทักษะการพูดในที่สาธารณะของคุณคุณรับผิดชอบด้านการสื่อสารของบริษัทของคุณหรือไม่? คุณเป็นผู้บริหารที่ต้องการมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมหรือไม่? คุณเป็นคนที่ชอบออกสื่อบ่อย ๆหรือเปล่า? หรือบางทีคุณอาจเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างชื่อให้ตัวเอง?การเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวข้องกับการฝึกฝนศิลปะการพูดในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญบนเส้นทางสู่การเป็นนักสื่อสารที่มีทักษะและบุคคลที่มีอิทธิพล นี่คือจุดที่การประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับบุคคลสาธารณะของเราเข้ามามีบทบาท โดยได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ โดยเป็นเวทีในการฝึกฝนและปรับแต่งทักษะที่ทำให้ผู้นำที่โดดเด่นแตกต่างออกไป- ยกระดับการเล่าเรื่องราวให้น่าสนใจและเป็นที่จดจำในที่สาธารณะ- วิธีรับมือกับสื่อมวลชนทุกประเภททั้งออนไลน์และออฟไลน์- ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของคุณเพื่อกลายเป็นผู้นำที่สื่อสารอย่างดีเลิศ- สร้างเครือข่ายในกลุ่มธุรกิจแลกเปลี่ยนไอเดียและประสบการณ์- ความรู้อัดแน่นทั้งทฤษฏีและการฝึกปฏิบัติจริงเข้าร่วมประสบการณ์เวิร์กช็อปเพื่อการเปลี่ยนแปลง 2 วันกับเรา ซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบทักษะและเครื่องมืออันทรงพลังเพื่อยกระดับการพูดในที่สาธารณะของคุณไปสู่อีกระดับ ดูข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่าง หรือต้องการลงทะเบียน คลิกที่นี่รายละเอียดหลักสูตร Public PersonaPublic Persona หลักสูตรเตรียมพร้อมรับมือสื่อสำหรับผู้บริหารที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Talent Solutions และ Executive Media Coach ชื่อดังผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อมานานกว่า 20 ปี⏳ 48 ชั่วโมงนี้ จะพาคุณก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำที่มีศิลปะแห่งการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบคำถามได้อย่างชัดเจนตรงประเด็นและเป็นที่จดจำ🗣 นำโดยวิทยากรมากประสบการณ์ทั้ง 3 ท่านได้แก่🔸คุณปอนด์ยาคอปเซ่น - Executive Coach ชื่อดังผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อมานานกว่า 20 ปี🔸คุณมนตรีบุตรนาค - Head of Talent Solutions ที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับผู้บริหารจากบริษัทนานาชาติหนึ่งในลิสต์Fortune 500 Companies!🔸คุณชยุติเชษฐสันติคุณ - Learning and Development Manager ผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบหลักสูตรและการบรรยายหลักสูตรนี้ให้อะไรกับคุณ?- ยกระดับการเล่าเรื่องราวให้น่าสนใจและเป็นที่จดจำในที่สาธารณะ- วิธีรับมือกับสื่อมวลชนทุกประเภททั้งออนไลน์และออฟไลน์- ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของคุณเพื่อกลายเป็นผู้นำที่สื่อสารอย่างดีเลิศ- สร้างเครือข่ายในกลุ่มธุรกิจแลกเปลี่ยนไอเดียและประสบการณ์- ความรู้อัดแน่นทั้งทฤษฏีและการฝึกปฏิบัติจริงรายละเอียดวันที่จัดงาน: 21 - 22 พฤศจิกายน 2566เวลา: 9.00 - 16.00 น.สถานที่:ไฮแอทรีเจนซีกรุงเทพสุขุมวิทเปิดจองรอบ Early Bird จนถึงสิ้นเดือนนี้!!! ราคาพิเศษ 45,900 บาท (จากปกติ 59,900 บาท) ไม่รวมภาษี *สมัครด่วน ที่นั่งมีจำนวนจำกัด!!!*ต้องการสำรองที่นั่ง คลิกที่นี่หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ Line OA: @manpowergroup_th
-
เมื่อทำงานเท่าไหร่ก็รู้สึกว่ายังทำไม่มากพอ.. Productivity Shame รู้สึกผิดทุกครั้งที่ว่าง
31 August 2023 รู้ตัวนะว่าทำงานหนักไป แต่พอถึงเวลาพักก็หยุดคิดไม่ได้ซักที.. นี่เรากำลังเสพติดการทำงานหรือเปล่า? อาการแบบนี้ เรียกว่า Productivity Shame ซึ่งจะมีองค์ประกอบอยู่ 2 อย่าง คือ รู้สึกว่าทำงานมากเท่าไหร่ก็ไม่พอ ไม่ว่าจะทำงานกี่ชั่วโมง หรือทำงานเสร็จไปกี่ชิ้น เราก็ยังรู้สึกว่ามีบรรยากาศแห่งความละอายใจลอยรอบตัวอยู่ดีProductivity Shame คือการที่เรารู้สึกว่าเราไม่ควรทำสิ่งที่ "ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์" เราจะรู้สึกผิดเวลาเราใช้เวลาไปกับงานอดิเรก ดูหนัง ฟังเพลง หรือกระทั่งการนอนพักผ่อนความสำเร็จของคนอื่นๆ ความกดดันจากสังคม และบางครั้งค่านิยม ‘ทำงานหนัก=เป็นสิ่งที่ดีงาม’ ทำให้เราเผลอเสพติดการทำงานหามรุ่งหามค่ำ และตกอยู่ในภาวะ Toxic Productivity โดยไม่รู้ตัวอาการเหล่านี้บั่นทอนสภาวะจิตใจเรามากกว่าที่หลายคนคิด การที่เราไม่สามารถปิดสวิตช์โหมดทำงานของตัวเองได้ในยามไพักผ่อน จะส่งผลให้เราเครียด ทำงานหนักเกินไป จนสุดท้ายอาจจะนำไปสู่ภาวะหมดไฟ (Burnout) นั่นเอง.สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนหันกลับมาเตือนตัวเองคือ "ให้ใจดีกับตัวเองบ้าง" อย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไป.. เพราะการทำงานที่จะออกมาให้ผลดี ก็ย่อมเกิดมาจากพลังที่ดี เติมเชื้อไฟที่ดีให้กับตัวเองเช่นกันให้เวลาตัวเองพักบ้าง และอย่ารู้สึกผิดกับตัวเองมากจนเกินไป เพราะไม่มีใครสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชม. ในมุมขององค์กรเอง หากเราสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้เกียรติพนักงาน เคารพในชีวิตส่วนตัวของพนักงาน พวกเขาก็จะรู้สึกรักองค์กร มีใจที่จะทำงาน สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ นำพาให้องค์กรขับเคลื่อน และประสบความสำเร็จไปพร้อม ๆ กันมองหาโอกาสดี ๆ ติดต่อแมนพาวเวอร์ได้เลยค่ะ คลิก
-
สิทธิประกันสังคมต้องเช็กให้ดี ก่อนเริ่มรายงานตัวว่างงาน!
25 August 2023 ใครเป็นพนักงานบริษัทหรืออยู่ในประกันสังคมมาตรา 33 และกำลังจะออกจากงานหรือถูกเลิกจ้างแบบไม่ทันตั้งตัว คงจะเคยได้รับคำแนะนำจากคนรอบข้างให้เข้ารายงานตัวว่างงาน เพื่อขอรับเงินชดเชยจากระบบประกันสังคมระหว่างหางานใหม่ เพราะเป็นการรักษาสิทธิประกันสังคมที่เราควรทำทั้งนี้ เชื่อว่าหลายคนยังคงมีคำถามอยู่ในใจมากมาย เช่น จะเช็กสิทธิประกันสังคมอย่างไร? ลาออกแล้วจะได้สิทธิประกันสังคมอยู่ไหม? หรือ ต้องพิจารณาอะไรบ้างก่อนลงทะเบียนว่างงาน? ใครที่สงสัยเหมือนกัน วันนี้ แมนพาวเวอร์จะมาบอกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับประกันสังคม ก่อนเริ่มรายงานตัวว่างงาน ให้สามารถใช้สิทธิ์ของเราอย่างถูกต้อง!สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนรายงานตัวว่างงานเมื่อเราวางแผนที่จะลงทะเบียนและรายงานตัวว่างงาน แน่นอนว่ามีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงและเตรียมพร้อมเอาไว้ให้ดี มาดูกันเลยว่าจะมีเรื่องสำคัญอะไรบ้าง1. ลาออก หรือ ถูกเลิกจ้างจุดประสงค์ของหลายคนที่ลงทะเบียนว่างงานนั่นคือ เงินชดเชย เพื่อใช้จ่ายระหว่างหางานใหม่ ทั้งนี้แต่ละคนอาจได้จำนวนเงินชดเชยที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าว่างงานเนื่องจากกรณีไหนนั่นเองหากตัดสินใจลาออกเอง สำนักงานประกันสังคมระบุเอาไว้ว่าจะได้รับเงินทดแทนระหว่างว่างงานในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วันต่อรอบใน 1 ปี ส่วนกรณีถูกเลิกจ้างหรือหมดสัญญาจ้างงาน เราจะได้รับเงินทดแทนระหว่างว่างงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นเวลาไม่เกิน 180 วันต่อรอบใน 1 ปีเมื่อลาออกหรือออกจากงานกะทันหัน ขอแนะนำให้รีบรายงานตัวว่างงาน ภายใน 30 วันนับจากวันที่ออกจากงาน2. การลงทะเบียนว่างงานวิธีการลงทะเบียนว่างงานเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องศึกษาเอาไว้ โดยปัจจุบันมีด้วยกัน 2 วิธี คือ การติดต่อสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่หรือสำนักจัดหางานจังหวัดในพื้นที่ตามภูมิลำเนาหรือพื้นที่ต่าง ๆ ที่สะดวก หรือรายงานตัวว่างงานออนไลน์บนเว็บไซต์ของกรมจัดหางานโดยต้องไม่ลืมเอกสารต่าง ๆ ที่จำเป็นในการลงทะเบียน เช่น แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน ในกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7) หนังสือรับรองการออกจากงานหรือสปส. 6-09 รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก3. เงินสำรองและแผนการเงินเงินเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ก่อนจะลาออกเราควรมีเงินสำรองเพียงพอให้สามารถใช้จ่ายได้ 6-12 เดือน เพื่อไม่สร้างความลำบากให้ตัวเอง พยายามปิดยอดหนี้สินต่าง ๆ ให้มากที่สุด หรืออาจวางแผนหารายได้เสริม สร้างพอร์ตลงทุนเพิ่มเติม จะช่วยให้อุ่นใจได้มากขึ้นเมื่อต้องลาออกจากงานประจำหรือออกจากงานกะทันหัน4. สิทธิประกันสังคมที่ได้รับสำหรับใครที่จ่ายเงินประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน แน่นอนว่ามีสิทธิในการขึ้นทะเบียนว่างงานเพื่อรับค่าชดเชยทันทีที่พ้นสภาพพนักงาน นอกจากนี้ ใครที่ตั้งใจจะทำงานอิสระ แนะนำให้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 หรือเปลี่ยนสถานะเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 แทนสิทธิประกันสังคม ม. 33 มีอะไรบ้าง?ใครที่เป็นพนักงานบริษัทอยู่แล้ว ทางบริษัทจะเป็นผู้ทำการขึ้นทะเบียนประกันสังคมในมาตรา 33 ให้ ซึ่งหลายคน อาจไม่ทราบหรือลืมไปว่าสิทธิประกันสังคมดังกล่าวครอบคลุมอะไรบ้าง โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับความคุ้มครองทั้งหมด 7 รายการ ได้แก่เจ็บป่วย - ให้ค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย ประสบอันตราย เจ็บป่วยฉุกเฉิน รวมถึงกรณีตรวจสุขภาพประจำปี เป็นจำนวนเงินปีละ 900 บาททุพพลภาพ - ได้รับเงินชดเชยแทนการขาดรายได้ กรณีสูญเสียอวัยวะ หรือสูญเสียสมรรถภาพของอวัยวะ เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเกิดเหตุเสียชีวิต - ได้รับค่าทำศพ 40,000 บาท เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ภายใน 6 เดือนก่อนเสียชีวิตคลอดบุตร - ได้รับค่าคลอดครั้งละ 15,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และได้เงินค่าหยุดงานเพื่อคลอดเป็นจำนวน 50% ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 2 ครั้ง เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนวันคลอดสงเคราะห์บุตร - ได้รับเงินสงเคราะห์บุตร เดือนละ 800 บาทต่อบุตร 1 คน ไม่เกินครั้งละ 3 คน เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 เดือน ภายใน 36 เดือนก่อนได้รับเงินทดแทนชราภาพ - ได้รับเงินเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ เงินบำเหน็จชราภาพ คือ การจ่ายเงินให้ก้อนเดียว สำหรับผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน และเงินบำนาญชราภาพ คือ การจ่ายเงินเป็นรายเดือนตลอดชีวิตจำนวน 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย สำหรับผู้ที่จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 180 เดือน หรือ 15 ปีว่างงาน - มีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยว่างงาน เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือนวิธีเช็กสิทธิประกันสังคมแบบง่ายๆเมื่อทราบแล้วว่าสิทธิประกันสังคม ม. 33 นั้นครอบคลุมด้านใดบ้าง แต่สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองมีสิทธิ์อะไรบ้างที่ใช้ไปแล้ว หรือยังไม่ได้ใช้สิทธิ์อะไรบ้าง คงสงสัยว่าจะสามารถเช็กสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมอย่างไร ซึ่งมีวิธีง่าย ๆ ดังนี้เข้าสู่หน้าเว็บไซต์ www.sso.go.th (เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม)ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ โดยกรอกเลขบัตรประชาชน เบอร์มือถือ ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด อีเมล จากนั้นให้ตั้งรหัสผ่าน และยืนยันตัวตนผ่าน OTPสามารถเข้าตรวจสอบสิทธิประกันสังคมต่าง ๆ ได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการส่งเงินสมทบ การยื่นแบบขอเปลี่ยนสถานพยาบาล ตรวจสอบเงินสงเคราะห์ชราภาพ หรือขอเบิกสิทธิประโยชน์ต่างๆ เป็นต้นสิทธิประกันสังคมหลังลาออกจากงานหลายคนที่เลือกออกจากงานมักมีความกังวลว่าจะเสียสิทธิประกันสังคม แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะในกรณีที่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ลาออกจากงานหรือถูกเลิกจ้าง กองทุนประกันสังคมยังคงให้ความคุ้มตรงต่อเนื่องอีก 6 เดือน สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้ทั้ง 7 กรณีโดยไม่ต้องจ่ายเงินสมทบใด ๆส่วนเงื่อนไขการได้สิทธิ คือ ต้องส่งเงินสมทบครบก่อนสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนตามแต่ละกรณีความคุ้มครองที่ได้กล่าวไปข้างต้น สำหรับใครที่ต้องการรักษาสิทธิประกันสังคมให้คุ้มครองต่อหลังจากผ่านไป 6 เดือน สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 โดยจ่ายเงินสมทบเดือนละ 432 บาท และยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ยกเว้นกรณีการว่างงานจบไปแล้วกับเรื่องเบื้องต้นที่ควรรู้ในฐานะผู้ประกันตนมาตรา 33 ก่อนที่จะรายงานตัวว่างงาน เท่านี้ก็สามารถบริหารสิทธิประโยชน์ที่ได้รับอย่างมีประสิทธิภาพ ได้ใช้สิทธิ์อย่างถูกต้องแบบไร้กังวล อย่างไรก็ตาม ส่วนที่สำคัญเมื่อว่างงานคือ การหางานหรือช่องทางสร้างรายได้ใหม่ ๆ ต่อไป สำหรับใครที่ต้องการความช่วยเหลือ ManpowerGroup Thailand สามารถช่วยคุณหางานที่เหมาะกับทักษะ ประสบการณ์ และความชอบ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ได้ร่วมงานกับองค์ที่ใช่ เพราะเรามีงานในทุกสาขาวิชาชีพ ทุกสายงาน และทุกระดับ ที่เปิดรับสมัครในรูปแบบงานประจำ งานสัญญาจ้าง และงานชั่วคราวอีกด้วยสามารถค้นหางานใหม่ที่ใช่ บนเว็บไซต์ของแมนพาวเวอร์ คลิกManpower เก่งหาคน ถนัดหางาน “We Love our Jobs”บริษัทจัดหางานชั้นนำระดับโลก ตอบโจทย์การให้บริการอย่างครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า "คน" หรือ "Manpower" คือ กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกธุรกิจ ด้วยประสบการณ์ในการสรรหาบุคลากรตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับบริหารให้เข้ากับองค์กรชั้นนำของเรากว่า 20 ปีในประเทศไทย เพื่อยกระดับตลาดแรงงาน พัฒนาศักยภาพพนักงานและธุรกิจสู่ความสำเร็จไปพร้อมกันติดต่อเราLINE OA: @manpowergroup_thCall Center: 02-171-2345E-mail: recruitmentthailand@manpower.co.th Website: www.manpowerthailand.com
-
เจ้าของธุรกิจใหม่ ต้องรู้วิธีหาคนทำงานที่เหมาะกับองค์กร!
25 July 2023 การเริ่มต้นทำธุรกิจ สร้างองค์กรเป็นเรื่องที่ท้าทายเสมอ ผู้ประกอบการมือใหม่ต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคในหลายด้าน โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจและการบริหารภายในที่อาจขรุขระบ้างในตอนต้น และแน่นอนว่าใคร ๆ ต่างต้องการหาคนทำงานที่มีความสามารถ เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้ดี เพื่อช่วยพัฒนาธุรกิจอย่างราบรื่นทั้งนี้ การเป็นนายจ้างหาคนงานตัวด้วยเอง อาจเป็นเรื่องที่เจ้าของธุรกิจไม่ถนัดหรือมีประสบการณ์มากเท่าไหร่ ดังนั้น ManpowerGroup Thailand จะมาแนะนำวิธีการหาคนทำงานเบื้องต้น ให้ธุรกิจได้พนักงานที่เหมาะกับองค์กรการหาคนทำงานให้เหมาะสมกับองค์กรปัจจุบัน ช่องทางและวิธีหาคนงานนั้นมีความหลากหลาย จนอาจส่งผลให้ผู้ประกอบการสับสนว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหนดี แต่ไม่ต้องกังวล เรามีวิธีการหาคนทำงานในแบบฉบับที่เข้าใจง่ายเหมาะสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่มาฝากกันค่ะ1. เริ่มต้นจาก Job Descriptionอันดับแรกก่อนจะเริ่มประกาศรับสมัครพนักงาน แน่นอนว่าต้องมี Job Description หรือ คำบรรยายลักษณะงานที่ชัดเจน เพื่อกำหนดคุณสมบัติ หน้าที่ความรับผิดชอบ และขอบเขตการทำงาน โดยการทำ Job Description ที่ดีนั้นมีองค์ประกอบ คือข้อมูลทั่วไป (เพศ อายุ ประสบการณ์การทำงาน และอื่น ๆ)คุณสมบัติและทักษะความสามารถที่จำเป็นต้องมีวัตถุประสงค์ของตำแหน่งงานหน้าที่และความรับผิดชอบหลักการทำงานร่วมกับแผนกหรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่สำคัญคือ ควรเขียนอย่างตรงไปตรงมา ใช้ภาษากระชับ เข้าใจง่าย หลีกเลี่ยงภาษาหรือคำที่คลุมเครือ หรือตัวย่อที่อาจทำให้ผู้สมัครงานสับสน พร้อมใส่รายละเอียดหน้าที่การทำงานให้ครบถ้วนตั้งแต่แรก เพื่อความยุติธรรมต่อทั้งสองฝ่าย2.ศึกษาคู่แข่งทางธุรกิจถ้าไม่ทราบว่าจะใส่รายละเอียดการทำงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ หรือรายละเอียดอื่น ๆ อย่างไร ขอแนะนำให้ลองศึกษารายละเอียดเหล่านี้จากคู่แข่งทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะในด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้หลายคนตัดสินใจทำงานหรือปฏิเสธข้อเสนอการทำงานเจ้าของธุรกิจควรพิจารณาให้ผลตอบแทนแก่พนักงานให้ใกล้เคียง และอยู่ในมาตรฐานกับองค์กรในแวดวงเดียวกัน เพราะถ้าสวัสดิการของบริษัทไม่อยู่ในระดับที่สมน้ำสมเนื้อกับงานหรือทัดเทียมกับบริษัทอื่น ๆ ก็มีโอกาสที่ผู้สมัครฝีมือดีจะหลุดลอยไปอยู่กับธุรกิจคู่แข่งได้นั่นเอง3. ใช้สื่อออนไลน์ให้เป็นประโยชน์เริ่มหาคนงานที่ไหนดี? ทุกวันนี้ช่องทางหลักที่ทั่วโลกใช้ในการหางานและรับสมัครงานคงหนีไม่พ้น สื่อออนไลน์ ที่ทั้งสะดวกสบายและรวดเร็วกว่าช่องทางดั้งเดิมหลายเท่า เช่น การลงประกาศผ่าน Social Media อย่าง Facebook หรือ LinkedIn เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนหางานมากขึ้น หรือเลือกใช้ Online Job Boards ที่เป็นแหล่งที่มีชื่อเสียง และล้วนมีแต่คนที่สนใจอยากได้งาน นอกจากนี้ บริษัทจัดหางาน (Recruitment Agency) ในปัจจุบันยังให้บริการผ่านเว็บไซต์และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางที่เจ้าของธุรกิจต้องเลือกใช้4. ใช้บริการ Recruitment Agencyการเลือกรับสมัครพนักงานสักหนึ่งคนมีรายละเอียดมากมายที่ต้องใส่ใจดูแล ทั้งใช้เวลา และมีงานเอกสารอีกด้วย สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องดูแลกิจการอยู่ตลอดนั้น การเลือกใช้บริการจากบริษัท Recruitment Agency อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า บริษัทจัดหาสามารถที่ช่วยลดความยุ่งยากในการพนักงาน มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการค้นหา คัดเลือก และฝึกอบรม สามารถหาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะกับองค์กรได้จริง ไม่ต้องเสียเวลากับทรัพยากรในการคนใหม่เรื่อย ๆ เพราะได้คนที่ไม่เหมาะสมสักที ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในการหาคนทำงานคุณภาพ คือ ManpowerGroup Thailand นั่นเองเพราะ ManpowerGroup Thailand คือ Recruitment Agency ที่มีความเชี่ยวชาญในการหาคนทำงานที่มีคุณภาพให้แก่องค์กร เรามีบริการสรรหาพนักงาน Outsourcing อย่างครบวงจร ตั้งแต่การสรรหาและคัดสรรบุคลากรที่เหมาะสม การทำ Payroll การฝึกอบรม อีกทั้งมีบริการรับทำเงินเดือนพนักงาน รวมไปถึงให้คำปรึกษาในด้านการหาคนทำงาน ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจและอุดรอยรั่วได้ในทุกจุด5. เปลี่ยนจาก Intern มาเป็น Full-Timeการหาคนทำงานโดยการเปลี่ยนเด็กฝึกงานมาเป็นพนักงานประจำ เป็นวิธีที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจเอง เนื่องจากบริษัทสามารถรู้ถึงผลงานได้จากการทำงานจริง ๆ รวมถึงเรียนรู้คุณสมบัติและสไตล์การทำงานว่าเหมาะสมกับองค์กรมากน้อยแค่ไหน ในอีกมุมหนึ่ง นิสิตนักศึกษาก็ได้โอกาสในการสานต่อการทำงานและเติบโตไปกับองค์กรในอนาคตทั้งหมดนี้เป็น วิธีหาคนงานเบื้องต้นสำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ ถ้าหากต้องการบุคลากรที่มีคุณภาพ ช่วยยกระดับการดำเนินงานขององค์กร ต้องไม่ลืมที่จะนำวิธีเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ ส่วนนายจ้างท่านใดที่สนใจบริการจัดหาพนักงาน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่างManpower เก่งหาคน ถนัดหางาน “We Love our Jobs”บริษัทจัดหางานชั้นนำระดับโลก ตอบโจทย์การให้บริการอย่างครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า "คน" หรือ "Manpower" คือ กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกธุรกิจ ด้วยประสบการณ์ในการสรรหาบุคลากรตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับบริหารให้เข้ากับองค์กรชั้นนำของเรากว่า 20 ปีในประเทศไทย เพื่อยกระดับตลาดแรงงาน พัฒนาศักยภาพพนักงานและธุรกิจสู่ความสำเร็จไปพร้อมกันติดต่อเราLINE OA: @manpowergroup_thCall Center: 02-171-2345E-mail: recruitmentthailand@manpower.co.thWebsite:www.manpowerthailand.com
-
6 วิธีการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน
24 July 2023 เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องสัมภาษณ์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในการสัมภาษณ์ไม่ควรเป็นเรื่องใหม่อะไร ผู้ถูกสัมภาษณ์ควรเตรียมตัวล่วงหน้าไปบ้าง สืบค้นข้อมูลบริษัทที่คุณกำลังจะไปสัมภาษณ์เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องตัวธุรกิจและประเมินคำถามที่อาจถูกถามในห้องสัมภาษณ์ เหมือนกับนักกีฬาที่ฝึกฝนให้พร้อมสำหรับวันเล่น วันสัมภาษณ์ก็คือโอกาสที่คุณจะแสดงความพร้อมในการเตรียมตัว ทักษะ ความสามารถ และตรรกะของคุณอย่างเต็มที่ และนี่คือ 6 วิธีการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานศึกษาเกี่ยวกับบริษัทและผู้สัมภาษณ์ คนที่จะเข้าสัมภาษณ์คุณเป็นใคร ตำแหน่งอะไร อาจลองตรวจสอบจาก LinkedIn ของพวกเขาหรือสอบถามจากคอนเนคชั่นของคุณ สำรวจว่าบริษัทกำลังต้องการอะไรพร้อมศึกษากลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจขององค์กรนำข้อมูลที่รองรับมาด้วย ไม่ใช่เพียงแค่เข้าไปนั่งเล่า อธิบาย แต่ให้มีหลักฐานติดตัวมาด้วย เพื่อทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นภาพในสิ่งที่เรากำลังพยายามอธิบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Portfolio หรือสไลด์นำเสนอต่าง ๆ หากคุณสัมภาษณ์สำหรับตำแหน่งระดับสูงขึ้น คุณอาจนำมาด้วยแผนรายวัน 30-60-90 วัน เพื่อให้เห็นว่าคุณจะทำอะไรเมื่อได้รับงานและสามารถแสดงให้ผู้สัมภาษณ์ทราบว่าคุณเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อย การตั้งคำถามล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยในการตอบคำถามได้อย่างถูกต้องและใช้คำได้อย่างสละสลวย รวมถึงไม่รู้สึกประหม่าเมื่อเจอคำถามยากๆ คำถามการสัมภาษณ์ที่ถูกถามบ่อยปรับแต่งการนำเสนอของคุณ มันไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่คุณพูด เป็นเรื่องของวิธีการพูด ให้คำนึงถึงท่าทางของร่างกายที่คุณจะใช้ หากคุณไม่แสดงความมั่นใจและมืออาชีพในระหว่างการสัมภาษณ์ คุณจะสูญเสียความได้เปรียบในการแข่งขัน ฝึกการนำเสนอตัวเอง ด้วยการสื่อสารทางตา การจับมือ และการฟังของคุณจำลองสถานการณ์ในห้องสัมภาษณ์ลองจำลองสถานการณ์ในห้องสัมภาษณ์กับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะกับคนที่มีประสบกาณ์ในการสัมภาษณ์งาน การจำลองสถานการณ์นี้มีประโยชน์และช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้น จากนั้นถามข้อเสนอแนะสำหรับการตอบคำถาม การใช้ภาษากาย และการเตรียมพร้อมของคุณ ดังนั้นควรมีทั้งคำถามทั่วไปและคำถามยากๆเพื่อดูว่าคุณตอบคำถามได้ดีขนาดไหนคำถามเพิ่มเติมหลังจบสัมภาษณ์“มีคำถามอะไรเพิ่มเติมไหม” เป็นประโยคที่ทำให้หลายๆ คนตั้งตัวกันไม่ทัน แต่การที่คุณหยิบยกคำถามมาถามนั้น ไม่เพียงแค่ทำให้คุณได้ข้อมูลของงานและบริษัท แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสในการสร้างความประทับใจให้กับ ว่าที่นายจ้างในอนาคตของคุณอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมสำหรับการสัมภาษณ์งานนั้นรวมถึงการทราบทุกอย่างเกี่ยวกับบริษัท และรู้ว่าคุณมีสิ่งที่คุณสามารถนำเสนอเพื่อช่วยให้บริษัทเป็นที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น จงเตรียมตัวให้พร้อม มั่นใจ และพร้อมที่จะเริ่มต้นเพิ่มโอกาสในการร่วมงานกับบริษัทชั้นนำ ติดต่อแมนพาวเวอร์ได้เลย! คลิก
-
ถามอะไร ตอบได้หมด! ChatGPT จะเข้ามาแทนที่บางอาชีพได้จริงหรือ?
13 July 2023 เมื่อมนุษยชาติเข้าใกล้โลกแห่ง AI เข้าไปทุกที งานนี้นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในแวดวงไอทีต่างให้ความสนใจว่า "ถ้าวันนึง AI ครองโลกขึ้นมาจริงๆ มนุษย์อย่างเราจะมีวิธีรับมืออย่างไร" แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น เราในฐานะคนทำงาน ควรหาวิธีและปรับตัวให้สามารถทำงานร่วมกันกับปัญญาประดิษฐ์นี้ให้ได้ก่อนเทคโนโลยีและการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ได้เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ChatGPT ที่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 2022 ซึ่งเป็นระบบประมวลผลภาษาธรรมชาติที่สร้างขึ้นโดย OpenAI ที่มุ่งหวังสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถในการสนทนาและตอบคำถามอย่างใกล้เคียงกับมนุษย์อย่างไรก็ตาม ChatGPT เป็นระบบประมวลผลที่ใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) และโมเดล GPT (Generative Pre-trained Transformer) ในกระบวนการทำงาน แต่การพัฒนา ChatGPT นั้นคือผลลัพธ์จากทีมนักวิจัยและวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมุ่งเน้นในการพัฒนาปรับปรุงระบบเพื่อให้มีความเสถียร และมีประสิทธิภาพที่สูงสุดในการตอบคำถามของผู้ใช้ดังนั้น ChatGPT จึงกลายมาเป็นเพื่อนคู่คิดให้กับคนทำงานกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าคุณจะต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทาง ข้อมูลสารสนเทศ คำแนะนำในการแก้ปัญหา หรือแม้กระทั่งบทสนทนาเรื่องราวทั่วไป เพียงแค่ส่งคำถามหรือประโยคเข้าสู่ ChatGPT ระบบจะวิเคราะห์และตอบกลับด้วยคำตอบที่เข้าใจและสอดคล้องกับความต้องการของคุณทั้งนี้ ChatGPT ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อแทนที่อาชีพใด ๆ แต่มีความสามารถในการช่วยแก้ปัญหาทางภาษาและให้ข้อมูลในหลายเรื่อง ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในองค์กรหรือธุรกิจต่างๆ เช่นการให้บริการลูกค้า: ChatGPT สามารถใช้ในการตอบคำถามของลูกค้า ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการและช่วยแก้ปัญหาทั่วไปการสนทนาแบบสังคม: สามารถใช้ ChatGPT เพื่อสนทนาหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ใช้ในเรื่องที่สนใจได้ เช่น การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราว กีฬา ภาพยนตร์ แฟชั่น และอื่นๆเพื่อการเรียนรู้: ChatGPT สามารถช่วยในการให้คำอธิบาย ตอบคำถาม หรือให้คำแนะนำในการเรียนรู้เกี่ยวกับวิชาต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ เป็นต้นสร้างเนื้อหาใหม่: ChatGPT สามารถช่วยในการสร้างเนื้อหาต่างๆ เช่นบทความ เรื่องราวหรือข้อความในโปรแกรมต่างๆ ได้ แต่สำหรับภาษาไทย ยังคงต้องมีการปรับปรุงอยู่พอสมควรแม้ว่า ChatGPT จะมีความสามารถในการช่วยและสนับสนุนในหลายด้าน แต่ก็ยังไม่สามารถทดแทนหรือแทนที่อาชีพที่ต้องการความเชี่ยวชาญทางทัศนศาสตร์หรือทักษะทางกายภาพได้ เช่น แพทย์ วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ หรือนักกีฬา ความสามารถของ ChatGPT ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่และการสร้างข้อความในลักษณะที่คล้ายกับมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ความสามารถของระบบยังมีข้อจำกัด และอาจไม่สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องหรือคำแนะนำที่เหมาะสมเสมอได้อย่างแน่นอน ผู้ใช้ควรใช้ความวิจารณญาณในการตรวจสอบและพิจารณาข้อมูลที่ได้รับจาก ChatGPT อีกครั้งก่อนนำไปใช้งานอย่างระมัดระวังสรุปคือ ChatGPT เป็นระบบประมวลผลที่ใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกและโมเดล GPT ในการสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถในการสนทนาและให้ข้อมูลในหลายเรื่อง แม้ว่ามันจะมีความสามารถที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ในการตอบคำถามและสนทนา แต่ยังมีข้อจำกัดและความเชื่อถือต่อข้อมูลที่ได้รับต้องมีการตรวจสอบและพิจารณาเพิ่มเติม ตลอดจน ChatGPT ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อแทนที่สิ่งใด แต่มีศักยภาพในการช่วยแก้ปัญหาทางภาษาและให้ข้อมูลในหลายๆ เรื่อง รวมทั้งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในองค์กรหรือธุรกิจต่าง ๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วยอย่างไรก็ตามมนุษย์ทำงานอย่างเรา ก็ต้องหมั่นอัพสกิล เพิ่มทักษะต่าง ๆ ให้กับตัวเองอยู่เรื่อย ๆ นะคะ !ค้นหางานคุณภาพ รายได้ดี บริษัทมั่นคง คลิกที่นี่
-
บริษัท Outsource สร้างข้อได้เปรียบให้องค์กรและธุรกิจได้อย่างไร?
26 June 2023 ปฏิเสธไม่ได้ว่าองค์กรต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายในระหว่างการดำเนินธุรกิจ หนึ่งในอุปสรรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ คือ ปัญหาการขาดบุคลากร ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ปริมาณงานที่เข้ามาเยอะเกินกว่าที่พนักงานปัจจุบันจะรับไหว ขาดงบประมาณในการว่าจ้างบุคลากร หรือมีงานบางประเภทที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทางที่ค่อนข้างหาบุคลากรเหล่านี้ยาก เป็นต้นปัจจุบัน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว การว่าจ้างบริษัท outsource จึงเป็นทางออกของหลาย ๆ องค์กร และเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ถือว่ากำลังเป็นเทรนด์สำคัญในการทำธุรกิจของยุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้ แล้ว บริษัท Outsource คืออะไร? สามารถให้ประโยชน์ต่อธุรกิจได้อย่างไร? ManpowerGroup Thailand จะมาบอกให้รู้ในบทความนี้บริษัท Outsource คืออะไร?บริษัท Outsource คือ องค์กรผู้ให้บริการในการจ้างพนักงานชั่วคราวหรือบุคคลภายนอกองค์กร ที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เข้ามาทำงานนั้น ๆ โดยอาจเป็นการทำงานแทนทั้งหมดหรือแค่เพียงบางส่วน ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการทำสัญญาจ้างเป็นระยะเวลาสั้น ๆ รายเดือน รายปี หรือตามที่สองฝ่ายตกลงกันพูดได้ว่าบริษัท Outsource ทำหน้าที่หาคนทำงานให้กับองค์กรหรือธุรกิจที่ต้องการบุคลากรเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลืองานด้านต่าง ๆ นั่นเองด้วยภูมิทัศน์ทางธุรกิจ (Business Landscape) ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้องค์กรต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองต่อโอกาสทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การจ้างงานจากบริษัท Outsource จึงเข้ามามีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งในการคัดสรรบุคลากรที่เหมาะสม มีความรู้ความชำนาญ และน่าเชื่อถือ เพื่อสนับสนุนบริษัทต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานประโยชน์ในการว่าจ้างพนักงานจากบริษัท Outsourceจากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าบริการ Outsourcing สามารถอำนวยความสะดวกให้กับองค์กรได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้การหาพนักงานชั่วคราวผ่านบริษัท Outsource ไม่เพียงแค่อำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่ให้ประโยชน์อื่น ๆ อีกหลายด้าน ยกตัวอย่างเช่น1. ช่วยเหลือองค์กรในกรณีที่มีพนักงานไม่เพียงพอ / ขาดแคลนบุคลากรความท้าทายที่องค์กรส่วนใหญ่มักพบเจอ คือ การขาดแคลนบุคลากรในขณะที่บริษัทมีจำนวนงานที่มากเกินกว่าที่พนักงานงานประจำที่มีอยู่จะสามารถทำงานให้บรรลุได้ภายในเวลาที่กำหนดได้ การว่าจ้างพนักงานชั่วคราวสามารถอุดช่องโหว่ตรงนี้ได้จนกว่าจะหาคนทำงานประจำได้2. ประหยัดงบประมาณในการว่าจ้างงานการที่องค์กรว่าจ้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องต่าง ๆ จากภายนอกเข้ามาทำงาน จะช่วยให้องค์กรประหยัดงบประมาณด้านทรัพยากรบุคคลได้เป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับการจัดตั้งแผนกขึ้นมาใหม่อย่างเต็มรูปแบบ ที่จะต้องเสียทั้งค่าจ้างพนักงานประจำ และค่าสวัสดิการต่าง ๆ อีกด้วย3. ลดภาระงานและความซับซ้อนภายในองค์กรองค์กรใหญ่ที่มีบุคลากรจำนวนมากและมีการแบ่งพนักงานหลายฝ่าย แน่นอนว่ามักเกิดความซับซ้อนในการบริหารงาน รวมไปถึงปัญหาด้านการสื่อสาร โดยการว่าจ้างพนักงานชั่วคราว สามารถลดภาระและความซับซ้อนในโครงสร้างองค์กรได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งบริษัท Outsource ที่มีบริการแบบครบวงจรจะมีการทำเงินเดือนให้กับพนักงานเหล่านั้นโดยตรง องค์กรจึงไม่จำเป็นต้องสละเวลาในการบริหารจัดการเรื่องดังกล่าว4. ง่ายต่อการเริ่มทำโปรเจกต์ใหม่หนึ่งในปัญหาของการจ้างพนักงานประจำก็คือการ “รอ” เช่น หากต้องการจ้างพนักงานใหม่ก็ต้องรอการอนุมัติงบประมาณ หรือถ้าอยากจ้างเด็กจบใหม่ไฟแรงก็ต้องรอเรียนจบ ทำให้บางครั้งการเริ่มต้นโปรเจกต์ใหม่หรือทำโครงงานใหญ่ต้องล่าช้า เพราะพนักงานไม่พอ ซึ่งการว่าจ้าง Outsource ถือเป็นการเพิ่มจำนวนบุคลากรแทบจะทันที ในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าการจ้างพนักงานประจำ5. เข้าถึงทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านหลายครั้งที่ธุรกิจต้องดำเนินการหรือเริ่มทำอะไรในทิศทางใหม่ ๆ อย่างไรก็ตามองค์กรอาจยังขาดบุคลากรที่มีความรู้ในด้านนั้น ๆ มากพอ การว่าจ้างพนักงานจากบริษัท Outsource ที่เป็นบุคคลผู้เชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์สำหรับงานเฉพาะทาง ย่อมเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการจ้างพนักงานชั่วคราวจากบริษัท Outsource สามารถให้ประโยชน์กับองค์กรและธุรกิจในหลากหลายด้าน ทั้งการเริ่มต้นงานที่รวดเร็ว ลดความซับซ้อน ได้บุคลากรที่เชี่ยวชาญ และอีกมากมาย ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในยุคการทำงานสมัยใหม่สำหรับองค์กรใดที่ต้องหาบุคลากรชั่วคราวเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ ทาง ManpowerGroup Thailand พร้อมที่จะช่วยเหลือองค์กรของคุณเพราะเราคือ Recruitment Agency ที่มีความเชี่ยวชาญในการหาคนทำงานที่มีคุณภาพให้แก่องค์กร เรามีบริการสรรหาพนักงาน Outsourcing อย่างครบวงจร ตั้งแต่การสรรหาและคัดสรรบุคลากรที่เหมาะสม การทำ Payroll การฝึกอบรม บริการรับทำเงินเดือนพนักงาน รวมไปถึงให้คำปรึกษาในด้านการหาคนทำงาน ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจและอุดรอยรั่วได้ในทุกจุดManpower เก่งหาคน ถนัดหางาน “We Love our Jobs”บริษัทจัดหางานชั้นนำระดับโลก ตอบโจทย์การให้บริการอย่างครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า "คน" หรือ "Manpower" คือ กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกธุรกิจ ด้วยประสบการณ์ในการสรรหาบุคลากรตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับบริหารให้เข้ากับองค์กรชั้นนำของเรากว่า 20 ปีในประเทศไทย เพื่อยกระดับตลาดแรงงาน พัฒนาศักยภาพพนักงานและธุรกิจสู่ความสำเร็จไปพร้อมกันติดต่อเราLINE OA: @manpowergroup_thCall Center: 02-171-2345E-mail: recruitmentthailand@manpower.co.thWebsite:www.manpowerthailand.com
-
ผลสำรวจ "แนวโน้มการจ้างงาน" ไตรมาสที่ 3/2566
20 June 2023 ประธานและกรรมการผู้บริหารของ ManpowerGroup: "ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่านายจ้างกำลังวางแผนในการจ้างงานอย่างรอบคอบมากขึ้นสำหรับไตรมาสถัดไปเนื่องจากต้องดำเนินการในสถานการณ์ที่มีความท้าทายทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับมหภาค ตั้งแต่ปัญหาการจัดหาแรงงานจนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ไม่สม่ำเสมอและการเพิ่มขึ้นของภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม การดึงดูดและรักษาพนักงานที่สำคัญต่อธุรกิจยังคงเป็นประเด็นสำคัญ และผู้ตอบแบบสำรวจของเราทั่วโลกยังคงให้ความสำคัญกับการจ้างงานสำหรับบทบาทที่เป็นที่ต้องการ"ผลสำรวจ "แนวโน้มการจ้างงาน ไตรมาสที่ 3/2566" ล่าสุดพบว่าผู้ว่าจ้างใน 26 ประเทศรายงานว่ามีแนวโน้มการจ้างงานที่อ่อนแรงกว่าช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้านี้ อีก 12 ประเทศมีแนวโน้มการจ้างงานที่ดีขึ้น และคงที่ในอีก 2 ประเทศ โดยรวมทุกภูมิภาคแสดงให้เห็นว่ามีการออกแบบการจ้างงานที่เป็นบวกสุทธิ แม้ว่าแผนการจ้างงานจะอ่อนแรงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของทุกปีแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ได้สำรวจจากนายจ้างกว่า 39,000 ราย จาก 41 ประเทศทั่วโลก เกี่ยวกับแผนการการจ้างงานในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023กรอกข้อมูลด้านล่าง เพื่อดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มIf you are a human, ignore this field* * * * Full name* * * * E-mail Address* * * * Company Name
-
ผลสำรวจ "แนวโน้มการจ้างงาน" ไตรมาสที่ 2/2566
19 June 2023 "ถึงแม้จะมีแรงกดดันทางเศรษฐกิจ แต่แนวโน้มการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง และผู้ว่าจ้างทุกภาคสายอุตสาหกรรมยังคงมองหาบทบาทที่ต้องการมากที่สุด ในขณะเดียวกัน ในตลาดแรงงาน หลายคนพบปัญหาในการค้นหาบุคลากรที่มีทักษะที่ต้องการ ทั้งทักษะทางเทคนิค (Technical Skills) และทักษะความสามารถของบุคคล (Soft Skills) การลงทุนในการเพิ่มทักษะใหม่ การเปลี่ยนแปลงทักษะ และการให้ความสำคัญในการเตรียมคนให้พร้อมสำหรับงานในอนาคตจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้นำธุรกิจทุกท่าน"คุณโจนาส ไพรส์ซิ่งประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารแมนพาวเวอร์กรุ๊ปประเด็นสำคัญ- ผู้ว่าจ้างใน 41 ประเทศ คาดว่ามีแนวโน้มการจ้างงานเชิงบวกในไตรมาสที่ 2 โดยมี 22 ประเทศจาก 41 ประเทศ รายงานว่ามีแนวโน้มการจ้างงานสูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมา- แนวโน้มการจ้างงานที่เติบโตมากที่สุดได้ถูกรายงานมาจากผู้ว่าจ้างในภาคอุตสาหกรรมด้าน IT, บริการด้านการสื่อสาร, การเงิน และอสังหาริมทรัพย์- ปัญหาความขาดแคลนทรัพยากรด้านบุคคล มีอยู่ในระดับสูงที่สุดทั่วโลก : 77% ของผู้ว่าจ้าง รายงานว่ามีความยากลำบากในการรับคนเข้าทำงาน โดยบทบาทที่ยากที่สุดในการรับคนเข้าทำงานคือด้าน IT, วิศวกรรม, การขายและการตลาด ManpowerGroup ได้สัมภาษณ์ผู้ว่าจ้างจำนวนเกือบ 39,000 รายใน 41 ประเทศเกี่ยวกับแนวโน้มการจ้างงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2023สามารถดาวน์โหลดรายงานเพิ่มเติมได้ โดยกรอกข้อมูลด้านล่าง
-
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป กับแนวทางปฏิบัติที่แสดงความยอมรับความหลากหลายในที่ทำงาน และสนับสนุนเพื่อนร่วมงาน LGBTQIA+
14 June 2023 Pride Month ในเดือนมิถุนายน เป็นช่วงเวลาที่ทั่วโลกร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วมโดยปราศจากอคติ การแสดงจุดยืนสนับสนุน เป็นแนวร่วมกับกลุ่ม LGBTQIA+ หรือผู้มีความหลากหลายทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล ทรานส์ หรือเพศทางเลือกอื่น ๆ ในแง่มุมขององค์กรและธุรกิจต่าง ๆ Pride Month เป็นสิ่งย้ำเตือนว่าเราต้องเร่งมือในการสร้างพื้นที่ทำงานที่เปิดกว้าง เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่ในเดือนนี้ แต่ตลอดปีและตลอดไป แมนพาวเวอร์กรุ๊ปทำงานกับลูกค้าหลายแสนรายทั่วโลก โดยเราหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นแรงผลักดันให้กลุ่มลูกค้าและพันธมิตรของเราได้ร่วมกันทำความฝันในการสร้างสังคมที่เท่าเทียมและโลกที่ทุกคนเคารพในความหลากหลายทางเพศขึ้นมาด้วยกัน และนี่คือ 5 แนวทางปฏิบัติที่แสดงความยอมรับความหลากหลายในที่ทำงาน และสนับสนุนเพื่อนร่วมงาน LGBTQIA+ 1. สร้างเครือข่ายสนับสนุน LGBTQIA+เพื่อดึงดูดและรักษาพนักงาน LGBTQIA+ ไว้ สิ่งสำคัญคือต้องสร้างการสนับสนุนที่มองเห็นได้ภายในบริษัท สนับสนุนกลุ่มทรัพยากรทางธุรกิจของพนักงาน LGBTQIA+ (BRGs) และกลุ่มงานสังคมอื่นๆ และขยายโอกาสเดียวกันสำหรับกิจกรรมนอกหลักสูตร ความคิดริเริ่มเหล่านี้ให้ความรู้สึกเป็นเจ้าของและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของคุณในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ไม่แบ่งแยก 2. สนับสนุนการสร้างนโยบาย DEIBDEIB ย่อมาจาก D=Diversity หรือความหลากหลาย E= Equality หรือความเท่าเทียม I=Inclusion หรือการอยู่ร่วมกัน B=Belonging หรือการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม โดยนโยบาย DEIB ควรแสดงถึงจุดยืนที่ชัดเจนของบริษัทในการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศวิถีแบบปราศจากอคติหรือข้อจำกัดใด ๆ ซึ่งควรจะระบุถึงขอบเขตรับผิดชอบของทั้งตัวบริษัทและพนักงาน หากเกิดกรณีที่นโยบายนี้ถูกละเมิด โดยบริษัทนานาชาติควรต้องมีการออกยุทธศาสตร์ที่เป็นสากล ในการขับเคลื่อนแนวคิดความเท่าเทียมและการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อกลุ่ม LGBTQ+ อย่างไรก็ตาม พึงระวังไว้ว่าแนวคิดดังกล่าวอาจจะยังไม่ได้ถูกยอมรับในบางภูมิภาคหรือตลาดบางส่วน 3.ใช้เทคโนโลยีมาเป็นส่วนเสริมสร้างแนวทางปฏิบัติที่ดีโลกหมุนไปข้างหน้าเสมอ ตอนนี้เรามีเทคโนโลยีที่พร้อมหนุนนำนโยบาย DEIB ของบริษัทคุณ ด้วยการช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยให้สามารถระบุปัญหาและลดอคติ เพิ่มความโปร่งใสและความชัดเจน ตลอดจนช่วยในด้านการอบรมพนักงานได้ด้วย โดยองค์กรต่าง ๆ สามารถดาวน์โหลด Diversity, Equity and Inclusion 4.0 toolkitของสภาเศรษฐกิจโลก เพื่อเพิ่มโอกาสที่เปิดกว้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี 4. รับฟัง ขอโทษ และเรียนรู้จากข้อผิดพลาดทำบาปเป็นมนุษย์ ให้อภัยเป็นพระเจ้า – Alexander Popeทุกคนย่อมเคยทำผิดพลาด แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะเราคือมนุษย์ และการที่เรายอมรับการกระทำของตัวเองในอดีต ที่อาจเคยแสดงถึงการกีดกัน หรือความก้าวร้าวเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อความหลากหลายทางเพศ อาจด้วยสภาวะสังคมในตอนนั้น หรืออะไรก็ตาม แต่ ณ ตอนนี้ เมื่อสังคมเปิดกว้างมากขึ้น เราสามารถตอบสนองด้วยความเข้าใจ เห็นใจ และขอโทษอย่างจริงใจ เพราะสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความตระหนัก รู้สึกผิด และทัศนคติที่เติบโตของคุณอย่างแท้จริง 5. ตั้งเป้าหมายและติดตามผลควรมีการจัดทำรายงานความคืบหน้าของนโยบาย DEIB ให้ผู้บริหารองค์กรรับทราบเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง โดยมีการติดตามผลเกี่ยวกับระดับการมีส่วนร่วมและประสบการณ์ที่พนักงานได้รับจากนโยบาย ตลอดจนมีการมอบหมายให้พนักงานระดับอาวุโสให้กำกับดูแลการอบรมและการดำเนินนโยบาย DEIB ด้วย การสร้างมาตรฐานและมาตรวัด จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความสำเร็จ แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เชื่อมั่นเสมอว่าภาคธุรกิจ ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และพึงเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้น ในแง่มุมขององค์กร ความรับผิดชอบนี้หมายถึงการสร้างสถานที่ทำงานที่เปิดกว้างต่อความหลากหลาย และ การจ้างงานพนักงานโดยปราศจากอคติใด ๆ มาร่วมมือกันในวันนี้ ให้ธงสีรุ้งโบกสะบัดอย่างสง่างามในออฟฟิศของคุณ เปิดตัวเอง… เปิดใจ… เปิดพื้นที่ให้ทุกเพศวิถีแสดงออกได้อย่างเท่าเทียม
-
[ประกาศสำคัญ] เตือนภัย! มิจฉาชีพแอบอ้างประกาศรับสมัครงาน
9 June 2023 ประกาศสำคัญเตือนภัย! มิจฉาชีพแอบอ้างชื่อแมนพาวเวอร์กรุ๊ป หลอกให้เหยื่อทำงานกับลูกค้าของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป หรือทำงานกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ปและโอนเงินเข้าบัญชีของมิจฉาชีพบริษัท สกิลพาวเวอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท จัดหางาน แมนพาวเวอร์ โปรเฟสชั่นแนล แอนด์ เอ็กคูซีฟ จำกัด, บริษัท จัดหางาน เอช อาร์ พาวเวอร์ โซลูชั่น จำกัด และบริษัท จัดหางาน บอร์เดอร์เลส ทาเล้นท์ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งต่อไปนี้ ขอเรียกว่า "แมนพาวเวอร์กรุ๊ป" ได้พบว่า ขณะนี้ได้มีกลุ่มมิจฉาชีพ แอบอ้างชื่อ แมนพาวเวอร์ กรุ๊ป หรือเครื่องหมายการค้าของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ซึ่งบุคคลดังกล่าวไม่ได้มี ความเกี่ยวข้องกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ปแต่อย่างใด โดยบุลคลดังกล่าวไปลงประกาศโฆษณาไว้บนโซเชียล มีเดีย หรือเว็ปไซด์การตลาดต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากแมนพาวเวอร์กรุ๊ป โดยแสร้งเป็นตัวแทนของ แมนพาวเวอร์กรุ๊ปชักชวนให้หารายได้จากงาน และหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อ โอนเงินเข้าบัญชี ซึ่งได้สร้างความเสียหายส่วนบุคคลต่อเหยื่อและความเสียหายต่อชื่อเสียงของแมนพาวเวอร์กรุ๊ปเป็นอย่างมากแมนพาวเวอร์กรุ๊ปขอเรียนให้ท่านทราบว่าแมนพวเวอร์กรุ๊ปรวมทั้งลูกจ้างของแมนพาวเวอร์กรุ๊ปไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องประการใดกับการกระทำดังกล่าว การกระทำเช่นนี้ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งทางอาญาและทางแพ่ง และแมนพาวเวอร์รุ๊ปกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวอย่างถึงที่สุดแมนพาวเวอร์กรุ๊ปขอเรียนให้ท่านทราบว่า แมนพาวเวอร์กรุ๊ปไม่มีนโยบายเสนองานหรือการจ้างงานใด ๆ ที่ให้ผู้สมัครต้องทำการโอนเงิน หรือซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม นอกจากนี้ แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ไม่มีนโยบายในการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมใดๆ กับผู้สมัครที่ใช้บริการจัดหางานของเราดังนั้น เราจึงขอแจ้งให้ทุกท่านระมัดระวังการกระทำของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวและอย่าหลงเชื่อคำชักชวน หรืองานใดๆ ที่กำหนดให้ผู้สมัครต้องทำการโอนเงิน อีกทั้ง โปรดรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของทุกท่าน
-
ปลดล็อคธุรกิจสู่อนาคตด้วยแนวคิดใส่ใจความยั่งยืน (Sustainable Workforce)
26 May 2023 เส้นทางสู่การดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึง “โลกของเรา” มากยิ่งขึ้นผู้บริโภครุ่นต่อไปคาดหวังให้องค์กรต่าง ๆ มีมุมมอง และแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงปัญหาของสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความยั่งยืน ไม่ใช่แค่กับตัวธุรกิจ แต่กับผู้คน สังคม และโลกของเราด้วย ที่แมนพาวเวอร์เรามีจุดยืนในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม สร้างสังคมที่ดี และสร้างความยั่งยืน เข้าใจถึงความสำคัญของการจัดบุคลากรของคุณให้สอดคล้องกับค่านิยมแห่งความยั่งยืนเพื่อความสำเร็จในโลกปัจจุบัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราก้าวไปไกลกว่าบริการจัดหางานแบบดั้งเดิมเพื่อให้คำปรึกษาที่ครอบคลุมและแนะนำองค์กรเกี่ยวกับกรอบการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยความเชี่ยวชาญของเราในการสรรหาบุคลากรเพื่อความยั่งยืนและงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราจะช่วยคุณค้นหาผู้มีความสามารถที่เหมาะสมเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกและมีส่วนร่วมในอนาคตที่สดใส ทำไมต้องเลือกเรา? รู้ข้อมูลเชิงลึกของทุกภาคอุตสาหกรรมที่ปรึกษาของเรามีความรู้กว้างขวางเกี่ยวกับความยั่งยืน(Sustainability) และอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) เราเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งช่วยให้เราสามารถให้คำแนะนำและยกระดับกระบวนการการสรรหาบุคลากรที่ตรงตามความต้องการเฉพาะของคุณได้ เครือข่ายผู้มีความสามารถที่สนใจในอุตสาหกรรมสีเขียวเรามีเครือข่ายที่กว้างขวางของผู้เชี่ยวชาญที่สนใจในแนวคิดเพื่อความยั่งยืน เราสามารถเชื่อมโยงคุณกับกลุ่มคนเหล่านี้ที่ไม่เพียงแต่มีทักษะเฉพาะทางเท่านั้น แต่ยังอุทิศตนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แนวทางที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนองค์กรแมนพาวเวอร์เชื่อว่า “ความยั่งยืน” ไม่ใช่เพียงแนวคิด ในการทำธุรกิจ ไม่ใช่ว่าจะดูแค่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูทั้ง People, Profit และ Planet คือกำไรต้องมี โลกของเรายังสามารถที่จะอยู่รอดต่อไปได้ และคนในองค์กรก็ต้องแฮปปี้ด้วย บริษัทที่มีเป้าหมายในเรื่องของ “ความยั่งยืน” จะเติบโตเร็วกว่าบริษัทธรรมดา 2 - 3 เท่า โซลูชันส์ที่ปรับให้เหมาะกับคุณไม่ว่าคุณจะต้องการความช่วยเหลือในการพัฒนากลยุทธ์การจ้างงานที่ยั่งยืน วางแผนบทบาทการพัฒนาองค์กรให้ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียว หรือค้นหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสำหรับบทบาทงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราได้จัดเตรียมโซลูชันส์ที่ถูกปรับให้เหมาะกับคุณ เพื่อช่วยให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืน กระบวนการจ้างงานที่ง่ายขึ้นเมื่อเราเข้าใจประเด็นปัญหาและความท้าทายของคุณ เราสามารถปรับปรุงกระบวนการสรรหาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดเวลาและทรัพยากร เพื่อให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุด—ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ประเภทอุตสาหกรรมสีเขียวที่เราสนับสนุน•Biomass•Geothermal•Hydro/ Water•Solar•Wind•Utility Scale batteries/ Electric Vehicles•Waste Recycling ติดต่อแมนพาวเวอร์ เพื่อสำรวจว่าบริการให้คำปรึกษาของเรา สามารถช่วยให้มีกรอบการดำเนินธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับชีวิตผู้คน สังคม ทำให้โลกของเราดีขึ้น และสร้างผลกระทบเชิงบวกกับความต้องจ้างงานบุคลากรที่สอดคล้องกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร
-
ส่องทิศทางการทำงานในอุตสาหกรรมไอทีของปี 2023
22 May 2023 ในปี 2023 อุตสาหกรรมไอทียังคงเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในโลกแห่งการทำงาน โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทกับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นักพัฒนาจึงจำเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้ทัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน องค์กร และอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจากรายงาน Global Insights โดย ManpowerGroup พบว่า ในปัจจุบันมี 7 ประเด็นที่น่าสนใจ ที่นอกจากจะเป็นตัวขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านไอทีแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อพนักงานเป็นวงกว้างอีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กันอย่างมากมาย แต่การมีทักษะที่หลากหลายและจำเป็นต่อการทำงาน จะสร้างความแตกต่างให้กับแต่ละบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งนี้ประเด็นข้างต้น จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมไอทีมากยิ่งขึ้น หากการดิสรัปเหล่านี้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะส่งผลให้องค์กรมีตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ผูกขาด ทำให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า ในอนาคตจะยังคงขาดแคลนผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอยู่ ดังนั้นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ในการมองการณ์ไกลเพื่อใช้ประโยชน์จากความสามารถเหล่านี้จะเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็ม
-
ในการหาคนทำงานให้มีประสิทธิภาพ ฝ่าย HR ควรทำอะไรบ้าง?
18 May 2023 การสรรหาบุคลากร (Recruitment) คือ หน้าที่สำคัญของฝ่ายทรัพยากรบุคคล เพื่อค้นหาบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ เข้ากับองค์กร มีทักษะและศักยภาพที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน ซึ่งกระบวนการเลือกคนเข้าทำงานเริ่มต้นตั้งแต่การวางแผน การสรรหาและคัดเลือก การสื่อสารให้ผู้สมัครงานเกิดแรงจูงใจในการเข้าร่วมงานกับองค์กร ไปจนถึงการสรุปผล ประกอบกับต้อนรับพนักงานใหม่เข้าสู่องค์กรพูดได้ว่า การหาคนทำงานเป็นกระบวนการที่ทั้งฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้บริหารองค์กรต้องใส่ใจอย่างมาก แล้วทราบหรือไม่ว่า HR จะมีวิธีการการเลือกคนเข้าทำงานอย่างไรบ้าง? ถึงจะได้พบกับบุคลากรที่มีคุณภาพและเป็นผลดีต่อองค์กรมากที่สุด ขั้นตอนการคัดเลือกคนเข้าทำงานในบทความนี้จะรวบรวมขั้นตอนหลัก ๆ ในการคัดเลือกบุคลากร ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อฝ่าย HR และองค์กรหน้าใหม่ ในการหาคนทำงานที่ใช่ต่อไป1. กำหนดรายละเอียดงานที่ชัดเจนอันดับแรก เมื่อฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้รับมอบหมายให้ประกาศหาคนทำงาน สิ่งแรกที่จะต้องจัดการ คือ การกำหนดรายละเอียด หน้าที่ และความรับผิดชอบของตำแหน่งงานนั้น ๆ หรือ เรียกว่า Job Description นั่นเอง ไม่ว่าจะเพื่อแทนตำแหน่งเดิมที่ว่างลง เพิ่มตำแหน่งงานใหม่ ไปจนถึงในกรณีที่จัดตั้งองค์กรใหม่วิธีการกำหนดรายละเอียดงานนั้นสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การรวบรวมข้อมูลสารสนเทศที่ได้จากการวิเคราะห์งาน สอบถามความต้องการรวมไปถึงความคิดเห็นผู้จัดการฝ่าย หรือในกรณีที่พนักงานลาออก ฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็สามารถทำการจดบันทึกพร้อมอัปเดตข้อมูล เป็นต้น เมื่อผู้สมัครสอบถามว่าตำแหน่งงานนี้ทำหน้าที่อะไรบ้าง เจ้าหน้าที่ต้องอธิบายได้และให้ผู้สมัครเข้าใจง่ายอีกด้วย2. กำหนดกลยุทธ์การสรรหาและการคัดเลือกเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องทำการวางแผน คิดหาวิธีการค้นหาและเกณฑ์การคัดเลือกบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มหรือสื่อที่จะใช้ประกาศหาคนทำงาน การกำหนดทีมผู้สัมภาษณ์ รวมไปถึงคุณสมบัติเบื้องต้นที่องค์กรต้องการจากผู้สมัครงาน ในขั้นตอนนี้ ฝ่าย HR สามารถทำการนัดประชุมกับผู้จัดการฝ่ายที่ต้องการหาคนทำงาน ผู้บริหาร รวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยหลัก ๆ แล้ว ในการประชุม เนื้อหาส่วนมากมักจะเกี่ยวกับรายละเอียดคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาร่วมทำงานกับองค์กร อาทิ ระยะเวลาในการประกาศรับสมัคร เพศ อายุ การศึกษา ประสบการณ์ กำหนดฐานเงินเดือน และบุคลิกภาพ เมื่อได้กำหนดคุณสมบัติที่ต้องการ พร้อมเตรียมรายละเอียดอื่น ๆ ครบถ้วน ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการประกาศหาคนทำงานต่อไป3. การลงประกาศรับสมัครหาคนทำงานเมื่อมีเอกสารกำหนดรายละเอียดงานและเกณฑ์การรับสมัครพร้อมแล้ว ต่อมาก็คือการนำข้อมูลเหล่านั้นมาลงประกาศหาคนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นบนเว็บไซต์, พื้นที่สื่อขององค์กร หรือจะเป็นเว็บไซต์ภายนอก โดยหน้าที่ของฝ่าย HR คือ ศึกษาเว็บไซต์ที่จะลงประกาศหาคนมาทำงาน ทำการเปรียบเทียบกลุ่มคนที่เข้ามาสมัครหรือส่งเรซูเม่ (Resume) และเปรียบเทียบราคาการประกาศตำแหน่งงานขององค์กรอื่น ๆ เพราะแต่ละอย่างที่กล่าวมาเป็นนับต้นทุนของบริษัท เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ก็ทำการสรุปข้อเปรียบเทียบราคาส่งให้ผู้จัดการฝ่ายอนุมัติงบประมาณต่อไปนอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่สะดวกต่อฝ่ายทรัพยากรบุคคล นั่นคือ การใช้บริการบริษัทจัดหาพนักงาน (Recruitment Agency) ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการคัดเลือกบุคลากรที่เหมาะสมให้ตรงตามความต้องการขององค์กร4. คัดเลือกใบสมัครงานจากใบสมัครงานและเรซูเม่จำนวนหลายสิบหรือหลายร้อยฉบับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลมีหน้าที่ในการคัดสรรคุณสมบัติตรงและใกล้เคียงมากที่สุดและส่งต่อให้กับผู้จัดการฝ่ายหรือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ก่อนที่จะเริ่มนัดสัมภาษณ์ผู้สมัครงานต่อไป5. สัมภาษณ์งานและสรุปผลในการสัมภาษณ์งาน แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ต้องเตรียมสภาพแวดล้อมให้พร้อม เพื่ออำนวยความสะดวกมากที่สุด เช่น สำหรับการสัมภาษณ์แบบ Face-to-Face ควรจัดเตรียมห้องสัมภาษณ์ เอกสาร แบบฟอร์มต่าง ๆ สำหรับให้พนักงานกรอกข้อมูล หรือทำแบบทดสอบ หรือหากเป็นการสัมภาษณ์ออนไลน์ ก็ต้องมีการนัดแนะโปรแกรมที่จะใช้งาน พร้อมกำหนดเวลาที่ชัดเจนให้กับทั้งผู้สมัครและผู้สัมภาษณ์เมื่อทำการสัมภาษณ์งานเสร็จ อันดับต่อมาคือการสรุปผลสัมภาษณ์ โดยอาจใช้แบบประเมินตามเกณฑ์พิจารณาของบริษัทไว้ และทำการแจ้งผลกับผู้สมัครงานเป็นอันเสร็จสิ้นสัญญาณที่ดี ที่ HR ควรพิจารณารับผู้สมัครเข้าทำงานแน่นอนว่าในการเลือกคนเข้าทำงาน เราไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้สมัครงานเหล่านั้นมีศักยภาพมากน้อยแค่ไหน หรือมีอุปนิสัยอย่างไร ดังนั้นมาดูกันว่า “สัญญาณที่ดี” ที่ฝ่าย HR ควรเก็บไว้เป็นข้อพิจารณาในการเลือกคนเข้าทำงาน1. มีความรู้ความสามารถในตำแหน่งงานที่สมัครเราสามารถตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นได้จากประวัติการศึกษาและประวัติการทำงาน อีกทั้งในการสัมภาษณ์ ฝ่าย HR สามารถที่จะถามคำถามเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นวิธีการรับมือปัญหา รายละเอียดการทำงานในโปรเจคนั้น ๆ ที่ระบุในเรซูเม่ การเลือกผู้ที่มีประสบการณ์ในสายงานนั้น ๆ โดยตรง และมีวันที่พร้อมเริ่มงานชัดเจน นอกจากไม่ต้องเสียเวลาในการสอนงานแล้ว ฝ่ายทรัพยากรบุคคลยังสามารถช่วยหาหลักสูตรในการเสริมทักษะเพื่อพัฒนาศักยภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิผลให้กับองค์กรได้อีกด้วย2. มีทักษะในการวางแผน ไหวพริบในการแก้ปัญหาคำถามหนึ่งที่ต้องมีในการสัมภาษณ์แน่ ๆ คือ คำถามที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหา เพื่อทดสอบผู้สมัครดูว่ามีไหวพริบมากน้อยแค่ไหน และสามารถทำงานภายใต้แรงกดดันได้ดีหรือไม่ ซึ่งหากผู้สมัครสามารถแก้ปัญหาได้ดี มีประสิทธิภาพ และเป็นวิธีการที่ใช้ได้ในสถานการณ์จริง ก็เป็นสัญญาณว่าเป็นผู้สมัครที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ3. กระตือรือร้น ขยันขันแข็ง รับผิดชอบคุณสมบัติทั้งสามนี้มักมาควบคู่กัน และเป็นคุณสมบัติที่ดีที่พนักงานควรมี โดยอาจสังเกตจากการพูดในขณะสัมภาษณ์ ไปจนถึงความสนใจในการเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ที่จะนำมาตอบ หรือการตอบสนองการสนทนาที่ช่วยให้การพูดคุยราบรื่นและไม่น่าเบื่อ4. ยอมรับความผิดพลาด พร้อมแก้ไขข้อบกพร่องการยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง และพร้อมที่จะทำการแก้ไขความผิดนั้น ๆ ล้วนเป็นคุณสมบัติที่องค์กรต่างต้องการให้บุคลากรทุกคนมี โดยขณะสัมภาษณ์ ฝ่าย HR สามารถสอบถามถึง ความล้มเหลวที่เคยประสบ และวิธีการรับมือ เท่านี้ก็สามารถสะท้อนทัศนคติเรื่องนี้ในเบื้องต้นได้อย่างดี5. ควบคุมอารมณ์ได้ ใช้เหตุผลอย่างเหมาะสม และให้เกียรติผู้อื่นการให้เกียรติซึ่งกันและกันในการทำงานสามารถช่วยลดปัญหาภายในองค์กรได้ และช่วยให้ความสัมพันธ์ของคนในองค์กรเป็นไปอย่างราบรื่น อีกทั้งบุคลากรที่ให้เกียรติผู้อื่นอยู่เสมอ มักเป็นผู้สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ในการทำงานหรือเข้าแก้ปัญหา ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ HR ควรสังเกตให้ดีขณะทำการสัมภาษณ์ หรืออาจเตรียมสถานการณ์เพื่อทดสอบด้วยก็ได้ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องเบื้องต้นเกี่ยวกับการหาคนทำงานที่ฝ่าย HR ต้องรู้เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเปิดรับสมัครคนทำงาน หรือในการสัมภาษณ์และสังเกตคุณสมบัติของผู้มาสมัครงาน ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้ เพื่อให้องค์กรได้พบกับบุคลากรที่มีศักยภาพ ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพส่วนองค์กรใดที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลมากนัก หรือต้องการการสนับสนุน ManpowerGroup Thailand พร้อมที่จะช่วยเหลือองค์กรของคุณเพราะเราคือ Recruitment Agency ที่มีความเชี่ยวชาญในการหาคนทำงานที่มีคุณภาพให้แก่องค์กร พร้อมบริการ HR Consultant สำหรับธุรกิจอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบริการสรรหาบุคลากรประจำ ชั่วคราว สัญญาจ้าง การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน การฝึกอบรม บริการรับทำเงินเดือนพนักงาน การดำเนินการเอกสารด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงานสำหรับพนักงานชาวต่างชาติ รวมไปถึงให้คำปรึกษาในด้านการค้นหางาน รายงานตัวว่างงาน หรือคำแนะนำด้านต่าง ๆ มั่นใจได้ว่าแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย สามารถตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้ในทุกจุดManpower เก่งหาคน ถนัดหางาน “We Love our Jobs”บริษัทจัดหางานชั้นนำระดับโลก ตอบโจทย์การให้บริการอย่างครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า "คน" หรือ "Manpower" คือ กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกธุรกิจ ด้วยประสบการณ์ในการสรรหาบุคลากรตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับบริหารให้เข้ากับองค์กรชั้นนำของเรากว่า 20 ปีในประเทศไทย เพื่อยกระดับตลาดแรงงาน พัฒนาศักยภาพพนักงานและธุรกิจสู่ความสำเร็จไปพร้อมกันติดต่อเราLINE OA: @manpowergroup_thCall Center: 02-171-2345E-mail: recruitmentthailand@manpower.co.thWebsite:www.manpowerthailand.com
-
The Wolf of Wall Street - หนังสร้างแรงบันดาลใจให้นักขาย
17 May 2023 The Wolf of Wall Street หนังตลกแนว Dark Comedy ที่กำกับโดย Martin Scorsese และได้หนุ่มหล่อตลอดกาลอย่าง Leonardo DiCarprio มารับบทนักแสดงนำในบท Jordan Belfort โบรกเกอร์หนุ่มที่ถูกขนานนามในวงการว่า “หมาป่าแห่งวอลล์สตรีท” เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เล่าถึงการขึ้นสู่จุดสูงสุดและลงสู่จุดต่ำสุดของ Belfort ยอดนักขายคนนี้ Jordan Belfort คือ ผู้ก่อตั้ง Stratton Oakmont ที่หลอกลวงนักลงทุนจนสร้างรายได้กว่า 200 ล้าน USD ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ หลอกขายหุ้นราคาถูกแก่นักลงทุน จากนั้นปั่นราคาให้สูงขึ้น เพื่อหลอกล่อให้คนทุ่มซื้อเพิ่ม ที่เหลือก็ฟันกำไรจากราคาทุนที่แสนถูกของมันเส้นทางสีเทานี้ได้เบิกทางให้เขากลายเป็นเศรษฐีเงินล้านในชั่วข้ามคืน ใช้ชีวิตอย่างสุดโต่งในคฤหาสน์หรูหรา ห้อมล้อมด้วยปาร์ตี้ ผู้หญิง และยาเสพย์ติด จนก็ไปดึงดูดสายตาของ FBI และนำไปสู่ความหายนะในที่สุด หลังจากถูกคุมขังในเรือนจำ Belfort ก็ได้กลายมาเป็นคนใหม่ที่มีความคิดที่ “เฉียบขาด” และทุกวันนี้ เขาได้เดินทางไปเพื่อพูดสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก (บัตร sold out ทุกรอบด้วยนะเออ) แม้ว่า Belfort จะดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมายมาก่อน แต่เขาก็นับเป็นพนักงานขายที่มีความสามารถขั้นเทพ การดูหนังเรื่องนี้จึงไม่ได้มีแค่ความสนุก แต่บทและเส้นเรื่องยังสอดแทรกเทคนิกการขายและการการจัดการที่เราทุกคนสามารถเรียนรู้และนำมาปรับใช้กับการทำงานได้อีกด้วย วันนี้ Manpower ได้สรุปมาให้ทุกคนอ่านกันแล้วกับ เทคนิคที่นักขายต้องมีถ้าคุณอยากเป็น Top Salesman ! (สบายใจได้ค่ะทุกคน บทเรียนที่คัดมาทั้งหมดนี้ถูกกฎหมาย 100% และจะไม่ทำให้คุณถูกจับแน่นอน)1. "Sell me this pen" วลียอดฮิตที่กลายเป็นคำถามที่ต้องเจอในการสัมภาษณ์อาชีพนักขาย มาจากซีนที่ Belfort กำลังฝึกทีมเซลส์ของบริษัทตัวเอง โดยหยิบปากกาขึ้นมาหนึ่งแท่ง และบอกว่า "ขายปากกานี้ให้กับฉัน" หลายคนต่างเริ่มจากการสาธยายสรรพคุณของปากกาว่ามันดีมาก อย่างนู้นอย่างนี้ สุดท้ายเขาได้ยื่นปากกาให้ Brad และ Brad ได้ตอบว่า “ช่วยอะไรอย่างสิ ช่วยเขียนชื่อตัวเองในกระดาษให้หน่อย !?” แน่นอนว่าคุณต้องใช้ปากกา ถ้าจะเขียนชื่อลงไป.. ซึ่งอันนี้กลายเป็นบทสรุปของวลีนี้เลย "ไม่ว่าจะใคร จะรวยจะจน ต่างก็มีความอยาก (Demand) ในใจของตัวเองเสมอ"นี่คือบทเรียนข้อสำคัญข้อแรก --- สิ่งที่นักขายต้องทำ คือ การสร้าง Demand ให้ลูกค้า2. อย่าหยุดขายนอกจากจะดึง Demand ของลูกค้าออกมาแล้ว Belfort ยังมุ่งมั่นที่จะขายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จะไม่มีการวางสายจนกว่าจะปิดการขายได้ ! ฉากในหนังฉายภาพที่ Belfort ทำการขายหุ้น Penny ผ่านโทรศัพท์ เขาได้ใช้ 3 ขั้นตอนหลัก ๆ คือ เริ่มจากการทำให้ลูกค้าเชื่อใจ ไว้วางใจภายใน 4 วินาที จากนั้นลูกค้าจะเริ่มหยุดเพื่อฟัง จังหวะนั้นให้เรารีบพูดโน้มน้าว และแสดงทางลัดหรืออะไรก็ตามที่สามารถแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ ขั้นตอนสั้น ๆ นี่เองที่จะสร้างภาพให้ลูกค้ามองเราเป็นคนฉลาด เฉียบคม และซื่อตรง ซึ่งความเชื่อใจนี้ มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจของลูกค้าในที่สุด3. สร้างแรงจูงใจกระตุ้นทีมขายอยู่เสมอถ้าใครที่เคยดูหนังเรื่องนี้ คงรู้สึกว่าบรรยากาศและวัฒนธรรมภายในบริษัทมันช่างดูเหลือเชื่อซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้ สภาพเมาเหล้าเมายาของทั้งพนักงานและเจ้าของบริษัท แต่ที่ซ่อนอยู่ในมายาภายนอกเหล่านั้น Belfort ได้สร้างบรรยากาศแข่งขันที่เปี่ยมไปด้วยพลังขับเคลื่อนอย่างแยบยล Belfort จัดประชุม 2 ครั้งต่อวัน แบ่งปันข้อความสร้างแรงบันดาลใจและยังเสนอสิ่งจูงใจให้กับนักขายอย่างค่าคอมมิชชั่นให้กับ Top Salesman เป็นประจำ ซึ่งในโลกความเป็นจริง อาจจะไม่จำเป็นต้องบ้าระห่ำเหมือนตัวละครในเรื่องนี้เป๊ะ ๆ แต่ถ้าคุณเป็นระดับหัวหน้า อาจจะลองกำหนดเป้าหมายรายเดือน และแรงกระตุ้นให้กับทีมในแบบฉบับของคุณเอง4. เน้นการฝึกฝนในเรื่องแสดงให้เห็นเลยว่า การจะเป็นนักขายที่เก่ง ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย หรือเพราะเรียนจบสูง ๆ นะ Belfort ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนคนที่ไม่มีการศึกษา และดูเหมือนจะขาดคุณสมบัติพื้นฐานในโลกการทำงานทั่วไป ให้กลายเป็นเครื่องจักรขายหุ้นที่เก่งกาจ อีกประเด็นคือเรื่องของการ "จ้างคนที่ใช่" ไม่จำเป็นที่จะต้องมีประสบการณ์มากนัก แต่การดูแล ฝึกฝนพวกเขาให้ประสบความสำเร็จ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับองค์กรเลยทีเดียว5. โอบรับความทุกข์ยากอันนี้อาจจะไม่ใช่เทคนิคการขายซะทีเดียว แต่เป็นคุณสมบัติเชิงทัศนคติที่มีส่วนทำให้ Belfort กลายเป็นโบรกเกอร์ที่ประสบความสำเร็จมากคนนึงของโลก เพราะแม้ชีวิตเขาจะเคยล้มลุกคลุกคลาน บริษัทที่ทำอยู่ล้มละลาย กลายเป็นคนตกงาน และได้รับงานใหม่เป็นคนขายหุ้นเพนนีที่ไร้ซึ่งความหมาย แต่เขาก็น้อมรับวิกฤตินี้ เปลี่ยนมันเป็นโอกาส โดยใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี ทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จได้ขึ้นชื่อว่า "นักขาย" แน่นอนต้องพบเจอทั้งการขายที่สำเร็จและไม่สำเร็จ ตัว Belfort เองก็แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จในระยะยาวไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาประสบทั้งความล้มเหลวและความสำเร็จก่อนที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพการงานของเขาในวอลล์สตรีท จนกระทั้งบริษัทล้มละลายและติดคุก Belfort ได้นำความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียนสู่ความสำเร็จอีกรูปแบบแทนแมนพาวเวอร์กรุ๊ป เป็นกำลังใจให้นักขายและเซลส์ทุกคน เราหวังว่า 5 ข้อคิดสำหรับนักขายจากหนังดีกรีออสการ์เรื่องนี้ที่เราสรุปมาให้ได้อ่านกัน จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคน และสำหรับใครที่อยากจะก้าวมาเดินเส้นทางนักขาย หรือ ใครที่หาบุคลากรเซลส์มืออาชีพอยู่ สามารถปรึกษาแมนพาวเวอร์ได้ ที่นี่ เลยค่ะ
-
I'M NOT YOUR INSPIRATION,THANK YOU. ‘คนพิการ’ ไม่ใช่สัญลักษณ์ในการสร้างแรงบันดาลใจ
11 May 2023 ไม่มีใครเลือกเกิดได้ เพราะถ้าเลือกได้ทุกคนในโลกนี้คงจะไม่มีใครเผชิญกับความไม่สมหวังและความยากลำบาก แต่เพราะเลือกไม่ได้ทุกชีวิตจึงแตกต่าง บางครั้งการมีชีวิตอยู่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน คนพิการที่ประสบความสำเร็จเป็นนักกีฬา มีงานทำ หรือเป็นเพียงเพื่อนบ้านที่ดีมักจะได้รับความสนใจในฐานะแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น อย่างไรก็ตาม พวกเขาเหล่านี้อาจไม่ได้ต้องการสาธยายถึงความยากลำบากของตัวเองเพื่อให้ทุกคนเห็นใจและยกย่องในความพยายาม มีคำพูดหนึ่งของ Stella Young นักเขียนและนักแสดงตลกที่ใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นได้พูดในเวที Ted Talk ไว้ว่า "I'm not your inspiration, thank you." (ฉันไม่ใช่แรงบันดาลใจของคุณขอบคุณนะคะ) ยิ่งตอกย้ำว่าคนพิการเพียงแค่ต้องการให้ "สังคม" ปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนมนุษย์ปกติคนหนึ่งมองพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนบ้านที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างเต็มที่เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ดังนั้นเรื่องราวที่แมนพาวเวอร์จะหยิบยกมาเล่าต่อไปนี้ เพื่อต้องการสร้างแรงขับเคลื่อนให้สังคมมองเห็นว่าพวกเขามีความสามารถ มีศักยภาพมากกว่ามองที่ความบกพร่องทางร่างกาย และยกย่องพวกเขาในฐานะ "มนุษย์คนหนึ่ง" ที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมและมีทัศนคติที่ดีต่อโลกใบนี้กันค่ะNick VujicicPhoto: spectrumnews1.comNick Vujicic เกิดในปี 1982 โดยไม่มีแขนขา เขามักจะจำได้ว่าตอนเป็นเด็กเขาถูกเยาะเย้ยและเลือกปฏิบัติสิ่งต่าง ๆ เลวร้ายสำหรับนิคจนถึงจุดหนึ่งที่เขาพยายามฆ่าตัวตายอย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปเขาเรียนรู้ที่จะเห็นศักยภาพของเขา นิคสอนตัวเองในการด้นสดเพื่อให้บรรลุทักษะหลายอย่างรวมทั้งการเล่นเครื่องดนตรีและการใช้คอมพิวเตอร์ในปี 2005 นิคก่อตั้ง Life Without Limbs เพื่อเผยแพร่ความหวังและแรงบันดาลใจไปทั่วโลกปัจจุบันเขาบรรยายเกี่ยวกับการสร้างแรงจูงใจทั่วโลกเขียนหนังสือหลายเล่มและทำรายการทอล์คโชว์และรายการทีวีเป็นประจำ ชื่อเสียงของนิคพุ่งสูงขึ้นหลังจากแสดงในภาพยนตร์สั้นที่น่าประทับใจเรื่อง TheButterflyCircusในปี 2009Andrea BocelliPhoto: andreabocelli.comนักดนตรี นักร้องเสียงเทเนอร์ นักเขียนและโปรดิวเซอร์เพลงจากอิตาลี Andrea Boccelli มีผลงานทางดนตรีที่ยอดเยี่ยมและมียอดขายมากกว่า 75 ล้านแผ่น Andrea เกิดมาพร้อมกับโรคต้อหินแต่กำเนิดซึ่งทำให้เขาตาบอดบางส่วนตั้งแต่แรกเกิด เมื่อทราบความสามารถทางดนตรีของเขาพ่อแม่ของAndreaจึงจัดให้เขาเรียนดนตรีตั้งแต่ยังเด็กเขาเรียนเปียโนจนถึงอายุหกขวบแม้จะมีปัญหาทางสายตาก็ตามตอนอายุ 12 ปี Andrea ในวัยเยาว์ได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างการแข่งขันฟุตบอล ผลของการกระแทกทับการมองเห็นที่บกพร่องแต่กำเนิดของเขาทำให้เขาตาบอดสนิท ด้วยจิตวิญญาณที่พิเศษเขาจึงตัดสินใจมุ่งความสนใจไปที่ดนตรีทั้งหมดโดยเฉพาะการร้องเพลง Andrea กลายเป็นนักร้องที่ได้รับการยกย่องในระดับสากลเขาเป็นหนึ่งในศิลปินไม่กี่คนที่นำเพลงคลาสสิกไปสู่อันดับต้น ๆ ของชาร์ตเพลงป๊อปสากลAndreaได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมายและยังมีชายหาดที่ตั้งชื่อตามเขาบนชายฝั่งทะเลเอเดรียติกKyle MaynardThis work is free and may be used by anyone for any purpose. The correspondence is available to trusted volunteers as ticket #2013082610010777.แม้จะเกิดมาพร้อมอาการพิการแต่กำเนิดที่ทำให้เขาเหลือแขนที่ข้อศอกและขาที่ใกล้หัวเข่า แต่ Kyle ก็เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระตั้งแต่เนิ่นๆความสามารถของ Kyle นั้นยอดเยี่ยมมากในปี 2012 Kyle กลายเป็นผู้พิการขาสี่ส่วนคนแรกที่ปีนขึ้นไปบนความสูง 19,340 ฟุตสู่ยอดเขาคิลิมันจาโรโดยไม่ต้องใช้ขาเทียมช่วยสี่ปีต่อมาในปี 2016 เขาไปถึงยอดเขา Aconcagua ของอาร์เจนตินา ซึ่งมีความสูง 22,838 ฟุตเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดทั้งในซีกโลกตะวันตกและซีกโลกใต้ ความสำเร็จหลายอย่างของ Kyle ได้สร้างความตระหนักรู้ถึงเรื่องราวในสังคมต่าง ๆ เช่นทหารผ่านศึกที่ได้รับบาดเจ็บและเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือปัจจุบัน Kyle เป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจนักเขียน ผู้ประกอบการและนักศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานที่ได้รับรางวัล ESPYMallory WeggemannPhoto: www.si.com/olympics ในปี 2008 Mallory Weggeman ไปโรงพยาบาลเพื่อรับการฉีดยาแก้ปวดครั้งที่ 3 เพื่อช่วยรักษาอาการปวดหลังที่เกิดจากโรคประสาท Postherpetic แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น เมื่อการดำเนินการผิดพลาด การรักษาที่ควรจะบรรเทาความเจ็บปวดที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมของเธอกลับทำให้ Mallory เป็นอัมพาตขาและสูญเสียการเคลื่อนไหวตั้งแต่ช่วงท้องลงไป เธออายุ 18 ปีมัลลอรี่เป็นนักว่ายน้ำตัวยงตั้งแต่ยังเด็ก เธอตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยให้ความพิการพรากเธอไปจากสิ่งที่เธอรัก หลังจากกลับมาที่สระได้ไม่ถึงปีครึ่ง Mallory ก็ทำลายสถิติโลกชุดแรกของเธอที่งาน Can-Am Speedo Para Swim Meet ปี 2009 ในอีก 4 ปีต่อมาเธอได้ทำลายสถิติอเมริกัน 34 รายการและสถิติโลก 15 รายการMallory เป็นแชมป์โลก 12 สมัย และผู้ชนะเหรียญพาราลิมปิก 2 สมัยจากลอนดอนเกมส์ 2012 เธอยังคงเดินทางไปทั่วโลกเพื่อแข่งขันว่ายน้ำและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมในการพูดสุนทรพจน์ทั่วโลกMuniba MazariPhoto: www.munibamazari.comMuniba ต้องนั่งรถเข็นหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรงในปากีสถานบ้านเกิดของเธอ ซึ่งทำให้ไขสันหลังของเธอเสียหายอย่างหนักระหว่างพักฟื้นหลายเดือน Muniba เริ่มค้นพบพรสวรรค์ด้านศิลปะของเธอ เธอวาดภาพบุคคลที่แสดงออกถึงตัวตนเพื่อเป็นทางออกสำหรับความเศร้าโศกส่วนตัวของเธอ สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และมีชีวิตชีวาของ Muniba ดึงดูดความสนใจได้ในทันทีเธอกลายเป็นศิลปินที่เป็นที่ต้องการอย่างมากโดยทำงานตามสัญญาส่วนตัวในโครงการต่างๆในปากีสถานและต่างประเทศเมื่อชื่อเสียงของเธอเติบโตขึ้นเนื่องจากงานศิลปะที่โดดเด่นและเรื่องราวที่ไม่เหมือนใคร Muniba ก็เริ่มใช้การพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและการเคลื่อนไหวเพื่อมนุษยธรรม เธอได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมายจากผลงานของเธอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นทูตสันถวไมตรีคนแรกของ UN Women จากประเทศบ้านเกิดของเธอที่ปากีสถานStephen Hawkingฮอว์คิงส์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค ALS (โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ,Amyotrophic Lateral Sclerosis) เมื่อเขาอายุ 21 ปีขณะที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ที่เคมบริดจ์แพทย์ของเขาบอกเขาในตอนแรกว่าเขามีชีวิตอยู่ได้สองปีเขาจบลงด้วยโรคนี้มานานกว่า 5 ทศวรรษStephen Hawking เป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกมีอาชีพอันทรงเกียรติในฐานะนักฟิสิกส์ทฤษฎีนักจักรวาลวิทยานักเขียน และผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยที่ศูนย์จักรวาลวิทยาเชิงทฤษฎีแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์หนังสือที่มีชื่อเสียงที่สุดเล่มหนึ่งของเขาคือ A Brief History of Time และเขาเป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์และนักวิจัยร่วมสมัยไม่กี่คนที่ก้าวข้ามโลกของนักวิทยาศาสตร์และกลายเป็นชื่อที่แพร่หลายไปทั่วโลกดร. ฮอว์คิงส์ใช้เวลาหลายปีเป็นอัมพาตตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาสื่อสารผ่านเครื่องสังเคราะห์เสียงซึ่งเขาทำงานโดยใช้กล้ามเนื้อแก้มข้างเดียว ฮอว์คิงสามารถดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ตีพิมพ์และบรรยายต่อไปได้ การมีส่วนร่วมของเขาในสาขาของเขามีมากมายและรวมถึงทฤษฎีใหม่ที่ปฏิวัติในจักรวาลวิทยาเชิงกายภาพ เขาเป็นผู้รับรางวัลสำคัญไม่น้อยกว่าสิบห้ารางวัล ซึ่งเกือบทั้งหมดได้รับมาเป็นเวลานานหลังจากที่ร่างกายของเขาพิการจากโรค ALSฮอว์คิงเสียชีวิตในปี 2018 ขณะอายุได้ 76 ปีStevie WonderPhoto: Emma McIntyre/Getty Images for The Art of Elysium Stevie Wonder ศิลปินผู้มากความสามารถ แม้ตาบอดสนิทตั้งแต่กำเนิด แต่กลับเป็นที่ยอมรับในความสามารถจากทั่วโลก Stevie คลอดออกมาก่อนกำหนด ในประวัติของเค้านั้นบางข้อมูลก็กล่าวว่า การที่เขาคลอดก่อนกำหนดทำให้ดวงตาพัฒนาไม่สมบูรณ์ ส่วนบางกระแสก็กล่าวว่า ความพิการของเขามาจากความผิดพลาดของแพทย์ที่นำทารกน้อยเข้าตู้อบซึ่งมีปริมาณออกซิเจนมากเกินไป จนทำให้เขาสูญเสียความสามารถในการมองเห็นแม้จะตาบอดตั้งแต่กำเนิดแต่ Stevie ก็เก่งด้านดนตรีตั้งแต่อายุยังน้อย สตีวีได้รับการระบุว่าเป็นเด็กอัจฉริยะและเซ็นสัญญากับค่ายเพลงแรกเมื่ออายุสิบเอ็ดปี เขาบันทึกเพลงฮิตติดท็อปเท็นของสหรัฐมากกว่า 30 เพลงรวมถึงเพลงดัง เช่น “Signed, Sealed, Delivered I'm Yours,” “Superstition”, “You Are the Sunshine of My Life” และ “I Just Call to Say I Love You” ”เขาได้รับรางวัลแกรมมี่มากกว่า 25 รางวัลสำหรับชื่อของเขาStevie ยังใช้เวลาหลายปีในการเคลื่อนไหวทางการเมืองเขาเป็นหนึ่งในนักรณรงค์คนสำคัญที่ทำให้วันเกิดของมาร์ตินลูเธอร์คิงจูเนียร์เป็นวันหยุดประจำชาติในสหรัฐอเมริกาในปี 1985 เขาได้รับเกียรติจากสหประชาชาติสำหรับจุดยืนต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติในแอฟริกาใต้ ในปี 2009 เขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ส่งสารแห่งสันติภาพแห่งสหประชาชาติจากความพยายามหลายปีของเขาในการรณรงค์ทางการเมืองอย่างสันติMichael J. FoxPhoto: Released by Apple TV+ shows Michael J. Fox in a scene from the documentary "Still: A Michael J. Fox Movie." (Apple TV+ via AP) Michael J. Fox ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคพาร์กินสันเมื่อเขาอายุ 29 ปีหลังจากได้รับชื่อเสียงไปทั่วโลกจากบทบาทของเขาในภาพยนตร์ Back to the Future และรายการโทรทัศน์เรื่อง Family Tiesแม้จะมีคนบอกเขาว่าเขาควรเกษียณแต่ฟ็อกซ์ยังคงทำงานด้านการแสดงต่อไปและสร้างผลงานการแสดงที่ได้รับการตอบรับอย่างดีหลายเรื่องในช่วง 10 ปีข้างหน้าซึ่งรวมถึงซิทคอมยอดนิยมอย่าง Spin City ฟ็อกซ์เกษียณจากการแสดงเต็มเวลาในปี 2543 นับตั้งแต่เกษียณอายุฟ็อกซ์ได้ทุ่มพลังส่วนใหญ่ให้กับการสนับสนุนผู้ป่วยโรคพาร์กินสันมูลนิธิของเขาได้ระดมทุนกว่า 230 ล้านดอลลาร์สำหรับการวิจัยโรคพาร์กินสันTammy DuckworthGetty Imagesแทมมี่ ดักเวิร์ธ เป็นสตรีแกร่งลูกครึ่งไทย-อเมริกันคนแรกที่ได้รับเลือกเข้าสภาแห่งรัฐอิลลินอยส์ วุฒิสมาชิกคนแรกของสหรัฐฯ ซึ่งมีดีกรีไม่ธรรมดา เพราะนอกจากจะเป็นสตรีทุพพลภาพคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาแล้ว แทมมี่ยังเคยเข้าร่วมกองทัพสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2535 อีกด้วย โดยเลือกที่จะเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งระหว่างที่เข้าร่วมรบในสงครามรุกรานอิรัก ถูกยิงลูกระเบิดเข้ามาในเครื่อง และเกิดระเบิดตรงที่เธอนั่ง ทำให้สูญเสียขาทั้งสองข้าง และแขนข้างขวาพิการ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความสามารถ และศักยภาพของเธอลดน้อยลงเลยแม้แต่นิดเดียวคนพิการมักถูกมองว่าเป็นผู้ด้อยโอกาสเพียงเพราะมี ‘บางสิ่ง’ ไม่สมบูรณ์ทั้งที่ในความเป็นจริงมนุษย์เราทุกคนไม่มีใครสมบูรณ์แบบแมนพาวเวอร์เน้นยำถึง "ความเท่าเทียม" มาโดยตลอดเราเชื่อในศักยภาพของคนไม่ว่าใครก็สามารถเป็นฮีโร่และทำงานให้ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน 🙂สำหรับท่านใดที่กำลังมองหางานอยู่ติดต่อแมนพาวเวอร์ได้ ที่นี่ เลยค่ะ
-
คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี! อัพสกิลปัง ๆ ก่อนเริ่มงาน
27 April 2023 น้อง ๆ จบใหม่ หรือใครที่กำลังหางาน และต้องการพัฒนาตัวเองอยู่มาทางนี้ค่าา จะเริ่มทำงานทั้งทีต้องปูพื้นฐานความรู้ให้แน่น ไปดูคอร์สเรียนออนไลน์ที่จำเป็นต่อการทำงานกัน แถมได้ใบ Certificate หลังเรียนจบด้วย!แมนพาวเวอร์ได้รวบรวมคอร์สออนไลน์เรียนฟรี ที่สอนพื้นฐานการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสายจิตวิทยา การตลาด การเงิน การบัญชีและการลงทุน หรือภาษา ไปดูกันเลยว่ามีคอร์สอะไรน่าสนใจบ้างคอร์สเรียนกลุ่มจิตวิทยาและการพัฒนาตัวเองในชีวิตการทำงานนั้นนอกจากความรู้แล้ว สกิลในการเข้าสังคมก็สำคัญไม่แพ้กัน บางครั้งความรู้ทางด้านจิตวิทยาก็ช่วยเราไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการเจรจา บุคลิกภาพเป็นต้นCreative Thinking: Techniques and Tools for Successในโลกปัจจุบันที่เติบโตและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความคิดอย่างสร้างสรรค์ การทำความเข้าใจหรือสื่อสารแนวคิดใหม่ ๆ ด้วยวิธีที่สร้างสรรค์และมีส่วนร่วม การเข้าหาปัญหาจากมุมมองใหม่ ๆ และการสร้างวิธีแก้ปัญหาใหม่ ๆ ล้วนเป็นคุณลักษณะที่องค์กรต้องการอย่างมาก>> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียน Consumer Behavior and Psychologyเคยสงสัยไหมว่าทำไมเราถึงเลือกที่จะซื้อสินค้าแบบเดียวกันจากแบรนด์หนึ่ง มากกว่าอีกแบรนด์ หรือทำไมการตอบสนองต่อโฆษณาแบบต่าง ๆ ถึงไม่เหมือนกัน สิ่งเหล่านี้ถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง คอร์สออนไลน์นี้จะพาคุณไปเรียนรู้ว่าการใช้จิตวิทยาของผู้บริโภคมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันอย่างไร >> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียนOrganizational behavior : Know your peopleใครที่อยากเรียนรู้พฤติกรรมของเพื่อนร่วมงานในองค์กรต้องห้ามพลาด มาเรียนแนวคิดทฤษฎี และวิธีการต่าง ๆ ในการทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละบุคคลในองค์กรเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศในการทำงานให้เป็นไปในทางที่ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น >> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียนคอร์สเรียนกลุ่มการตลาดออนไลน์ใครกำลังมองหาสกิลใหม่ ๆ Digital Marketing เป็นอีกสายที่มาแรงมาก ๆ ในยุคนี้! เรียกได้ว่าแทบจะหาโอกาสตกงานแทบไม่ได้ เพราะทุกออฟฟิศที่มาทางสายงานออนไลน์จำเป็นต้องมีสกิลนี้กันหมด ลองไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้างFundamentals of Digital Marketingเริ่มเรียนรู้ปูพื้นฐาน Digital Marketing เพื่อพัฒนาอาชีพและธุรกิจ ตั้งแต่การวิเคราะห์ Google Analytics, SEO, SEM, การโฆษณาผ่าน Google Ads เหมาะทั้งกับคนที่ทำงานในสาย การตลาดดิจิทัล และผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ ทั้งที่มีพื้นฐานและไม่มีพื้นฐาน แถมมีใบรับรองให้โดยตรงเมื่อจบคอร์ส >> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียนPromote a Business with Content เรียนรู้วิธีโปรโมทธุรกิจออนไลน์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย และ Content Marketing ให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น >> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียนDigital Marketing Specializationคอร์สปูพื้นฐานเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของการตลาดเมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามา ผู้เรียนจะได้เห็นภาพกว้าง ๆ ของความแตกต่างระหว่าง Digital Marketing กับ Analog Marketing จึงอาจจะค่อนข้างช้าเล็กน้อยสำหรับคนที่มีพื้นฐานมาบ้างแล้ว >> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียนคอร์สเรียนกลุ่มภาษาต่างประเทศปัจจุบันภาษาต่างประเทศนับเป็นส่วนสำคัญในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น และภาษาอื่น ๆ ในวงการของการทำงานเราจะเห็นว่าคนที่มีความสามารถด้านภาษา มักจะมีโอกาสได้งาน หรือได้ตำแหน่งที่ดีกว่าเสมอ และตอนนี้หลายบริษัทเริ่มจะระบุคุณสมบัติด้านภาษาไว้ในเกือบจะทุกตำแหน่งเลยก็ว่าได้ English for Effective Business Speaking คอร์สออนไลน์ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และเจรจาทางธุรกิจ เน้นการฝึกพูดให้คล่องและถูกหลักไวยากรณ์ >> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียน Chinese for Beginnersประชากรจีนมีจำนวนมากเป็นอันดับที่หนึ่งของโลก เศรษฐกิจหรือธุรกิจในประเทศจีนก็กำลังก้าวเข้าสู่อันดับต้น ๆ ของโลกเช่นกัน แถมยังเป็นพื้นที่ที่สร้างโอกาสการเติบโตให้กับอีกหลายสายงาน จนเดี๋ยวนี้คนไทยเองก็เริ่มทำงานในบริษัทจีนกันมากขึ้น ภาษาจีนจึงอาจเป็นภาษาที่สาม ที่พวกเราทุกคนควรจะรู้และเก็บเอาไว้สื่อสารกับชาวจีนได้ เพราะในอนาคตยังไงคุณก็จะได้ใช้! >> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียนJapanese for Beginnersถ้าพูดถึงภาษาที่ 3 ที่หลายคนสนใจอัพสกิล ภาษาญี่ปุ่นก็คงเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ เช่นกัน !>> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียนBusiness English: Communication Skills Specializationรวมทักษะภาษาอังกฤษธุรกิจพื้นฐานหลาย ๆ ด้านที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการประชุม การเจรจาต่อรอง การพูดพรีเซนต์ การสาธิตงาน เน้นไปทางการฟังและการพูด>> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียนคอร์สเรียนฟรีกลุ่มการเงิน บัญชี และการลงทุนวิชาที่ควรรู้แต่โรงเรียนไม่มีสอน ทั้งการจัดการเงิน การออม ภาษี การลงทุน และวางแผนเงินในวัยเกษียณ สอนเข้าใจง่าย เอาความรู้ไปปรับใช้ได้จริง มนุษย์เงินเดือน-คนทำงาน-เด็กจบใหม่ แนะนำว่าควรเรียนค่ะ!วางแผนภาษี สไตล์มนุษย์เงินออมเรียนรู้สิทธิประโยชน์และเงื่อนไขต่างๆ ในการลดหย่อนภาษีเพื่อให้สามารถวางแผนภาษีและเพิ่มเงินออมได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สิทธิประโยชน์และเงื่อนไขต่างๆ ในการลดหย่อนภาษีเพื่อให้สามารถวางแผนภาษีเพื่อเพิ่มเงินออมและก้าวสู่ความมั่งคั่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ >> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียนเคล็ดลับออมเงิน ฉบับคนเริ่มทำงานแนะนำแนวทางการวางแผนออมเงิน การสำรวจการใช้จ่าย การตั้งเป้าหมายตามหลัก SMART รวมถึงแนะนำการออมและการลงทุนผ่านตัวช่วยการลงทุนประเภทต่าง ๆ สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบัตรเครดิต การใช้บัตรเครดิต รวมถึงการใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด>> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียนMoney Managementเรียนรู้แนวคิดและขั้นตอนในการทำ Money Management เพื่อวางแผนการเทรดและจำกัดความเสี่ยงในการเทรดหุ้นแต่ละครั้ง เข้าใจแนวคิดและความสำคัญของการบริหารเงินลงทุน (Money Management) ตลอดจนเข้าใจขั้นตอนการทำ Money Management ทั้งการคำนวณโอกาสอยู่รอดในการลงทุน (Expectancy) และการกำหนดสัดส่วนเงินลงทุน (Position Sizing) เพื่อจำกัดการขาดทุนครั้งละมากๆ จากการเทรดหุ้นแต่ละครั้ง >> คลิกเพื่อลงทะเบียนเรียนไม่ว่าจะเพิ่งเรียนจบ หรือเรียนจบแล้วทำงานมาสักพักแล้วก็ยังสามารถเรียนออนไลน์หาความรู้เพิ่มเติมได้อยู่ดีนะคะ เพราะการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด สมัครงานกับเรา คลิกและน้อง ๆ คนไหนที่สนใจสายงาน HR ตอนนี้โครงการ Manpower Talent Academy กำลังเปิดรับรุ่น 2 แล้วนะคะ! โอกาสสำคัญที่จะได้เข้ามาเรียนรู้สายงาน Recruiter จากบริษัท Recruitment Agency ชื่อดังระดับโลก! สมัครฟรี เทรนนิ่งฟรี ได้ค่าแรงจริง💰สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2566 อย่ารอช้า รับจำนวนจำกัดนะคะ สมัครคลิก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line OA: @manpowergroup_th
-
เพิ่งเปิดธุรกิจ SME เป็นของตัวเอง จะหาคนทำงานคุณภาพได้จากที่ไหน?
26 April 2023 การเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นเรื่องท้าทาย อย่างธุรกิจ SME ซึ่งส่วนมากนั้นมีงบประมาณในการลงทุนที่จำกัด เจ้าของกิจการจึงต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังในทุกด้าน โดยเฉพาะในการบริหารแรงงานหรือการหาคนทำงานที่จำเป็นต้องคัดสรรเฉพาะบุคลากรที่มีความชำนาญ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามักจะเกิดปัญหาต่าง ๆ ในการสรรหาและคัดเลือกบุคลากร เช่น อัตราจ้างที่ไม่ลงตัว ทัศนคติไม่ลงรอย พนักงานไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร หรือได้บุคลากรที่ขาดทักษะ เป็นต้นหนึ่งในวิธีการหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว คือ การหาคนทำงานผ่านช่องทางที่เหมาะสม เข้าถึงผู้ว่างงานได้สะดวก และมีบุคลากรที่มีทักษะเพียบพร้อม แต่จะหาคนทำงานได้ที่ไหนบ้าง?ช่องทางการหาคนทำงานในปัจจุบันเมื่อต้องคัดสรรบุคลากรเข้ามาในธุรกิจ SME ที่มีงบประมาณจำกัด การจะหาผู้ที่มีศักยภาพและเข้ากับองค์กรได้ ก็ต้องเริ่มจากช่องทางที่ใช่ ได้แก่1. แหล่งประกาศงานบนช่องทางออนไลน์ (Online Job Boards)ในยุคเทคโนโลยีดิจิทัลนี้ แน่นอนว่าการประกาศหางานผ่านช่องทางออนไลน์ย่อมกลายมาเป็นช่องทางหลักขององค์กรต่าง ๆ อย่างเว็บไซต์ที่เป็น Online Job Boards ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้สมัครและองค์กรได้เข้ามาพบกัน ให้ทั้งความสะดวกและรวดเร็ว องค์กรสามารถกระจายสื่อและข้อความได้กว้างขวาง อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่ผู้ที่อยู่ระหว่างรายงานตัวว่างงาน ซึ่งเป็น Active Candidate มักสมัครเข้ามาเพื่อหางานอีกด้วย นอกจากนี้ ฝ่าย HR ยังมีโอกาสได้พบเจอกับPassive Candidate หรือกลุ่มคนที่มีศักยภาพแต่ไม่แสวงหางาน อีกทั้งสามารถเก็บโปรไฟล์ไว้พิจารณาหรือยื่นข้อเสนอในภายหลังได้อีกด้วยข้อดีได้พบกับผู้สมัครที่ต้องการงานจริง ๆสามารถพบกับผู้มีศักยภาพหลากหลายจำนวนมากเข้าถึงผู้สมัครได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย2. เครือข่ายสังคมออนไลน์ด้านธุรกิจ (Business Social Networks)สื่อโซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งความบันเทิงหรือใช้เพื่อรับ-ส่งข่าวสารเท่านั้น แต่บริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ล้วนหันมาใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือสำคัญในการหาคนทำงาน อีกทั้งใช้ในการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรอีกด้วย และแน่นอนว่าหนึ่งในเครือข่ายออนไลน์ด้านธุรกิจที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก คงหนีไม่พ้น LinkedIn คอมมูนิตี้ที่สามารถเชื่อมต่อกับ “Professional” หรือมืออาชีพจากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่ง SME สามารถสร้างโปรไฟล์บริษัทและประกาศรับสมัครงานผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ ซึ่งหากว่าองค์กรกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน งานตำแหน่งระดับ Senior ช่องทางสื่อโซเชียลมีเดียอย่าง LinkedIn ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ไม่ควรมองข้ามข้อดีเข้าถึงคนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางได้ดี ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้ที่ที่มีระดับการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีหรือสูงกว่าสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือให้กับองค์กร ผ่านการสร้างโปรไฟล์บน LinkedInเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจได้ทั่วโลก สามารถสร้าง Connection และพันธมิตรทางธุรกิจได้สามารถดูโปรไฟล์และติดต่อผู้สมัครได้โดยตรง ทั้งผู้ที่กำลังหางาน หรือผู้ที่ทำงานอยู่แต่มีโปรไฟล์น่าสนใจ3. การประกาศงานผ่านสื่อเฉพาะทาง (Specialist Media)สำหรับธุรกิจที่ต้องการบุคลากรเฉพาะทาง การประกาศรับสมัครงานผ่านสื่อเฉพาะสายงานเป็นอีกช่องทางที่ฝ่าย HR ไม่ควรพลาด เพราะสื่อเฉพาะทางเหล่านี้เปรียบเสมือนเป็นศูนย์รวมผู้คน ข้อมูล และข่าวสารเกี่ยวกับสายงานนั้น ๆ ในปัจจุบัน หลายสื่อก็เปิดพื้นที่ให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามาประกาศรับสมัครงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานเกี่ยวกับการตลาด การขาย งานสายดิจิทัล หรือแม้แต่งานสายบริหารธุรกิจ ก็เข้ามาหาคนทำงานผ่านสื่อเฉพาะทางลักษณะนี้ด้วยเช่นกันตัวอย่างสื่อเฉพาะทางที่เป็นที่รู้จักได้แก่ Marketing Oops! สื่อด้านธุรกิจและการตลาดแบบออนไลน์ และเป็นสื่อที่อยู่ในเครือข่ายของสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย (AAT) และ PORTFOLIOS.NET ที่เป็นคอมมูนิตี้ออนไลน์สำหรับผู้ที่อยู่ในสายงานการออกแบบและครีเอทีฟ กล่าวได้ว่า สื่อเฉพาะทางเหล่านี้เปิดโอกาสให้ธุรกิจได้พบกับบุคลากรเฉพาะทางได้อย่างตรงจุด เป็นประโยชน์ต่อบริษัท SME ในการประหยัดเวลาและทรัพยากรในการหาคนทำงานที่ใช่ในเวลาที่น้อยกว่าข้อดีสร้างความน่าเชื่อถือแก่ธุรกิจได้ดี สร้างการรับรู้ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสื่อช่วยผลักดันความน่าสนใจของประกาศรับสมัคร เพิ่มโอกาสที่ผู้คนจะเข้ามาสมัครงานได้สื่อผสมผสานในคราวเดียวกัน ทั้งออนไลน์ สิ่งพิมพ์ แ