ประมาณ 3 ปี ที่ผ่านมา -

แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยแนวโน้มตลาดแรงงานปี 2564 พร้อมแนะนำนายจ้าง-ลูกจ้างปรับตัวรับมือทุกการเปลี่ยนแปลง

Thumb Web News4

​​ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย

บริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ  ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลก

แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยแนวโน้มตลาดแรงงานปี 2564 พร้อมแนะนำนายจ้าง-ลูกจ้างปรับตัวรับมือทุกการเปลี่ยนแปลง

image.png

          แมนพาวเวอร์กรุ๊ปประเทศไทยเผยทิศทางและแนวทางการปรับทัพของตลาดงานและการปรับตัวของแรงงานในปี 2564 ชี้ผลพวงวิกฤตไวรัสโควิด-19 และเศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลตลาดงาน-แรงงานเปลี่ยนวิถีรูปแบบการทำงานและมองภาพปี 2564 เป็นปีแห่งฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญของภาครัฐภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมที่ต้องผนึกกำลังร่วมกันพร้อมจัดอันดับงานมาแรง10อันดับที่ตลาดงานต้องการและ 10 อันดับงานที่แรงงานพร้อมลุยเพื่อเป็นการลดช่องว่างและเติมเต็มตลาดงานในปัจจุบัน

มร.ไซมอนแมททิวส์, ผู้จัดการระดับภูมิภาคประเทศไทย,แถบตะวันออกกลางและเวียดนามแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำที่ปรึกษาด้านแรงงานเชิงนวัตกรรมกว่า 80 ประเทศทั่วโลกและในประเทศไทยเปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจในทุกอุตสาหกรรมเพราะมีความเชื่อมโยงกันรวมถึงตลาดแรงงานที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทั้งวิถีการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติงาน ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ที่ต้องปรับตัวรับกับสถานการณ์ทั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจโลกรวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทยนับเป็นผลพวงจากปัจจัยข้างต้นอย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐในเชิงนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวที่นับว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักรวมถึงด้านการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนที่เข้ามาช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อยเพื่อขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจในประเทศทางด้านการลงทุนจากต่างประเทศแม้ลดลงแต่ยังได้รับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังเป็นช่วงการทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะรูปแบบการทำงานภายใต้วิถีชีวิตแบบ New Normal ดังนั้นส่งผลให้ปี 2563 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการ Recovery สู่การ Renew ในปี 2564 ที่ต้องจับตาการฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการร่วมกัน อย่างไรก็ตามแม้สัญญาณการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ แต่การตระหนักรู้ตื่นตัวเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับจุลภาคจนถึงมหภาคทั้งภาคครัวเรือนภาคธุรกิจภาคอุตสาหกรรมภาครัฐทั้งในระดับประเทศจนถึงนานาประเทศในระดับโลกผมคิดว่าหากพวกเราปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงเราจะสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมีสติและสามารถแก้ไขปัญหาได้จนบรรลุความสำเร็จได้ต่อไปมร.ไซมอนแมททิวส์กล่าว

image.png

ทางด้าน นางสาวสุธิดากาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดแมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยต่อว่าแนวโน้มในปี 2564 ตลาดงานในส่วนขององค์กรธุรกิจมีการกลยุทธ์และการออกแบบการทำงานในรูปแบบใหม่เพื่อการลดต้นทุนจะถูกนำมาใช้ในองค์กรต่างๆมากขึ้นเพื่อให้มีความกระชับและมีต้นทุนที่ลดลงทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสตั้งแต่ต้นปี 2563 อีกทั้งการปรับโครงสร้างองค์กรและออกแบบกระบวนการทำงานใหม่ส่งผลให้รูปแบบการจ้างงานมีความยืดหยุ่นจากการจ้างงานแบบประจำมาเป็นรูปแบบการจ้างงานระยะสั้นประเภทต่างๆทั้งการจ้างงานชั่วคราวการจ้างงานแบบสัญญาจ้างและการจ้างงานในรูปแบบเอาท์ซอร์ส (Outsource) จะเป็นที่นิยมแพร่หลายตอบโจทย์การขาดแคลนกำลังคนได้ตามความต้องการ

นอกจากนี้เรากำลังเห็นแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีในการทำให้ขั้นตอนบางอย่างเป็นอัตโนมัติและดิจิตัลโดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นบางส่วนจนถึงทั้งกระบวนการทำงานอาทิพนักงานขายหน้าร้านพนักงานบริการลูกค้างานธุรการพนักงานขนส่งพนักงานฝ่ายการผลิตทั้งนี้ในการการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเชื่อมโยงผ่านแพลตฟอร์มส่งผลให้เกิดการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ใหม่ๆที่แรงงานต้องเตรียมพร้อมให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล

เราพบการมีพนักงานที่หลากหลายและมีกลุ่มคนทำงานหลายช่วงอายุในองค์กร (Multi-Generational Pool of Workers) ซึ่งปัจจุบัน แต่ละเจนเนอเรชั่นมีสัดส่วนที่เป็นกำลังแรงงานที่มีอายุระหว่าง 15-60 ปี ในส่วนของ Gen X กับ Yมีมากสุดและในกลุ่ม Gen Z จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นตามการเริ่มต้นเข้ามาในตลาด ซึ่งคนแต่ละรุ่นมีวิธีคิดและการทำงานที่แตกต่างกันไปตามประสบการณ์และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานที่จะต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันและประสบความสำเร็จด้วยกันต่อไป

image.png

อีกหนึ่งแนวโน้มที่จะเห็นในโลกของการทำงานกลุ่มแรงงานจะเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างทางเลือกเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มคนทำงานประจำยังคงรักษาความมั่นคงในอาชีพและจะมีการสร้างรายได้เสริมจากการรับงานอิสระประเภทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายงานหรือเป็นเรื่องที่ถนัด เช่น ทำขนมทำอาหารขายออนไลน์ หรือการขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น ทางด้านกลุ่มแรงงานที่ทำงานอิสระจะรับทำงานที่หลากหลายมากขึ้น บางคนผันไปเป็นรายได้หลักและการสร้างความมั่นคงจากงานระยะสั้นหลายๆ งานโดยสามารถบริหารจัดการและเลือกทำงานพร้อมๆกันได้หลายอย่าง นอกจากนี้ กระบวนการเรียนรู้และการเสริมทักษะต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในระดับบุคคลจะเป็นตัวเชื่อมโยงแรงงานและอาชีพต่างๆ ให้สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบทั้งงานปัจจุบันและงานในอนาคตได้

สำหรับภาพรวมทิศทางตลาดแรงงานปี 2564 มีความสอดคล้องกัน 8 ใน 10 สายงาน แต่ลดลงมาจากปีที่แล้วร้อยละ 10 เนื่องจาก ตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะชะลอตัวทำให้บางสายงานโตสวนกระแสบางสายงานความต้องการลดลงถึงคงที่จากผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและโควิด-19 จึงยังไม่มีการขยายโครงสร้าง โดยจากผลสำรวจจากกลุ่มลูกค้าของแมนพาวเวอร์กรุ๊ปประเทศไทย 10อันดับสายงานที่ตลาดงานต้องการ (ภาพในตาราง) ดังนี้อันดับ 1 สายงานขายและการตลาด 23.10% อันดับ 2 สายงานบัญชีและการเงิน 9.58% อันดับ 3 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์ 9.50% อันดับ 4 สายงานวิศวกร 8.52% อันดับ 5 สายงานไอที 7.78% อันดับ 6 งานระยะสั้นต่างๆ 6.96% อันดับ 7 สายงานธุรการ 6.80% อันดับ 8 สายงานบริการลูกค้า 5.32% อันดับ 9 สายงานการผลิต 5.24% และอันดับ 10 สายงานบริการทางการแพทย์และสุขภาพ 3.28% ส่วน 10 อันดับสายงานที่ตลาดแรงงานต้องการ ดังนี้อันดับ 1 สายงานขายและการตลาด 29.70% อันดับ 2 สายงานวิศวกร 15.23% อันดับ 3 สายงานบริการลูกค้า 13.43% อันดับ 4 สายงานธุรการ 7.40% อันดับ 5 สายงานทรัพยากรบุคคล 7.37% อันดับ 6 สายงานไอที 5.9% อันดับ 7 สายงานบัญชีและการเงิน 5.66% อันดับ 8 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์ 5.51% อันดับ 9 งานระดับผู้บริหาร 3.51% และอันดับ 10 สายงานการผลิต 2.28%

image.png

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าตลาดงานและแรงงานยังมีความสอดคล้องในสัดส่วนความต้องการของตลาดกับแรงงาน (ภาพในตาราง) อีกทั้ง ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าสายงานขนส่งและโลจิสติกส์มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ 4.83% ตามทิศทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซ, ค้าขายออนไลน์และธุรกิจเดลิเวอรี่ ทางด้านงานขายและการตลาด ขึ้นอันดับ 1 มา 5 ปีต่อเนื่องกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการเติบโตทางธุรกิจให้ความสำคัญกับบุคลากรที่เป็นตัวกลางในการนำเสนอสินค้าและบริการ โดยเฉพาะสินค้าความงามและสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ส่วนการตลาดเข้ามาวางกลยุทธ์ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์สู่การนำเสนอการสื่อสารเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการโปรโมชั่นและกิจกรรมทางการตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ในกลุ่มงานระยะสั้นประเภทต่างๆ ,งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพมีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมากและเป็นตลาดงานส่วนที่มีความสำคัญในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ แต่งานในกลุ่มงานธุรการงานบริการลูกค้าและงานการผลิตก็ยังคงมีความต้องการสูง เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศส่วนใหญ่ยังคงเป็นธุรกิจและอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมและกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนแปลงแม้งานเหมือนเดิมแต่ก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทั้งบางส่วนจนถึงหลายส่วนจึงทำให้แรงงานต้องพัฒนาทักษะที่มารองรับกับการทำงานกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีในกระบวนการทำงานและการผลิต เป็นต้น

พร้อมกันนี้ยังเผยถึงอาชีพที่มาแรงในปี 2564 มี 10 อาชีพตามผลสำรวจประกอบด้วย อันดับหนึ่ง งานขายและการตลาด อันดับสอง งานบัญชีและการเงิน อันดับที่สาม งานขนส่งและโลจิสติกส์ อันดับสี่ งานวิศวกร อันดับที่ห้า งานไอที อันดับที่หก งานระยะสั้นต่างๆ อันดับเจ็ด งานธุรการ อันดับแปด งานบริการลูกค้า อันดับเก้า งานการผลิต และอันดับสิบ งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพ

image.png

นอกจากนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยถึงกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สูงสุด 5 อันดับประกอบด้วย 1.ธุรกิจท่องเที่ยวรายได้ลดลง 73% 2.ธุรกิจบันเทิงรายได้ลดลด 59% 3.ธุรกิจรับจ้างบริการรายได้ลดลง 44% 4.ธุรกิจการผลิตรายได้ลดลง 42% 5.ธุรกิจอาหารรายได้ลดลง 41%จากข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับแนวโน้มที่ภาคแรงงานต้องเตรียมพร้อมในการปรับเปลี่ยนรับการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าวิกฤตดังกล่าวจะปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานและธุรกิจต่างๆ จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้สิ่งสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในตลาดงานและแรงงานในปีนี้ต่อไปจนถึงอนาคตการทำงานของแรงงานจะต้องตอบโจทย์ตลาดงานมีทักษะที่มีความหลากหลายพร้อมกับการพัฒนาตนเองด้วยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นบนพื้นฐานของความสมดุลในชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัวโดยแรงงานสามารถออกแบบความมั่นคงของชีวิตได้ตามสถานการณ์และบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นหากทุกคนมีการเตรียมตัวและตั้งรับที่ดีโดยเฉพาะภาคแรงงาน แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมไทยต่อไป แม้ในยามวิกฤตที่เกิดขึ้น หากภาครัฐภาคธุรกิจภาคอุตสาหกรรมและแรงงานเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงปรับตัวยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ เราจะสามารถค้นพบ ทางเลือกสู่ทางรอดแรงงานไทยปี64” เท่าทันยุคเปลี่ยนผ่านที่รวดเร็วได้ต่อไปนางสาวสุธิดากาญจนกันติกุล กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา : newsdatatoday

****************************************************************************************************

เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย

แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด 

ติดต่อฝ่ายการตลาด: 

แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย

บริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ  ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลก

โทร. 02-171-2345

อีเมล : [email protected]

www.manpowerthailand.com