เชื่อว่าใครหลายๆคนต้องรู้จักแอปพลิเคชันที่เป็นที่นิยมอันดับต้นๆทั่วโลกอย่างยูทูปกันเป็นอย่างดี ยูทูปเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์รวบรวมวิดีโอที่ใครๆก็สามารถสร้างช่องเป็นของตัวเองและแบ่งปันวิดีโอไปยังผู้อื่นได้ทั่วโลกได้ ทั้งความรู้, ความบันเทิงและโอกาสที่เราสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย วันนี้แมนพาวเวอร์มีช่องยูทูปเนื้อหาสาระดีๆ เหมาะสำหรับคนทำงาน เอาไว้ให้คุณได้กดกระดิ่งและซับสไครบ์ไว้ดูในยามว่างกัน ติดตามช่องเนื้อหายูทูปสาระดีๆ ได้ที่นี่LDA Worldสำหรับวัยรุ่นคนทำงานรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ รับรองช่องนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Podcast, Review อุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมไปถึง Tips การให้คำแนะนำการใช้งานฟังก์ชันอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ช่องนี้มีไว้ครบ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผู้บอกเล่าหรือคนนำเสนอคอนเทนต์จะเป็นสาวยูทูปเบอร์รุ่นใหม่ที่ให้ความรู้ความเข้าใจ พร้อมมอบรอยยิ้มอันสดใสให้ผู้ชมThe Standardรายการสำนักข่าวออนไลน์ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่กี่ปี แต่กลับได้รับความนิยมจากโลกออนไลน์ เต็มเปี่ยมไปด้วยทีมงานคุณภาพจากทีมงาน The Momentum ชุดเดิม นำทีมโดย เคน นครินทร์ นำเสนอเนื้อหาข่าวในประเทศและต่างประเทศ ด้านการเมือง ธุรกิจ สิ่งแวดล้อม กีฬา และเทคโนโลยี รวมไปถึงไลฟ์สไตล์และคัลเจอร์ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องยูทูปของคนที่ชื่นชอบติดตามข่าวสารบ้านเมืองที่คุณเองก็ไม่ควรพลาดKim Property Liveหากใครชื่นชอบในเรื่องของการลงทุน วันนี้เราขอแนะนำช่อง Kim Property Live เนื้อหาเกี่ยวกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ผ่านผู้ดำเนินรายการ คุณคิม-ชัชวาลย์ วัฒนะโชติ เป็นผู้เชี่ยวชาญความรู้ด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หุ้นและทองคำ จากความฝันที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองและให้ความสนใจในการศึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นพิเศษ จึงได้ศึกษาหาความรู้การลงทุนอย่างจริงจังจนได้มีบริษัทเป็นของตัวเอง และถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ที่ได้มาผ่านทางช่องยูทูปจนมีผู้ติดตามหลายแสนรายในปัจจุบันDrAmp Teamคนทำงานหลายๆคนส่วนใหญ่นิยมหันมารักสุขภาพมากขึ้น เพราะปัจจุบันเรามีช่องทางที่หลากหลายช่วยแนะนำแนวทางในการรักษาสุขภาพอย่างถูกวิธีก็จะทำให้เราไม่ต้องไปเสียสุขภาพหรือเสียเงินเพื่อรักษาร่างกายตัวเองในภายหลัง ช่องยูทูป DrAmp Team คือช่องทางเลือกดีๆสำหรับคนรักสุขภาพ โดยมีหมอแอมป์ นพ. ตนุพล วิรุฬหการุญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและชะลอวัยและการลดน้ำหนัก ที่จะให้คำแนะนำคุณในเรื่องของแนวทางการดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้มีอายุที่ยืนยาว เตรียมพร้อมร่างกายให้พร้อมอยู่ตลอดในทุกๆวัน
-
Channel Youtube เพื่อคนทำงาน
28 January 2021 -
วลีและสำนวนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการทำงาน
28 January 2021 การทำงานในองค์กรต่างชาติบางครั้งเราอาจจะต้องเจอกับ Idioms (สำนวน) หรือ Phrases (วลี) ในภาษาอังกฤษต่างๆ ได้อยู่บ่อยๆ ในชีวิตของการทำงานแต่ละวัน เช่น การโต้ตอบอีเมลหรือการประชุมงาน แต่คำภาษาอังกฤษบางคำ ความหมายก็ไม่ได้แปลตรงตัวไปซะทีเดียว แมนพาวเวอร์ขอชวนคุณเรียนรู้สำนวนและวลีภาษาอังกฤษที่มักเจอในการทำงาน ให้คุณสามารถฟังและอ่านภาษาอังกฤษได้เข้าใจความหมายของคำอย่างถ่องแท้มากยิ่งขึ้น1. Talk over = การพูดคุยถึงปัญหากับใครบางคนก่อนที่จะตัดสินใจ หรือลงมือทำอะไรบางอย่างลงไป2. Run up against = การแก้ไขปัญหาที่ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้า3. Think through = คิดอย่างรอบคอบ4. Knuckle down = การเริ่มทำงานอย่างหนัก5. Wrestle with การพยายามเข้าใจหรือต่อสู้กับปัญหา6. Run into problems = พบเจอเริ่มเจอกับปัญหา7. Slack off (v.) อู้งาน Goof off (v.) อู้งาน8. Shirk (v.) หนีงาน ไม่รับผิดชอบงาน9. Burn the candle at both ends = ทำงานเป็นเวลานาน (เช้าจรดเย็น)10. Learn the ropes = เรียนรู้การทำงาน11. Work your fingers to the bone = ทำงานอย่างหนัก12. Work for peanuts = ทำงานเพื่อเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ13. Rank and file = คนเก่าแก่ขององค์กร14. Work all the hours that God sends = ทำงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้15. Go the extra mile = ทำเกินกว่าที่คาดเท่านี้...คุณก็จะมารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างดูดีมีความมืออาชีพต่อไป
-
เทคนิคสร้างเสริมประสบการณ์สู่การเป็นผู้จัดการ Gen Y
27 January 2021 เทคนิคสร้างเสริมประสบการณ์สู่การเป็นผู้จัดการ Gen Yปัจจุบันคน Gen Y หลายคนได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้จัดการ บางคนเป็นพนักงานที่มีผลงานดี แต่เมื่อขึ้นเป็นผู้จัดการกลับกลายเป็นผู้จัดการที่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงขอแนะนำ 8 เทคนิคสร้างเสริมประสบการณ์สู่การเป็นผู้จัดการ Gen Y ให้ประสบความสำเร็จ1. สร้างทีมงานมืออาชีพ – จะเป็นทีมงานที่ประสบความสำเร็จได้ ในฐานะผู้จัดการ คุณจะแสดงศักยภาพของคุณได้มากเพียงได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากความสามารถของลูกน้องในทีมของคุณด้วย คุณจึงต้องเลือกสรรคนที่เหมาะสมมาร่วมทีม และสร้างเป้าหมายเดียวกัน2. มีความเป็นผู้นำ - แน่นอนว่าการเป็นผู้จัดการนั้น คุณจะต้องมีความเป็นผู้นำที่ดี สามารถบอกได้ว่าตนเองต้องการอะไร และคนอื่นหรือลูกน้องในทีมต้องทำอะไร คุณจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้องในทีม และนำทีมทำงานอย่างมีจุดหมายและดำเนินไปอย่างมีแบบแผน3. ให้เกียรติผู้อื่นในทีม – ถึงคุณจะได้ขึ้นมาอยู่ในระดับหัวหน้างาน ไม่ว่าจะอายุมากกว่าหรือน้อยกว่าคุณคุณก็ต้อง ให้เกียรติผู้อื่นในทีม รวมถึงเปิดใจยอมรับความคิดเห็น หรือความคิดใหม่ๆของทีมหรือลูกน้องของคุณ โดยไม่เห็นแก่พวกพ้อง ถ้าเราทำงานโดยไม่ให้เกียรติผู้อื่น ผู้อื่นก็จะไม่ให้เกียรติเราเช่นกัน4. สร้างแรงจูงใจให้คนในทีม – คุณจะต้องหาให้ได้ว่า อะไรเป็นแรงจูงใจสำคัญสำหรับคนในทีมของคุณ และใช้สิ่งนั้นกระตุ้นการทำงานของเขา ไม่ว่าจะเป็น คำชื่นชม ของรางวัล หรือการยอมรับ แม้แต่การลงโทษ ก็เป็นสิ่งกระตุ้นได้เช่นกัน5. บริหารเวลาให้ดี – เวลาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นของตัวคุณเองหรือของทีม คุณต้องสามารถจัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของแต่ละงานให้ได้ และสามารถแจกแจงให้กับลูกทีมของคุณ เพื่อที่ให้ทุกคนช่วยทำงานในทุกๆชิ้นออกมาสำเร็จทันเวลาอย่างมีคุณภาพ6. กล้าเผชิญกับปัญหา – เมื่อทำงานหลายๆคน บางครั้งคุณอาจต้องเผชิญกับความขัดแย้งของลูกน้องในทีมบ้าง หรือแม้แต่กับตัวคุณเอง คุณควรกล้าที่เผชิญหน้ากับปัญหา ตั้งสติ และค่อยๆแก้ปัญหานั้นๆ อย่าเพิกเฉยเพราะจะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลายมากขึ้น และอาจถึงขั้นแตกหักในที่สุด7. พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ – เราต้องค้นหาตัวเราก่อนว่าเรามีจุดเด่นอะไร และมีจุดอ่อนตรงไหน และเริ่มพัฒนาจากสิ่งที่จำเป็นหรือจุดอ่อนของเราก่อน รวมถึงพัฒนานวัตกรรมหรือการคิดค้นบุกเบิกสิ่งๆใหม่ๆที่สามารถนำมาใช้กับงานให้ดียิ่่งๆ ขึ้นไป8. วางตัวเป็นหัวหน้าที่ดี – คุณจะต้องให้ความเข้าใจ และความเอกใจใส่ในลูกน้องของคุณ เพราะหากมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ลูกน้องก็จะเกิดความรู้สึกเต็มใจทั้งการทำงาน การช่วยเหลือ ให้กับคุณและองค์กรอย่างเต็มความสามารถหากเราอยากเป็นผู้จัดการที่ดีและได้รับการยอมรับจากลูกทีมและคนอื่นๆ เราจะต้องมุ่งมั่นเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ พร้อมนำเทคนิคทั้ง 8 ข้อไปปรับใช้อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถเป็นผู้จัดการ Gen Y ที่ดียิ่งๆขึ้นไป และนำพาทีมของคุณก้าวไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
-
Total Workforce Index รายงานผลการวิเคราะห์ระดับโลกประจำปี พ.ศ. 2563
11 January 2021 Total Workforce Index™ ซึ่งเป็นเพียงดัชนีเดียวในกลุ่มที่วิเคราะห์ข้อมูลมากกว่า 200 ปัจจัยใน 76 ตลาดแรงงานทั่วโลกเพื่อให้ได้มุมมองที่ครอบคลุม และเทียบเคียงกันได้เกี่ยวกับปัจจัยหลัก สี่ประการ ซึ่งได้แก่ ความพร้อมของแรงงาน ความคุ้มค่า กฎระเบียบ และผลิตภาพแรงงานดาวน์โหลดฉบับเต็ม (EN/TH)
-
แรงงานไทย เร่งอัพสกิล ‘ภาษา การแก้ปัญหา สื่อสาร’ รับมือตลาดงานแข่งดุ
29 December 2020 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกแรงงานไทย ยุคโควิด-19 เร่งพัฒนาทักษะรอบด้าน โดยเฉพาะ ภาษา การแก้ปัญหา เจรจาสื่อสาร มุ่งพัฒนาการทำงาน รับมือการแข่งขันตลาดงานแมนพาวเวอร์กรุ๊ปประเทศไทย สำรวจการพัฒนา และเพิ่มทักษะ ในการทำงานจากกลุ่มแรงงาน 1,233 คน ผลสำรวจชี้ 3 อันดับแรกมาแรงที่ต้องอัพสกิล ได้แก่ การเพิ่มทักษะในด้านภาษา 65% รองลงมาเป็น การเพิ่มทักษะในการแก้ปัญหาเชิงซับซ้อน 55% และ การเพิ่มทักษะในการเจรจาต่อรอง และการโน้มน้าวใจ 50% ทั้งนี้ ทักษะทางเทคนิคเฉพาะในสายงาน (Hard Skill) อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ในการนำมาใช้ในการทำงาน แต่สิ่งที่ควรมี ควบคู่กันก็คือ Soft Skill เพื่อจะเป็นการเพิ่มโอกาส ในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ใครที่เตรียมความพร้อมดีกว่าจึงย่อมได้เปรียบในสนามการแข่งขันนี้สำหรับ การจัดอันดับผลสำรวจ 10 อันดับ เพื่อให้องค์กรและแรงงาน นำมาปรับใช้เป็นแนวทาง ในการพัฒนาและเพิ่มทักษะความรู้ ในการพัฒนาศักยภาพ ที่สนับสนุนการทำงาน ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนี้อันดับแรก ความต้องการ เพิ่มทักษะ ทางด้านภาษามากที่สุดถึง 65% นับเป็นทักษะที่สำคัญในการทำงาน โดยเฉพาะการติดต่อกับลูกค้าระดับสากล ทั้งการสื่อสารทางอีเมล และการประชุม นับเป็นอีกหนึ่งทักษะ ที่จะเสริมความได้เปรียบให้กับแรงงานอันดับที่สอง ทักษะในการแก้ปัญหาเชิงซับซ้อน 55% ในการทำงานทุกสายงาน โดยบุคลากร อาจต้องเตรียมพร้อมในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น และที่ซับซ้อน ตามแต่ละสายงาน เพื่อให้การทำงาน สำเร็จตามเป้าหมาย ดังนั้น ทักษะในด้านนี้ กระบวนการเรียนรู้บางครั้งไม่ได้มีในตำรา แต่ต้องเรียนรู้จากการทำงานจริงอันดับที่สาม เพิ่มทักษะในการเจรจาต่อรอง และการโน้มน้าวใจอยู่ที่ 50% ทักษะด้านนี้ สายงานกลุ่มที่ต้องติดต่อเจรจากับลูกค้า ไม่ว่าจะระดับผู้บริหาร หัวหน้างาน รวมทั้งระดับปฏิบัติการ มีความจำเป็นที่ต้องใช้ทักษะการเจรจาต่อรอง เพื่อช่วยในแง่ของการเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน หรือนำมาปรับใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพในการประสานงานให้ดียิ่งขึ้นอันดับที่สี่ เพิ่มทักษะ ในการติดต่อสื่อสาร 47% นับเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญ ของการทำงาน ทักษะด้านนี้ จะทำให้การทำงาน มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เพราะถ้าหากการสื่อสารไม่เข้าใจกัน การทำงานก็อาจจะผิดพลาดได้ และยังส่งผลให้เกิดควาเสียหายได้อีกอันดับที่ห้า เพิ่มทักษะ ในการวางแผน 40% ในการทำงานให้เกิดประสิทธิผล และบรรลุเป้าหมาย การวางแผนการทำงานอย่างมีกระบวนการ ขั้นตอน จะส่งผลให้การทำงาน สำเร็จตามเป้าหมายได้ดีอันดับที่หก เพิ่มทักษะ ในการคิดวิเคราะห์ อย่างเป็นระบบ 35% ทักษะในด้านนี้สอดคล้องกับการวางแผน และการบริหารจัดการ เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการทำงาน มาวิเคราะห์ เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและนำมาวางแผน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในอนาคต ได้อีกด้วยอันดับที่เจ็ด เพิ่มทักษะ ในการบริหารจัดการบุคคล 30% ทักษะด้านนี้ สามารถใช้ได้ทุกกลุ่มทุกระดับงาน โดยเฉพาะการทำงานเป็นทีม ให้ผลงานเป็นไปตามเป้า ก็ต้องใช้ทักษะด้านนี้ ผสมผสานเข้าไปด้วย เพราะนอกจากจะได้งานที่ดีแล้ว ยังจะได้ทีมทำงาน ที่เป็นทีมเวิร์คยิ่งขึ้นด้วยอันดับที่แปด เพิ่มทักษะ เกี่ยวกับการใช้งานโซเชียลมีเดีย อย่างมีประสิทธิภาพ 25% ปัจจุบันอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย มีผลเกี่ยวข้องกับการทำงาน ในหลายบริบท หากสายงานที่ต้องใช้ช่องทางนี้ เป็นเครื่องมือเพื่อการทำงาน ทั้ง งานด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการสื่อสาร ทั้งภายในและภายนอกองค์กร การเรียนรู้ทักษะด้านนี้ เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการทำงาน นับว่าเป็นทักษะที่ต้องเรียนรู้ ให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลาอันดับที่เก้า เพิ่มทักษะ ในด้านความเป็นผู้นำ 20% ในการทำงานทุกสายงาน ต้องมีผู้นำ และทีมในการทำงาน ซึ่งเป็นทักษะในการส่งเสริมให้ก้าว และเติบโตในสายงานได้ยิ่งขึ้นอันดับสุดท้าย เพิ่มทักษะ การบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ 15% ถึงแม้ทักษะนี้จะอยู่อันดับท้าย แต่ไม่ใช่ไม่สำคัญ เพราะการบริหารจัดการด้านเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การทำงานสำเร็จตามเป้าหมายผลสำรวจดังกล่าว ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของทักษะ ที่แรงงานต้องการพัฒนาองค์ความรู้ และเพิ่มเติมทักษะ ในแต่ละด้าน บรรลุทั้งวัตถุประสงค์ส่วนตนและขององค์กร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง จากสถานการณ์ต่างได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้พร้อมขับเคลื่อนองค์กร ก้าวข้ามทุกอุปสรรค และบรรลุเป้าหมายดังนั้น ถึงเวลาที่แรงงาน จะสร้างเสริมประสบการณ์ ให้มีความโดดเด่น และได้เปรียบคู่แข่ง เพราะทรัพยากรบุคคล จะเป็นฟันเฟืองสำคัญ ในการขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคตต่อไปที่มา : thebangkokinsight****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
10 ทักษะ แรงงานยุคโควิดต้องมี
29 December 2020 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย แจงผลสำรวจทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ เผย "ภาษา-การแก้ปัญหา-เจรจาสื่อสาร" ทักษะที่องค์กรต้องการมากๆ และคนทำงานต้องมี เพื่อพัฒนาการทำงานรับมือการแข่งขันตลาดงาน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อวิถีการทำงานในยุค New Normal การพัฒนาทักษะความรู้เป็นอีกหัวใจสำคัญของแรงงานในปัจจุบัน ที่ต้องพัฒนาและเพิ่มศักยภาพรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการแข่งขันในตลาดงานด้วย ล่าสุด “แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย” ได้ทำการสำรวจการพัฒนาและเพิ่มทักษะในการทำงานจากกลุ่มแรงงาน 1,233 คน ทั้งนี้ ผลสำรวจชี้ 3 อันดับแรกมาแรงที่ต้องอัพสกิล ได้แก่ การเพิ่มทักษะในด้านภาษา 65% รองลงมาการเพิ่มทักษะในการแก้ปัญหาเชิงซับซ้อน 55% และอันดับสามการเพิ่มทักษะในการเจรจาต่อรอง และการโน้มน้าวใจ 50% “แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย” ทำการสำรวจการพัฒนาและเพิ่มทักษะในการทำงาน โดยมีแรงงานผู้ร่วมตอบแบบสอบถามจำนวน 1,233 คน เกี่ยวกับความต้องการพัฒนาและเพิ่มเติมทักษะด้านใดบ้าง (Upskill) เพื่อพัฒนาทักษะการทำงาน เนื่องจากในปัจจุบันการทำงานมีการแข่งขันสูง ดังนั้น ทักษะทางเทคนิคเฉพาะในสายงาน (Hard Skill) อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการนำมาใช้ในการทำงาน แต่สิ่งที่ควรมีควบคู่กันก็คือ Soft Skill เพื่อจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ใครที่เตรียมความพร้อมดีกว่าย่อมได้เปรียบในสนามการแข่งขันนี้ ทั้งนี้ การจัดอันดับผลสำรวจ 10 อันดับ เพื่อให้องค์กรและแรงงานนำมาปรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและเพิ่มทักษะความรู้ในการพัฒนาศักยภาพที่สนับสนุนการทำงานในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผลสำรวจ อันดับแรกคือ ความต้องการเพิ่มทักษะทางด้านภาษามากที่สุดถึง 65% ซึ่งนับเป็นทักษะที่สำคัญในการทำงานโดยเฉพาะการติดต่อกับลูกค้าระดับสากลทั้งการสื่อสารทางอีเมลและการประชุม เป็นอีกหนึ่งทักษะที่จะเสริมความได้เปรียบให้กับแรงงาน อันดับที่สอง ทักษะในการแก้ปัญหาเชิงซับซ้อน 55% ในการทำงานทุกสายงาน บุคลากรอาจต้องเตรียมพร้อมในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและที่ซับซ้อนตามแต่ละสายงาน เพื่อให้การทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย ดังนั้นทักษะในด้านนี้กระบวนการเรียนรู้บางครั้งไม่ได้มีในตำรา แต่ต้องเรียนรู้จากการทำงานจริง อันดับที่สาม การเพิ่มทักษะในการเจรจาต่อรอง และการโน้มน้าวใจอยู่ที่ 50% ทักษะด้านนี้สายงานกลุ่มที่ต้องติดต่อเจรจากับลูกค้าไม่ว่าจะระดับผู้บริหาร หัวหน้างานรวมทั้งระดับปฏิบัติการนั้นมีความจำเป็นอยู่ตลอดเวลาที่ต้องใช้ทักษะการเจรจาต่อรองนั้นช่วยในแง่ของการเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน หรือนำมาปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพในการประสานงานให้ดียิ่งขึ้น ส่วนอันดับที่สี่ การเพิ่มทักษะในการติดต่อสื่อสาร 47% นับเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการทำงานทักษะด้านนี้จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เพราะถ้าหากการสื่อสารไม่เข้าใจกันการทำงานก็อาจจะผิดพลาดได้ และยังส่งผลให้เกิดควาเสียหายได้อีก อันดับที่ห้า การเพิ่มทักษะในการวางแผน 40% ในการทำงานให้เกิดประสิทธิผลและบรรลุเป้าหมายการวางแผนการทำงานอย่างมีกระบวนการ ขั้นตอนจะส่งผลให้การทำงานสำเร็จตามเป้าหมายได้ดี อันดับที่หก การเพิ่มทักษะในการคิดวิเคราะห์ อย่างเป็นระบบ 35% ทักษะในด้านนี้สอดคล้องกับการวางแผน และการบริหารจัดการเพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการทำงานมาวิเคราะห์ เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและนำมาวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในอนาคตได้อีกด้วย อันดับที่เจ็ด การเพิ่มทักษะในการบริหารจัดการบุคคล 30% ทักษะด้านนี้ไม่ใช่ว่าระดับผู้บริหารหรือหัวหน้างานเท่านั้น แต่สามารถใช้ได้ทุกกลุ่มทุกระดับงาน โดยเฉพาะการทำงานเป็นทีมให้ผลงานเป็นไปตามเป้าก็ต้องใช้ทักษะด้านนี้ผสมผสานเข้าไปด้วย เพราะนอกจากจะได้งานที่ดีแล้วยังจะได้ทีมทำงานที่เป็นทีมเวิร์คยิ่งขึ้นด้วย อันดับที่แปด การเพิ่มทักษะเกี่ยวกับการใช้งานโซเชียลมีเดีย (Social Media) อย่างมีประสิทธิภาพ 25% ปัจจุบันอิทธิพลของโซเชียลมีเดียมีผลเกี่ยวข้องกับการทำงานในหลายบริบท หากสายงานที่ต้องใช้ช่องทางนี้เป็นเครื่องมือเพื่อการทำงานทั้งงานด้านการตลาด การส่งเสริมการขายและการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร การเรียนรู้ทักษะด้านนี้เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการทำงานนับว่าเป็นทักษะที่ต้องเรียนรู้ให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา อันดับที่เก้า การเพิ่มทักษะในด้านความเป็นผู้นำ 20% ในการทำงานทุกสายงานต้องมีผู้นำและทีมในการทำงาน ซึ่งเป็นทักษะในการส่งเสริมให้คุณก้าวและเติบโตในสายงานได้ยิ่งขึ้น และอันดับสุดท้าย การเพิ่มทักษะการบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ 15% ถึงแม้ทักษะนี้จะอยู่อันดับท้าย แต่ไม่ใช่ไม่สำคัญเพราะการบริหารจัดการด้านเวลาอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้การทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย โดยสรุป ผลสำรวจชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของทักษะที่แรงงานต้องการพัฒนาองค์ความรู้และเพิ่มเติมทักษะในแต่ละด้านบรรลุทั้งวัตถุประสงค์ส่วนตนและขององค์กร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์ต่างได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้พร้อมขับเคลื่อนองค์กรก้าวข้ามทุกอุปสรรคและบรรลุเป้าหมาย ดังนั้น ถึงเวลาที่แรงงานจะสร้างเสริมประสบการณ์ให้มีความโดดเด่นและได้เปรียบคู่แข่ง เพราะทรัพยากรบุคคลจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคตต่อไป ที่มา : thansettakij****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป จัดอันดับ10 พฤติกรรม บนวิถีชีวิตแบบปกติใหม่ (New Normal) หลังโควิด
1 December 2020 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในภาคภาคธุรกิจภาคอุตสาหกรรมและภาคแรงงานต่างมีการปรับตัวเพื่อรับมือและสอดรับกับวิถีชีวิตแบบปกติใหม่ (New Normal) ล่าสุด “แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย” ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างร่วมตอบแบบสอบถามจำนวน 1,124 คน ในหัวข้อ“วิถีชีวิตแบบใหม่หลังโควิดส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคุณอย่างไร” พร้อมเผย 10 อันดับปรากฎการณ์วิถีชีวิตแบบใหม่หลังโควิดที่ถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะเริ่มเข้าสู่ระยะปลดล็อคมาระยะหนึ่งแล้ว แต่พฤติกรรมหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปจนกลายเป็นวิถีชีวิตแบบปกติใหม่ของผู้คนในปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ในฐานะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญตลาดแรงงานเชิงนวัตกรรมชั้นนำระดับโลก ได้จัดอันดับ 10 พฤติกรรมที่ส่งผลต่อวิถีการดำเนินชีวิตและการทำงานไว้ดังนี้ สำหรับอันดับที่หนึ่ง 90.91% คือ พฤติกรรมเกี่ยวกับรูปแบบการช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งเห็นได้ชัดในสถานการณ์ครั้งนี้ที่เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดอี-คอมเมิร์ซ เติบโตพุ่งขึ้นไปอีกข้อมูลจากบริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด มีคาดการณ์ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ หรือช้อปออนไลน์ในกลุ่ม C2C หรือ Customer to Customer ไม่รวมบริการจองที่พักโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน ดิจิทัลคอนเทนต์ และบริการอื่น ๆ ระบุว่าในปี 2563 ธุรกิจช้อปออนไลน์มีมูลค่าที่ 220,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 4-5% ของค้าปลีกทั้งประเทศทั้งนี้จะเห็นได้ว่าช้อปปิ้งออนไลน์ในปี 2563 มีการเติบโต 35% จากปี 2562 ที่มีมูลค่า 163,300 ล้านบาท สัดส่วน 3% ของค้าปลีกทั้งประเทศ นับว่าโควิดเป็นแรงกระตุ้นให้อัตราการช้อปออนไลน์เติบโตสูงขึ้นมากทีเดียว อันดับสองราว 81.82% ด้านวิถีการทำงานในรูปแบบ Work from Home เข้ามาปรับพฤติกรรมแรงงานเข้าสู่โหมดออนไลน์โดยมีแพลตฟอร์มการประชุมมากมาย อาทิ Zoom Meeting และ Microsoft Meeting เป็นต้นส่วนอันดับที่สามราว 72.73% ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป การเดินทางออกมาท่องเที่ยว หรือชมภาพยนตร์ในแบบปกติมีข้อจำกัด ดังนั้นรูปแบบความบันเทิงของผู้คนทั่วไปจึงอยู่ในระบบออนไลน์มากขึ้น มีแอปพลิเคชันบันเทิงในการดูภาพยนตร์ ฟังเพลงให้เลือกใช้บริการมากมายทั้งในแบบฟรีและคิดค่าบริการ ซึ่งเสริมให้ธุรกิจนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น และกลุ่มผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ กับอินเทอร์เน็ตมีอัตราการใช้งานที่เพิ่มขึ้นนับเป็นอานิสงค์ให้กับผู้ให้บริการ อันดับที่สี่ กลุ่มบริการ E-Payment หรือการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์คิดเป็น 63.64% ที่มีการใช้บริการเพิ่มขึ้น ปัจจุบันหลายๆ ธุรกิจเพิ่มช่องทางการชำระเงิน รวมถึงภาครัฐและภาคธนาคารผลักดันให้เกิดสังคมไร้เงินสด ซึ่งโควิดนับว่าเป็นแรงกระตุ้นให้เราก้าวสู่สังคมไร้เงินได้เร็วยิ่งขึ้นครอบคลุมในการจ่ายเงินในการซื้อสินค้าและบริการ โดยจะเห็นได้จากทุกวันนี้เราใช้บริการเรียกแท็กซี่ผ่านสมาร์ทโฟน และจ่ายเงินโดยไม่ต้องมีเงินสดแล้วอันดับที่ห้า พ่อแม่ผู้ปกครองคงปฏิเสธไม่ได้ เมื่อลูกหลานไม่สามารถไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนแบบปกติไม่ได้ โรงเรียนและครูอาจารย์นำเครื่องมือที่เรียกว่า อี-เลิร์นนิ่ง (E-learning) มาใช้ในการเรียนทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 54.55%ดังนั้นเด็กและเยาวชน รวมทั้งผู้ปกครองมีการปรับตัวเพื่อใช้อี-เลิร์นนิ่ง นอกจากนี้คนในวัยทำงานก็ใช้เครื่องมือนี้ในฝึกอบรมและสัมมนาอีกด้วยมาในอันดับที่หก ด้านระบบเครือข่ายการสื่อสารหรืออินเทอร์เน็ต ต้องมีความเร็วสูง แรง และเสถียรเพื่อรองรับการใช้งานในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นจากกิจกรรมดังกล่าวในอันดับต้นๆ นับว่ามีสัดส่วนอยู่ที่ 45.45%อันดับที่เจ็ดด้านการดูแลสุขภาพด้วยเทคโนโลยี จึงทำให้มีสมาร์ทดีไวซ์ที่เข้ามารองรับการใช้งานด้านนี้เพื่อเพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Smart Watchและการรับคำปรึกษาปัญหาสุขภาพออนไลน์ คิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 36.36%อันดับที่แปด ด้านซัพพลายเชน 4.0 การบริหารการจัดส่งสินค้าด้วยเทคโนโลยีแอปพลิเคชันที่รองรับการให้บริการมากมาย ทำให้อุตสาหกรรมด้านการให้บริการโลจิสติกส์มีการแข่งขันอย่างมาก ซึ่งหัวใจการให้บริการคือ ความเร็วดังนั้นเทคโนโลยีจึงเข้ามาช่วยให้การให้บริการนี้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น นับว่ามีสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงในอัตราส่วนไม่น้อยอยู่ที่ 27.27%อันดับที่เก้าระบบการผลิตจาก 3D Printing เช่น การผลิตหน้ากากอนามัยให้เข้ากับรูปหน้าของผู้สวมใส่นั้นๆ 18.18% และอันดับสุดท้ายการนำโดรนและหุ่นยนต์ เข้ามามีบทบาทในการช่วยทำงาน ซึ่งในงานบางอย่างอาจจะไม่ต้องใช้แรงงานคนอยู่ที่ 9.09%ทั้งนี้จากผลการการสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต ซึ่งเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทและตอบโจทย์ จนถึงเป็นแรงขับให้ทุกชีวิตทุกช่วงวัยต้องรับมือโดยการปรับตัวให้รองรับวิถีความปกติแบบใหม่ที่เกิดในช่วงโควิด ดังนั้นหากทุกคนมีการเตรียมตัวและตั้งรับที่ดีโดยเฉพาะภาคแรงงาน แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนา เป็นสังคมที่มีความก้าวหน้าในระดับนานาประเทศต่อไปที่มา : brandage****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเผย สิ่งที่พนักงานต้องการ หลังโควิด รับ New Normal
30 November 2020 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกสิ่งที่พนักงานต้องการ หลังโควิด บนวิถีชีวิตแบบปกติใหม่ (New Normal) แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเผย ส่วนใหญ่กังวลเรื่อง การกลับไปทำงาน และรักษาตำแหน่งงานแมนพาวเวอร์กรุ๊ป เผยผลสำรวจเกี่ยวกับ สิ่งที่พนักงานต้องการ หลัง โควิด -19 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ต่อวิถีการทำงาน สู่รูปแบบการทำงานแบบปกติใหม่ (New Normal) ขึ้นทั้งนี้ ผลสำรวจพบว่า พนักงานถึง 94% มีความกังวลเกี่ยวกับการกลับไปทำงาน และด้านการรักษาไว้ ซึ่งตำแหน่งงาน มีลำดับความสำคัญสูงสุด สำหรับพนักงานในทุกประเทศ ยกเว้นพนักงาน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ให้คุณค่าต่อความยืดหยุ่นมากที่สุดการสำรวจดังกล่าว เป็นการสำรวจ การทำงานรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับ สิ่งที่พนักงานต้องการ หลังโควิด-19 โดยสำรวจพนักงานมากกว่า 8,000 คนจาก 8 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เม็กซิโก สิงคโปร์ สเปน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกาผลสำรวจที่สำคัญ พบว่า พนักงานในทุกประเทศมีลำดับความสำคัญหลัก 3 ประการสำหรับบรรทัดฐานใหม่ในอนาคต ได้แก่1. ความเป็นอิสระ และสถานที่ทำงาน ในรูปแบบที่ปรับตามความต้องการของตนเอง ซึ่งให้โอกาสในการทำงานทางไกลเป็นบางครั้ง แต่ไม่ใช่ตลอดเวลา และการเรียนรู้ตามความต้องการ2. โอกาสที่เพิ่มขึ้น ในการเรียนรู้ ในรูปแบบเสมือนจริง และพัฒนาทักษะ เพื่อให้ยังคงถูกจ้างงาน และ ชีวิตที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน3. การมุ่งเน้น ผสมผสานชีวิตการทำงาน และครอบครัวในระยะยาวนอกจากนี้ พนักงานส่วนใหญ่ ยังเชื่อว่าภาวะวิกฤติจาก โควิด-19 ถือเป็นจุดสิ้นสุดของการทำงานประจำ ในแต่ละองค์กร และมองหา การทำงานรูปแบบใหม่ ที่สามารถผสมผสานงาน และบ้าน ตามข้อมูลจากงานวิจัยใหม่ของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป สำหรับลำดับถัดมา จะเป็นเรื่องความกังวล เกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง และครอบครัว โดยพนักงานมีความกังวลมากที่สุด เกี่ยวกับการกลับไปทำงาน ในรูปแบบเดิม รวมทั้งการสูญเสียความยืดหยุ่น ที่พวกเขาเคยได้รับผลจากงานวิจัย ชี้ให้เห็นว่า นายจ้างจำเป็นต้องนำแนวทาง การให้ความสำคัญแก่บุคลากร เป็นอันดับแรกมาใช้ และพิจารณาใหม่ เกี่ยวกับอนาคตของการทำงาน ที่เหมาะสมสำหรับองค์กร และบุคคล เช่น การให้ความสำคัญแก่สุขภาพ สวัสดิภาพ และความรับผิดชอบ ด้านการให้การดูแลสิ่งเริ่มต้นในฐานะภาวะวิกฤติทางสุขภาพ ได้กลายมาเป็นภาวะวิกฤติ ทางเศรษฐกิจและสังคม ในเวลาต่อมา แม้ว่าประชากรในสัดส่วนไม่มากนัก จะติดเชื้อ โควิด-19 แต่ทุกคนจะได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ในครั้งนี้ โจนัส ไพรซิง ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ แมนพาวเวอร์กรุ๊ปกล่าวข้อมูลยังได้แสดงให้เห็นว่า พนักงานทั่วโลก รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการกลับไปทำงาน – พวกเขามีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพและความมั่นคงด้านอาชีพของตนเอง โดยมองหา รูปแบบและแนวทางการทำงาน ที่มีความยืดหยุ่น ซึ่งช่วยให้แรงงาน สามารถสร้างความสมดุลระหว่างการทำงาน ที่ออฟฟิศและบ้าน ได้ดียิ่งขึ้นดังนั้น องค์กร ที่ให้ความสำคัญต่อสุขภาวะทางจิตใจ และความยืดหยุ่น พร้อมยังแสดงให้เห็นถึงวิธีที่พวกเขาสร้างผลกระทบทางสังคม ในช่วงเวลาที่ท้าทาย จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด ที่จะดึงดูดและรักษาบุคลากร ที่มีความสามารถพิเศษ และ ทำให้พนักงานมีความเชื่อมั่น มีสุขภาพดี และทำงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพในภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ความสามารถในการทำงานมีความสำคัญมากที่สุดสำหรับพนักงาน โดยพนักงาน 9 ใน 10 คนระบุว่า การรักษาไว้ซึ่งตำแหน่งงานของตน มีความสำคัญมากที่สุดอย่างไรก็ตาม วิธีที่พนักงานรู้สึกเกี่ยวกับการกลับไปทำงานแตกต่างกันตามเพศและความก้าวหน้าในอาชีพ สรุปได้ดังนี้• พนักงานยุคเจเนอเรชั่นแซด มีความกระตือรือร้นมากที่สุด ที่จะกลับไปทำงาน เพื่อพัฒนาอาชีพการงานและเข้าสังคมคิดเป็น 51%• พนักงานยุคมิลเลนเนียล มีความรู้สึกเชิงบวกน้อยที่สุดอยู่ที่ 38%• พนักงานยุคเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ ให้คุณค่าต่อการกลับมาทำงาน เพื่อให้ความร่วมมือและจดจ่อกับงาน รวมทั้งพักจากความรับผิดชอบต่อครอบครัว• พนักงานยุคบูมเมอร์ เลือกการเข้าสังคม และการร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานคิดเป็น 34% นับเป็นเหตุผลสำคัญที่สุด ในการกลับมาทำงานขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาตามเพศ พบว่า ผู้ชายเกือบครึ่งหนึ่ง หรือราว 46% มีความรู้สึกเชิงบวกเกี่ยวกับการกลับไปทำงานในขณะที่ผู้หญิงเพียงหนึ่งในสามคิดเป็น 35% รู้สึกเหมือนกัน โดยผู้หญิงระบุต่ออีกว่า รู้สึกกังวลและประหม่ามากกว่าเกี่ยวกับการกลับไปทำงาน อย่างไรก็ตาม ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจัดอันดับให้การไม่ต้องเดินทาง และการมีความยืดหยุ่นในการทำงานตามความสะดวก เป็นข้อดีอยู่ใน 3 อันดับแรกของการทำงานที่บ้านส่วนพ่อแม่ที่ต้องทำงาน พบว่า ผู้ชายที่มีลูก จัดอันดับให้การใช้เวลากับครอบครัว เป็นข้อดีอันดับแรก ของการทำงานทางไกล ขณะที่ผู้หญิง มีความรู้สึกเชิงลบมากกว่า เกี่ยวกับการกลับไปทำงาน โดยมีความกังวลเพิ่มขึ้นหลังเกิดโควิด-19 สิ่งที่พนักงานกังวลใจมากที่สุด เกี่ยวกับการกลับไปปฏิบัติงานในรูปแบบเดิม คือ การสูญเสียความยืดหยุ่น ที่พวกเขาเคยได้รับ และ 8 ใน 10 ต้องการความสมดุลเพิ่มขึ้น ระหว่างงานและครอบครัว ในอนาคตที่สำคัญคือ 43% ระบุว่า พนักงานเชื่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นจุดสิ้นสุดของการทำงาน ในรูปแบบของการเข้างาน 9.00 น. และเลิกงาน 17.00 น. พนักงานส่วนใหญ่ต้องการเข้าปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงาน 2-3 วันต่อสัปดาห์ จึงถือได้ว่า จากนี้ไป จะเป็นยุคของ การทำงานรูปแบบใหม่ อย่างแท้จริง
-
10 พฤติกรรม วิถีชีวิต New Normal ที่กลายเป็นปกติ
29 November 2020 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในภาคภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและภาคแรงงาน ต่างมีการปรับตัวเพื่อรับมือและสอดรับกับวิถีชีวิตแบบปกติใหม่ (New Normal) ล่าสุด “แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย” ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างร่วมตอบแบบสอบถามจำนวน 1,124 คน ในหัวข้อ “วิถีชีวิตแบบใหม่หลังโควิดส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคุณอย่างไร” พร้อมเผย 10 อันดับปรากฎการณ์วิถีชีวิตแบบใหม่หลังโควิดที่ถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะเริ่มเข้าสู่ระยะปลดล็อคมาระยะหนึ่งแล้ว แต่พฤติกรรมหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปจนกลายเป็นวิถีชีวิตแบบปกติใหม่ของผู้คนในปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ในฐานะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญตลาดแรงงานเชิงนวัตกรรมชั้นนำระดับโลก ได้จัดอันดับ 10 พฤติกรรมที่ส่งผลต่อวิถีการดำเนินชีวิตและการทำงานไว้ดังนี้ สำหรับอันดับที่หนึ่ง 90.91% คือ พฤติกรรมเกี่ยวกับรูปแบบการช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งเห็นได้ชัดในสถานการณ์ครั้งนี้ที่เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดอี-คอมเมิร์ซ เติบโตพุ่งขึ้นไปอีก ข้อมูลจากบริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด มีคาดการณ์ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ หรือช้อปออนไลน์ในกลุ่ม C2C หรือ Customer to Customer ไม่รวมบริการจองที่พักโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน ดิจิทัลคอนเทนต์ และบริการอื่น ๆ ระบุว่าในปี 2563 ธุรกิจช้อปออนไลน์มีมูลค่าที่ 220,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 4-5% ของค้าปลีกทั้งประเทศ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าช้อปปิ้งออนไลน์ในปี 2563 มีการเติบโต 35% จากปี 2562 ที่มีมูลค่า 163,300 ล้านบาท สัดส่วน 3% ของค้าปลีกทั้งประเทศ นับว่าโควิดเป็นแรงกระตุ้นให้อัตราการช้อปออนไลน์เติบโตสูงขึ้นมากทีเดียวอันดับสองราว 81.82% ด้านวิถีการทำงานในรูปแบบ Work from Home เข้ามาปรับพฤติกรรมแรงงานเข้าสู่โหมดออนไลน์โดยมีแพลตฟอร์มการประชุมมากมาย อาทิ Zoom Meeting และ Microsoft Meeting เป็นต้นส่วนอันดับที่สามราว 72.73% ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป การเดินทางออกมาท่องเที่ยว หรือชมภาพยนตร์ในแบบปกติมีข้อจำกัด ดังนั้น รูปแบบความบันเทิงของผู้คนทั่วไปจึงอยู่ในระบบออนไลน์มากขึ้น มีแอปพลิเคชันบันเทิงในการดูภาพยนตร์ ฟังเพลงให้เลือกใช้บริการมากมายทั้งในแบบฟรีและคิดค่าบริการ ซึ่งเสริมให้ธุรกิจนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น และกลุ่มผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ กับอินเทอร์เน็ตมีอัตราการใช้งานที่เพิ่มขึ้นนับเป็นอานิสงค์ให้กับผู้ให้บริการอันดับที่สี่ กลุ่มบริการ E-Paymentหรือการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์คิดเป็น 63.64% ที่มีการใช้บริการเพิ่มขึ้น ปัจจุบันหลายๆ ธุรกิจเพิ่มช่องทางการชำระเงิน รวมถึงภาครัฐและภาคธนาคารผลักดันให้เกิดสังคมไร้เงินสด ;ซึ่งโควิดนับว่าเป็นแรงกระตุ้นให้เราก้าวสู่สังคมไร้เงินได้เร็วยิ่งขึ้นครอบคลุมในการจ่ายเงินในการซื้อสินค้าและบริการ โดยจะเห็นได้จากทุกวันนี้เราใช้บริการเรียกแท็กซี่ผ่านสมาร์ทโฟน และจ่ายเงินโดยไม่ต้องมีเงินสดแล้วอันดับที่ห้า พ่อแม่ผู้ปกครองคงปฏิเสธไม่ได้ เมื่อลูกหลานไม่สามารถไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนแบบปกติไม่ได้ โรงเรียนและครูอาจารย์นำเครื่องมือที่เรียกว่า อี-เลิร์นนิ่ง (E-learning) มาใช้ในการเรียนทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 54.55% ดังนั้น เด็กและเยาวชน รวมทั้งผู้ปกครองมีการปรับตัวเพื่อใช้อี-เลิร์นนิ่ง นอกจากนี้คนในวัยทำงานก็ใช้เครื่องมือนี้ในฝึกอบรมและสัมมนาอีกด้วยมาในอันดับที่หก ด้านระบบเครือข่ายการสื่อสารหรืออินเทอร์เน็ต ต้องมีความเร็วสูง แรง และเสถียรเพื่อรองรับการใช้งานในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นจากกิจกรรมดังกล่าวในอันดับต้นๆ นับว่ามีสัดส่วนอยู่ที่ 45.45% อันดับที่เจ็ดด้านการดูแลสุขภาพด้วยเทคโนโลยี จึงทำให้มีสมาร์ทดีไวซ์ที่เข้ามารองรับการใช้งานด้านนี้เพื่อเพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Smart Watch และการรับคำปรึกษาปัญหาสุขภาพออนไลน์ คิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 36.36%อันดับที่แปด ด้านซัพพลายเชน 4.0 การบริหารการจัดส่งสินค้าด้วยเทคโนโลยีแอปพลิเคชันที่รองรับการให้บริการมากมาย ทำให้อุตสาหกรรมด้านการให้บริการโลจิสติกส์มีการแข่งขันอย่างมาก ซึ่งหัวใจการให้บริการคือ ความเร็ว ดังนั้น เทคโนโลยีจึงเข้ามาช่วยให้การให้บริการนี้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น นับว่ามีสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงในอัตราส่วนไม่น้อยอยู่ที่ 27.27%อันดับที่เก้าระบบการผลิตจาก 3D Printing เช่น การผลิตหน้ากากอนามัยให้เข้ากับรูปหน้าของผู้สวมใส่นั้นๆ 18.18% และอันดับสุดท้ายการนำโดรนและหุ่นยนต์ เข้ามามีบทบาทในการช่วยทำงาน ซึ่งในงานบางอย่างอาจจะไม่ต้องใช้แรงงานคนอยู่ที่ 9.09%ทั้งนี้ จากผลการการสำรวจดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต ซึ่งเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทและตอบโจทย์ จนถึงเป็นแรงขับให้ทุกชีวิตทุกช่วงวัยต้องรับมือโดยการปรับตัวให้รองรับวิถีความปกติแบบใหม่ที่เกิดในช่วงโควิด ดังนั้น หากทุกคนมีการเตรียมตัวและตั้งรับที่ดีโดยเฉพาะภาคแรงงาน แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนา เป็นสังคมที่มีความก้าวหน้าในระดับนานาประเทศต่อไปที่มา : thansettakij****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
วิธีสร้างแรงจูงใจให้กับทีมงาน
4 November 2020 วิธีสร้างแรงจูงใจให้กับทีมงานทุกความสำเร็จอาศัยความร่วมมือร่วมใจในการทำงานของทุกฝ่าย แต่ในการทำงานใดที่ขาดแรงจูงใจก็จะเกิดความฝืดในการทำงาน เกิดการเกี่ยงกันในการทำงาน โยนความรับผิดชอบ ความไม่อยากทำงาน หรือเบื่อหน่ายในงานที่ทำ การสร้างแรงจูงใจจึงเป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้เกิดความสำเร็จได้เร็วขึ้น เทคนิค 7 ประการในการสร้างบรรยากาศในการทำงานให้เป็นทีมที่มีแรงจูงใจสูงมีดังนี้1. สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น สื่อสารเป้าหมายให้ชัดเจน แจ้งให้ทราบถึงบทบาทหน้าที่ของตนที่มีต่อบรรลุเป้าหมายนั้น สื่อสารหรือทำให้รู้สึกว่าหากทำงานร่วมกันจะทำให้ทีมบรรลุเป้าหมายที่ดีกว่าอย่างไร และเป้าหมายของทีมมีผลต่อเป้าหมายส่วนตัวอย่างไร2. ให้อำนาจในการตัดสินใจ ทุกคนมีความรับผิดชอบในการทำงานของตน ให้อำนาจในการตัดสินใจทำให้รู้สึกผูกพันกับงาน และเกิดความท้าทาย งานจะไม่น่าเบื่อและเกิดการพัฒนาตนเอง3. สร้างทีมที่มีความผูกพัน เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เรื่องส่วนตัวมักมีผลกับการทำงาน หัวหน้า หรือเพื่อนร่วมงานที่สนิทมีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลในการทำงานกับเรื่องส่วนตัวให้ผ่านวิกฤติได้4. ทำงานบ้างเล่นกันบ้าง เวลาอยู่ที่ทำงานมากกว่าเวลาที่อยู่บ้าน สร้างบรรยากาศในการทำงานให้ไม่เครียดอยู่ตลอดเวลา จะช่วยให้งานยากงานหนักผ่านไปได้ ความเครียดยังทำให้ความคิดสร้างสรรค์หดหายอีกด้วย การปลดปล่อยความเครียดทำให้เกิดความคิดใหม่ๆ เสมอ หัวหน้าที่สร้างบรรยากกาศในการทำงาน ให้มีทั้งความจริงจัง และความสนุกสนาน ยังแสดงออกถึงความเข้าใจอีกด้วย แรงจูงใจเกิดไม่ยากหากผูกพัน5. ฉลองความสำเร็จอยู่เสมอ ให้รางวัลตัวเองให้รู้สึกถึงความสำเร็จจะสามารถลดความเหน็ดเหนื่อยจากความพยายามได้6. สร้างโอกาสในการเติบโตภายใน การพัฒนาศักยภาพของคนในทีม สร้างโอกาสการเติบโตจากภายในสร้างแรงจูงใจในการทำงาน7. เข้าใจเป้าหมายส่วนตัว และสถานการณ์ เป้าหมายทีมสร้างแรงจูงใจในการทำงานได้น้อยกว่าความต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตการทำให้เป้าหมายทีมและเป้าหมายส่วนตัวสอดคล้องกันและสร้างหนทางที่จะเดินไปสู่เป้าหมาย โดยอาศัยความเข้าใจในสถานการณ์ของแต่ละคน ทำให้เกิดความผูกพันต่อองค์กรหากทีมงานมีแรงจูงใจที่ดีในการทำงานแล้ว ทั้งหัวหน้าและลูกน้อง รวมถึงเพื่อนร่วมงานทุกคน ก็จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีกำลังใจและสนิทใจ ถ้าเกิดปัญหาก็ให้พูดจากันด้วยเหตุผล เพียงแค่นี้ ทีมงานก็จะสามารถทำงานร่วมกันได้ดีและมีประสิทธิภาพอีกด้วย
-
คอร์สออนไลน์วางแผนทางการเงินเพื่อคนทำงาน ฟรี
4 November 2020 คอร์สออนไลน์วางแผนทางการเงินเพื่อคนทำงาน ฟรี คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ มักจะมีทักษะของการเรียนรู้ในเรื่องของการวางแผนทางการเงิน หากเราที่มีการจัดระบบและสัดส่วน รู้ประโยชน์ในเรื่องของคุณค่าของเงินที่เราสะสมไว้อยู่ จะทำให้เราสามารถเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและเป็นแนวทางการในการต่อยอดให้เกิดความสำเร็จในอนาคตได้เป็นอย่างดี ยุคดิจิทัลปัจจุบันทำให้การเรียนรู้ต่างๆสามารถเข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ตและมีโอกาสให้เราได้พัฒนาตนเองได้อย่างง่ายดาย วันนี้เรามีคอร์สออนไลน์สำหรับการวางแผนด้านการเงินมาให้คนทำงานได้ลองเรียนรู้กัน เพื่อนำไปปรับใช้กันนะคะ WMD1001- : เงินทองต้องวางแผนคอร์นี้เกี่ยวกับพื้นฐานความรู้ทางการเงินเบื้องต้นสำหรับผู้ที่สนใจวางแผนการเงินเพื่อสะสมความมั่งคั่งโดยดร.อัจฉรา โยมสินธุ์ผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรความรู้ด้านการเงิน ภายในคอร์สเรียนมีการพูดถึงวิธึการขั้นตอนและแนวทางที่จะนำเราไปสู่ความร่ำรวยผ่าน 5 ขั้นตอนวางแผนทางการเงินและเมื่อเราเข้าใจในเรื่องของการวางแผนทางการเงินแล้วในช่วงบทท้ายๆก็จะแนะนำเราไปสู่การลงทุนที่เราสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ด้วยตัวเองศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://elearning.set.or.th/SETGroup/courses/182/infoWMD1201- : วางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน คอร์สนี้เหมาะสำหรับคนทำงานประจำที่อยากจะวางแผนเกษียณไว้ในอนาคต เรียนรู้ไปกับเทคนิคการเพิ่มเงินออมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้เราได้ใช้ชีวิตมีความสุขหลังเกษียณ ในส่วนของคอร์สเรียนนี้ทางเว็บไซต์มีการแนะนำผู้เข้าเรียนว่าควรที่จะได้ผ่านการเข้าเรียนคลาส “WMD1001 เงินทองต้องวางแผน” ก่อนที่จะเข้าเรียนคอร์สนี้ เพื่อที่จะทำให้เรานั้นเข้าใจในเนื้อหาและสามารถนำความรู้มาใช้ได้ดีมากยิ่งขึ้น ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://elearning.set.or.th/SETGroup/courses/183/info WMD1501- : วางแผนภาษี สไตล์มนุษย์เงินออม หลักสูตรทางการเงินนี้เหมาะกับคนชอบอดออม เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่าการวางแผนภาษี ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการออมที่ทำให้เรามีเงินเก็บในอนาคตข้างหน้าได้ดีมากยื่งขึ้น ภายในคอร์สเรียนมีการสอนถึง วิธีการคำนวณภาษีในแต่ละรูปแบบ, สิทธิประโยชน์และเงื่อนไขต่างๆในการลดหย่อนภาษี รวมถึงเทคนิคการลดหย่อยภาษีที่ใครๆก็สามารถทำได้ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://elearning.set.or.th/SETGroup/courses/192/infoมือใหม่ อยากเล่นหุ้น สำหรับคนที่มีพื้นฐานทางการเงินอยู่บ้างแล้ว และสนใจอยากจะลองลงทุนกับการเล่นหุ้นดูสักครั้ง แนะนำคอร์สนี้ “มือใหม่ อยากเล่นหุ้น” คอร์สดีๆจาก Skillane เนื้อหาภายในมีการสอนเราตั้งแต่ความหมายของหุ้น, ถ้าเราอยากจะลงทุนต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง รวมไปถึงเทคนิคการซื้อหุ้นและการวิเคราะห์อ่านกราฟหุ้นแบบมืออาชีพ เนื้อหามีทั้งหมด 10 วิดีโอ ความยาวรวมกัน 2 ชั่วโมง 2 นาที ว่างจากการทำงานเมื่อไหร่ก็สามารถเข้าเรียนได้ทุกเวลา ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.skilllane.com/courses/stocks-for-beginnerเตรียมตัวก่อนลงทุน - เข้าใจภาพความสำเร็จในการลงทุน “ทำกำไรเป็นความสุข ก่อนทำกำไรเป็นเงิน” แนวคิดการลงทุนจาก อ.วชิรเมษฐ์ ธเนศสถิตพงศ์ เป็นอาจารย์และนักลงทุนผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์กราฟมากกว่า 10 ปี คอร์สเรียนนี้มีเนื้อหาประมาณ 54 นาที ให้เราได้เรียนรู้ไปกับภาพใหญ่ของการลงทุน และนิสัยที่มนุษย์ควรฝึกเพื่อความสำเร็จในวันข้างหน้า จุดเด่นของคอร์สเรียนนี้คือมีเอกสารประกอบการเรียนให้ได้ดาวน์โหลดและรับชมไปพร้อมๆกับวิดีโอของเว็บไซต์ที่จัดทำขึ้นได้ไปในตัวค่ะ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.skilllane.com/courses/prepare-investment
-
เทคนิคการสัมภาษณ์เพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหาร
9 July 2020 เทคนิคการสัมภาษณ์งานเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารอย่างมั่นใจงานระดับผู้บริหาร | สรรหาผู้บริหารระดับสูง | เทคนิคการสัมภาษณ์ งานเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารบริษัทแมนพาวเวอร์กรุ๊ปผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงานนำเสนอบริการสิ่งต่าง ๆซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอปัจจุบันบริษัทแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกสำหรับการสัมภาษณ์งานเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารจะต้องเตรียมตัวอย่างไรและมีเทคนิคแบบไหนที่ทำให้คุณสร้างความมั่นใจก่อนไปสัมภาษณ์งาน และเราได้รวบรวมหลักการและเทคนิคในการตอบคำถามเพื่อให้ผู้บริหารได้เห็นถึงความสามารถของคุณเพื่อให้การสัมภาษณ์งานนั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด ค้นพบเคล็ดลับและเทคนิคการสัมภาษณ์งานเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงอย่างมั่นใจ•ต้องรู้ตัวเองก่อนเราต้องรู้ถึงความต้องการของตัวเองก่อนว่าแรงผลักและแรงดึง(Push & Pull Factor)อะไรที่เป็นแรงผลักและอะไรเป็นแรงดึงให้เราอยู่กับองค์กรปัจจุบันเช่น แรงผลักในที่นี้อาจจะเป็น Career Path เกี่ยวกับความก้าวหน้าในงานปัจจุบันหากความก้าวหน้าในงานปัจจุบันไม่มีแล้วตรงนี้ก็สามารถกลายเป็นแรงผลักให้เราก้าวไปสู่องค์กรอื่นที่มีความก้าวหน้าให้กับเราต่อมาคือแรงดึงเช่น เรื่องสถานที่ทำงานที่อยู่ใกล้บ้านซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้มีผลต่อการตัดสินใจเปลี่ยนงานเป็นต้น แรงผลักและแรงดึงในการเปลี่ยนสถานที่ทำงาน ขอแนะนำเทคนิคที่สามารถช่วยทำให้เราตระหนักรู้ถึงความต้องการของตัวเราเองซึ่งเราเรียกเทคนิคนี้ว่า “CLAMS” คือ C = Challengeความท้าทายในการทำงานอะไรใหม่ๆ หรือที่ทำงานใหม่เมื่อมีการเปลี่ยนงานL =Locationความใกล้ ไกลของสถานที่ทำงานก็มีผลต่อการทำงานและการตัดสินใจA =Advancementความก้าวหน้าในการทำงาน M =Moneyอัตราเงินเดือนเมื่อมีการเปลี่ยนงานS =Securityความมั่นคงของงานเรียนรู้โอกาสงานโดยสิ่งที่ผู้สมัครควรวางแผนและหาข้อมูลนั่นคือ การเรียนรู้เรื่องงานที่ผู้สมัครกำลังจะก้าวเข้าไปทำในองค์กรนั้น ๆ โดยสิ่งที่เราต้องเรียนรู้มีอยู่2 ปัจจัยหลัก ดังนี้1. ลักษณะของงานพิจารณาว่างานที่เราจะทำนั้นเป็นงานที่ท้าท้ายและสามารถทำได้ดีหรือไม่อย่างไร เกินขีดความสามารถที่เราเคยทำมาหรือไม่ แล้วจะทำให้เราประสบความสำเร็จได้หรือเปล่าเป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อมีการเปลี่ยนงาน2. วัฒนธรรมองค์กรเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องพิจารณา เพราะในแต่ละองค์กรอาจจะมีวัฒนธรรมองค์กรที่ต่างกันไป เช่น วัฒนธรรมแบบไทย แบบฝรั่ง หรือแบบผสม ก็ควรพิจารณาว่าเราจะสามารถเข้ากับวัฒนธรรมแบบไหนการเตรียมความพร้อมเพื่อไปสัมภาษณ์งาน1. การเตรียมความพร้อมของตัวเองผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ควรมีการเตรียมความพร้อมถึงงานที่เคยทำมาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของลักษณะงานที่ทำ เช่น งานที่คุณเคยทำมามีอะไรบ้าง มีลูกน้องกี่คน report ใครบ้าง ทีมงานที่ต้องทำงานด้วยเป็นอย่างไร นี่เป็นเพียงตัวอย่างคำถามที่ผู้สมัครควรรู้และเตรียมตัว เพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้จะทำให้การเตรียมคำตอบเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้นและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้สัมภาษณ์2. การเตรียมความพร้อมเรื่องของข้อมูลบริษัทผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ควรมีการเตรียมข้อมูลของบริษัทที่จะไปสัมภาษณ์ เช่น ข้อมูลของบริษัทนั้นทำอะไรบ้าง มีการ Rebranding หรือไม่ หรือมีการวางแผนการลงทุนเพิ่มเติมอย่างไร ตรงนี้เองจะเป็นคำถามที่ผู้บริหารจะตรวจสอบได้ว่าผู้เข้ารับการสัมภาษณ์งานมีความสนใจในองค์กรมากน้อยเพียงใดเทคนิคการเล่าถึงความสำเร็จการเล่าถึงความสำเร็จของงานที่เคยทำมาถือว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตนเองเราจึงมีเทคนิคมาให้เพื่อช่วยให้ผู้สมัครสามารถลำดับความคิดในการเล่าถึงความสำเร็จของตนเองที่ผ่านมาได้อย่างราบรื่น โดยเราเรียกเทคนิคนี้ว่า“CAR Technique”คือC = Challengeความท้าทายA = Actionสิ่งที่เราทำเพื่อแก้ปัญหาR = Resultผลลัพธ์ที่ได้ตามมาเช่นการยกเหตุการณ์ขึ้นมาเพื่อกล่าวถึงผลของความสำเร็จนั้น เป็นอีก 1 เทคนิคที่จะช่วยทำให้เรียบเรียงความคิดอย่างเป็นระบบเพื่อประโยชน์สูงสุดในการทำงานคำถามเรื่อง Soft Skillสำหรับการตอบคำถามเรื่อง Soft Skillนั้นมักเป็นคำถามที่ถามถึงความสามารถในการใช้ชีวิตการทำงานในที่นั่นๆ เช่น การวัดความสามารถในการนำทีมงานของเราทำให้ทราบถึงความสามารถในการจัดการซึ่งผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ควรมีการเตรียมตัวและวางแผนการตอบคำถามไปก่อนเพื่อทำให้ผู้บริหารเห็นถึงความสามารถของเราเมื่อเรียนรู้ตัวเองและโอกาสสำหรับงานแล้ว จะทำให้เราประเมินได้เบื้องต้นว่าการเป็นผู้บริหารในองค์กรที่กำลังจะไปทำนั้น มีโอกาสในการประสบความสำเร็จและเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการก้าวสู่ตำแหน่งนี้ด้วยความมั่นใจต่อไปที่มา : youtube/Manpower Thailandเกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของงานรัดับผู้บริหารกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาผู้บริหารระดับสูง ว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยโทร. 02-634-7291อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.comTag : เทคนิคการสัมภาษณ์ เพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหาร, สมัครงาน, บริษัทจัดหางาน, Recruitment, Recruitment Agency
-
Gig Responsibly
1 July 2020 ดาวน์โหลดเอกสารที่นี่
-
กระทรวงแรงงาน ร่วม 6 ภาคีลงนามความร่วมมือด้านการจัดหางาน โดยแมนพาวเวอร์กรุ๊ปเดินหน้าร่วมหนุนรับมือและแก้ปัญหาแรงงาน ในสถานการณ์โควิด-19
1 July 2020 กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานได้ร่วมลงนาม 6 ภาคีเครือข่ายด้านการจัดหางานชั้นนำระดับโลก เพื่อรับมือและแก้ปัญหาคนตกงานในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยได้รับเกียรติ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (คนกลาง) ในการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจัดหางาน ระหว่างกรมการจัดหางานและกลุ่มบริษัทด้านการจัดหางาน โดยมี มร.ไซมอน แมททิวส์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย, แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ในนามบริษัท แมนพาวเวอร์ โปรเฟสชั่นแนล แอนด์ เอ็กเซ็กคูทีฟ จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากบริษัท อเด็คโก้ คอนซัลติ้ง จำกัด, บริษัท เคลลี่ เซอร์วิสเซส สต๊าฟฟิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท จ็อปท็อปกัน จำกัด, บริษัท จ๊อบบีเคเค ดอท คอม จำกัด และบริษัท จ๊อบส์ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้การจัดกิจกรรม “สานพลังประชารัฐสู้ภัยโควิด-19 เพื่อคนไทยมีงานทำ”ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดตำแหน่งงานและสมัครงานผ่านทางwww.manpowerthailand.com พร้อมตำแหน่งงานทุกระดับหลากหลายสาขาอาชีพ เปิดรับจำนวนมาก ที่มา : NBT Digital 2HD****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.com
-
โอกาสงานในโซนนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดชลบุรี และ ระยอง
30 June 2020 โอกาสงานในโซนนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดชลบุรี และ ระยองหากกล่าวถึงแหล่งฐานการผลิตในเมืองไทย ทุกคนน่าจะนึกภาพจังหวัดแถบภาคตะวันออกเพราะถือว่าเป็นแหล่งรวบรวมที่ตั้งฐานการผลิตไว้ที่นั้น และยังเป็นแหล่งในการหาพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากจังหวัดชลบุรี และ จังหวัดระยอง สองจังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ๆมากกว่าจังหวัดอื่นๆ และเป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าที่มีชื่อเสียงและเทียบชั้นได้กับต่างประเทศอีกด้วย เช่น อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ และ ชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ มีหลายบริษัทฯและ ยี่ห้อแบรนด์ดังๆ มาตั้งฐานหารผลิตที่นี่ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ ญีปุ่น, ยุโรป และ อเมริกัน เป็นต้นทำให้สองจังหวัดนี้ มีความต้องการแรงงานและหาพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อเข้าขบวนการผลิตเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าจะมีการลดความอัตราต้องการบ้างเป็นบางช่วง แต่การหาพนักงานโซนจังหวัดระยอง และ ชลบุรี ก็ยังมีความต้องการเข้ามาตลอด สามารถเห็นได้จากเว็ปเพจ และ เว็ปไซด์ การหางานหลายๆที่ที่มีการลงประกาศเพื่อหาพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งในการสรรหาของแต่ละบริษัทฯ นั้น ก็จะมีทั้งสรรหาด้วยตัวเอง ซึ่งอาจจะหาไม่ทันความต้องการของฝ่ายผลิต อาจต้องใช้บริการสรรหาจากบริษัทจัดหางาน หรือ บริษัทสรรหาบุคคลากร เพื่อให้ทันตามความต้องการของฝ่ายผลิต อย่างไรก็ตามการสรรหาพนักงานใช่ว่าจะมีแค่บริษัทผลิตรถยนต์ ที่ต้องการสรรหาพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม แค่เพียงธุรกิจเดียวยังมีในส่วนของบริษัทผู้จัดหาผลิตชิ้นส่วนต่างๆของรถยนต์ ที่ต้องประกาศหาพนักงานโซนจังหวัดระยอง และ ชลบุรี ด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้ความต้องการหาพนักงานโรงงานอุตสาหกรรมในแถบนี้ค่อนข้างสูงและมีความต้องการอยู่เรื่อยๆโดยเมื่อดูความต้องการแรงงานและการหาพนักงานโซนจังหวัดระยอง และ ชลบุรี ไม่ใช่มีแค่ธุรกิจผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ประกอบรถยนต์อย่างเดียว ในสองจังหวัดนี้ ยังมีธุรกิจที่หลากหลายทำการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ด้วยที่ต้องการหาพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม เช่น เคมี ปิโตรเคมี อาหาร เคื่องมือแพทย์ อะไหล่เครื่องบิน ก่อสร้าง โลจิสติกส์ เป้นต้น ซึ่งนิคมอุตสหกรรมใหญ่ๆไม่ว่าจะเป็น นิคมอุตสาหกรรมเหมราฐ ที่มีทั้งในจังหวัดระยอง และ ชลบุรี ถัดมานิคมอุตสหกรรมอมตะ มีทั้งในจังหวัดชลบุรี และ ระยองเช่นกัน ซึ่งอีกนิคมหนึ่งมีโรงงานผลิตหลากหลายไม่แพ้กันคือ นิคมปิ่นทอง ซึ่งมีหลายนิคมเช่นกัน ในสองจังหวัดนี้ ทั้งสามนิคมฯข้างต้น จะมีทั้งบริษัทผู้เป็นฝ่ายผลิต และบริษัทคู่ค้าประกาศหาพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม ในเว็ปเพจ และ เว็ปไซด์เป็นจำนวนมากและมีความต้องการในการสรรหาพนักงานโซนจังหวัดระยอง และ ชลบุรี อยู่เรื่อยๆ ซึ่งทำให้ธุรกิจการให้บริการสรรหาบุคคลากร มีการแข่งขันกันสูงตามไปด้วยเช่นกัน จะเห็นว่ามีบริษัทจัดหางานและสรรหาบุคคลากรเพื่อป้อนพนักงานเข้าสู่โรงงานการผลิตเกิดขึ้นจำนวนมากในสองจังหวัดนี้ตามข่าวและเว็ปไซด์หางานต่างๆ จะเห็นว่าความต้องการแรงงานในการหาพนักงานโซนจังหวัดระยอง และ ชลบุรีในส่วนของพนักงานโรงงานอุตสาหกรรมยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้แรงงานจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในตลาดแรงงานในสองจังหวัดนี้ จึงเป็นที่จับตาของกลุ่มหางานทั้งจบใหม่ และมีประสบการณ์เข้ามาทำงานหาประสบการณ์และประกอบอาชีพในสองจังหวัดนี้ รวมทั้งผู้ประกอบการทั้งใน และต่างประเทศ เข้ามาลงุทนในโซนสองจังหวัดนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน ซ่งถือได้ว่าจังหวัดระยองและ จังหวัดชลบุรีเป็นจังหวัดที่ผลิตงาน ผลิดเงิน ผลิตคนที่มีศักยภาพต่อขนวนการผลิต และส่งผลดีต่อ GDP ของประเทศได้ดีเช่นกัน
-
หาพนักงาน part time | Part-time-jobs
29 June 2020 บริการรับจัดหาพนักงาน Part Time หางานพาร์ทไทม์ งานพิเศษพนักงาน Part Time คืออะไรPart time jobsมีความหมายว่าอย่างไรถ้าหากดูความหมายของคำว่าPart time jobsจาก Dictionary เป็นคำนามที่หมายถึง งานนอกเวลา หรืองานที่ทำนอกเวลาปกติบางทีเราเรียกทับคำศัพท์ว่า "งานพาร์ทไทม์"และอีกคำที่ได้ยินบ่อยคือ "งานพิเศษ" ซึ่งหมายถึง งานที่ทำนอกเวลาการทำงานตามปกติ ไม่ใช่ทำเป็นงานประจำทุกวัน ส่วนเวลาในการทำงานพิเศษนั้นไม่แน่นอน แล้วแต่สภาพของงาน สำหรับค่าจ้างจะมีการตกลงจ้างงานเป็นรายการ เป็นชิ้นงานหรือนับเวลาทำงานเป็นรายชั่วโมง โดยค่าแรงสำหรับงานพิเศษจะคิดตามคุณภาพของงานที่ทำอาจจะจ่ายกันเป็นชิ้นงานหรือนับเวลาทำงานเป็นกะหรือรายชั่วโมงก็แล้วแต่งานพิเศษชนิดนั้น ๆ โดยรวมแล้วคำที่นิยมใช้แทนในความหมายของ Part time job ก็คืองานพิเศษนั่นเอง ถ้าจะยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น นักศึกษามหาวิทยาลัยที่รับงานคีย์ข้อมูลมาทำที่บ้านหรือรับช่วยงาน Event ในวันหยุดงานPart Time มีข้อดีอย่างไรงาน Part time โดยหลักจะถูกมองว่าเป็นการสร้างรายได้เสริมให้แก่ผู้ที่ต้องการหารายได้เพิ่มจากงานประจำและรายได้เสริมให้กับบางคนที่ทำงานเต็มเวลาไม่ได้ ที่จริงแล้ว งาน Part time นั้นถือว่ามีประโยชน์มากนอกเหนือจากรายได้พิเศษ โดยเฉพาะกับน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา ในปัจจุบันคนไทยเรายังไม่ค่อยตื่นตัวกับการหางาน Part time มากเท่าในต่างประเทศ ดังที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ในหนังหรือรายการโทรทัศน์ ของประเทศอเมริกา อังกฤษ หรือประเทศในเอเชีย เช่นญี่ปุ่น นักเรียนนักศึกษาที่นั่นส่วนมากจะออกไปหางาน Part time เพื่อหารายได้พิเศษตั้งแต่เป็นนักเรียนมัธยม เพราะผู้ปกครองที่นั่นให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์และความรับผิดชอบ ซึ่งเมือเด็ก ๆ เหล่านนี้เรียนจบมา เค้าก็พร้อมกับการทำงานอย่างจริงจังโดยที่ไม่ต้องปรับตัวมากนัก สำหรับในประเทศไทย หลาย ๆ บริษัทก็กำลังมองหาพนักงาน Part time เพื่อให้น้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา ได้หาประสบการณ์ในการทำงาน Part time ซึ่งสามารถสร้างทักษะที่แตกต่างจากคนที่เรียนจบมาโดยไม่เคยผ่านงานอะไรมาเลยบางคนไม่เคยทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย ไม่เคยฝึกงาน เมื่อจบออกมามักจะเสียเปรียบคนที่เคยฝึกงานทำงานเป็นพนักงาน Part time มาหลาย ๆ ด้าน ซึ่งไม่รวมถึงรายได้คือ1. มีความมั่นใจในตัวเอง และการเข้าสังคมเพราะการทำงาน Part timeจะทำให้เรารู้จักการปรับตัวการเข้าสังคมที่แตกต่างจากที่เราเคยอยู่มา ทำให้เราได้เจอสังคมใหม่ ๆที่กว้างขึ้นได้รู้จักคนที่หลากหลายซึ่งอาจจะมีประโยชน์เมื่อถึงเวลาที่เราต้องหางานใหม่เพราะคนเหล่านั้นอาจจะแนะนำงาน หรือเป็นบุคคลอ้างอิงให้กับเราได้2. ประสบการณ์จริงจากการทำงานที่สามารถนำมาปรับใช้กับงานปัจจุบันเพราะการมีประสบการณ์ด้านการทำงาน Part time มาก่อนก็จะเป็นประโยชน์มากเมื่อถึงเวลาที่เรียนจบและต้องสมัครงานจริงๆ ทำให้เราได้เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นในการทำงานซึ่งไม่สามารถเรียนรู้ได้ในห้องเรียน และประสบการณ์นั้นจะทำให้เราได้เปรียบผู้สมัครคนอื่นๆ3. ประวัติการทำงานบน Resume เพื่อให้ได้รับการคัดเลือกเข้าทำงานงาน Part Time จะช่วยให้คุณมีทักษะและประสบการณ์สำหรับการทำงานในองค์กรในอนาคตมีความรับผิดชอบมากขึ้น เพราะจะต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ซึ่งจะช่วยให้สามารถรับมือกับภาระงานที่มากขึ้นในอนาคตได้ เมื่อคุณต้องการเข้าสู่องค์กรใหญ่เพื่อทำงานประจำประสบการณ์จากการทำงาน Part Time จะทำให้นายจ้างพิจารณาจ้างงานคุณได้ง่ายขึ้นเพราะคุณมีทักษะในการทำงานมาแล้วนั่นเองดังนั้นงาน Part-time จึงไม่ควรถูกมองข้าม และควรได้รับการสนับสนุน น้อง ๆ บางคนอาจสนใจแต่ไม่ทราบว่างาน Part-time อะไร หรืองานอะไรที่น่าสนใจ และสามารถทำได้บ้าง คำแนะนำง่าย ๆ คือ ควรเป็นงานที่มีประโยชน์กับเราในระยะยาวเพื่อให้เราได้ฝึกฝนทักษะต่าง ๆ เช่น· Data Entry ช่วยฝึกในเรื่องการพิมพ์เอกสารและงาน Admin ในออฟฟิศ· งาน Temp Staff ใน Event ต่าง ๆ ช่วยฝึกในเรื่องการทำงานกับคนกลุ่มใหญ่ การประสานงาน และการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ· พนักงานประจำร้าน ไม่ว่าจะเป็นขายของ หรืออาหารช่วยให้เราเรียนรู้การขายและการให้บริการ การบริหารงาน Franchise และการใช้ภาษาต่างประเทศด้วย โดยปกติอัตราค่าจ้างสำหรับงาน Part time จะอยู่ในระดับที่ดี เพราะเป็นการจ้างในช่วงนอกเวลาทำงานปกติหรือเป็นแบบชั่วคราว บริษัทต่าง ๆจึงมักจะจ่ายค่าตอบแทนให้ไม่น้อยกว่าค่าจ้างพนักงานปกติ หรืออาจมากกว่าในกรณีที่เป็นงานด่วนหรือโครงการพิเศษ ดังนั้นถ้าใครยังไม่มีงาน Parttimeทำลองมองหาจากประกาศหางานในเว็บไซต์รับจัดหางานของบริษัทต่าง ๆ ได้แนะนำงาน Part Time in Trend คน Young Gen !!! ห้ามพลาดเมื่อพูดถึงงาน Parttime คนไทยส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับงานแบบนี้ แต่ถ้าเป็นคนต่างประเทศ เช่น อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น หรือเกาหลี มักจะเคยทำมาแล้ว อาจจะเป็นตอนที่กำลังเรียนอยู่ หรือ ทำเป็นอาชีพเสริม การทำงาน Parttime เป็นการสร้างรายได้พิเศษให้ตัวเองและครอบครัวทำให้เรารู้จักการบริหารเวลา การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนรุ่นใหม่ คือประสบการณ์ที่จะได้รับจากการทำงาน Parttime ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์สำหรับการทำงานและการสมัครงานในอนาคตหลักเกณฑ์ง่ายๆในการการเลือกงาน Part-time มีดังนี้· เป็นงานที่ปลอดภัยสถานที่ไม่ไกลจากบ้าน เพราะอาจต้องเลิกค่ำ ถ้าทำงานหลังเลิกเรียน· ตรงกับความสนใจของเรา เช่น ถ้าเราเป็นคนชอบคุย พบปะผู้คน ก็จะเหมาะกับงานขาย หรือพนักงานประจำร้านต่างๆ ถ้าเราต้องการฝึกฝนการใช้ภาษาก็ลองหางานแปลหรืองานที่ต้องใช้ภาษาต่างๆ หรือถ้าเป็นคนชอบงานกิจกรรมก็เหมาะกับ งาน Event Support เป็นต้น· งานที่เราได้ใช้ความรู้ที่เรียนมา ข้อนี้เหมาะสำหรับน้องๆนักศึกษาที่ใกล้จบ เพราะการที่เราได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราเรียนมา นอกจากเราจะเข้าใจอาชีพในอนาคตแล้ว ยังทำให้เราได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษเมื่อสมัครงานกับบริษัทต่างๆ เมื่อเรียนจบอย่างแน่นอนงาน Parttime ในประเทศไทยแม้จะยังไม่แพร่หลายมากเท่าที่ควร แต่มีแนวโน้มสูงขึ้นเนื่องจากงานบางประเภท เช่นงานทางด้านบริการ งานขาย งานตามฤดูกาล ยังมีการเติบโตสูง และค่าแรงของพนักงาน Parttime อยู่ในเกณฑ์ที่ดี บางครั้งอาจมีค่าตอบแทนที่สูงกว่าพนักงานประจำก็ได้โดยปกติพนักงาน Parttime อาจมีรายได้ชั่วโมงละ 60-100 บาท หรือพนักงานชั่วคราวอาจมีรายได้วันละ700-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับงานนั้น ๆปัจจุบันการหางาน Parttime ทำได้ไม่ยาก เราสามารถสอบถามจากฝ่ายบุคคลของบริษัทต่าง ๆ ดูประกาศใน Website หางาน ดูป้ายที่ติดตามร้านต่างๆ หรือฝากประวัติไว้กับบริษัทจัดหางาน โดยระบุงานที่สนใจและเวลาที่เราสามารถทำได้เพื่อให้ทางบริษัทติดต่อเราได้เมื่อมีงานที่เหมาะกับเราเกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของงานรัดับผู้บริหารกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาผู้บริหารระดับสูง ว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุดติดต่อฝ่ายการตลาด:แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยโทร. 02-634-7291อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.comTag : บริการรับจัดหาพนักงาน Part Time หางานพาร์ทไทม์ งานพิเศษ, สมัครงาน, บริษัทจัดหางาน, Recruitment, Recruitment Agency
-
จะใช้บริการสรรหาพนักงาน outsource ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร
28 June 2020 จะใช้บริการสรรหาพนักงาน outsource ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไรก่อนที่ตัวแทนของบริษัทฯ องค์การ หรือห้างร้านต่างๆ จะใช้บริการ หาพนักงาน outsource นั้นควรทำความเข้าใจให้ชัดเจนเสียก่อนในหลายแง่มุม หรือหลากหลายองค์ประกอบของการให้บริการ เพื่อการตัดสินใจให้ถูกต้องก่อนการเลือกใช้บริการหาพนักงาน outsource อันอาจจะประกอบไปด้วย ตัวบริษัทฯ ที่จะเลือกมาใช้บริการหาพนักงาน outsource, การบริการ ที่บริษัทฯ นั้นมีให้,ข้อดีของการใช้บริการ รวมทั้งเหตุผลของผู้ใช้บริการเองว่าทำไมถึงต้องมีการใช้บริการหาพนักงาน outsource จึงใคร่ขอแตกประเด็นให้ทราบ เพื่อเป็นความรู้ และเข้าใจมากขึ้น ก่อนที่จะใช้บริการ เพราะท้ายที่สุดแล้วการเลือกใช้บริการใดๆ ก็ตาม ผู้ใช้บริการย่อมคาดหวังว่า ผู้ให้บริการจะช่วยแก้ไขปัญหา และตอบโจทย์ของผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ1. บริษัทที่จะเลือกใช้บริการหาพนักงาน outsourceควรศึกษาประวัติของบริษัท ฯ ที่จะใช้บริการให้ดี เพื่อจะได้ทราบความมั่นคงทั้งในด้านสภาพคล่องทางการเงิน และความถูกต้องทางกฎหมาย เพราะบริษัทฯ ให้บริการด้านหาพนักงาน outsource ที่ดีนั้นควรมีสภาวะทางการเงินที่ดี มีบริษัทฯในเครือ หรือในกลุ่มที่หลากหลาย เนื่องจากบริษัทฯ ที่ให้บริการนี้มีหน้าที่ดูแลการจ่ายเงินเดือน หรือค่าจ้างแทนผู้ใช้บริการที่พนักงานพึงได้จากการทำงาน และต้องเท่าเทียมกันกับพนักงานของบริษัทผู้ใช้บริการภายใต้กฎหมายแรงงานไทย อันหมายถึงเบี้ยประกันสังคม เบี้ยกองทุน และสวัสดิการต่างๆ โดยอาจจะขอศึกษาจากเอกสารการจัดตั้งบริษัทฯ และทุนการจัดตั้งบริษัท รวมทั้ง ภพ.20 ซึ่งจะเป็นข้อบ่งชี้ว่าบริษัทฯ นั้นมีการจดทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งอาจจะมีบางบริษัทที่ให้บริการด้านการหาพนักงาน outsource ที่ยังขาดเงื่อนไขภายใต้การจดทะเบียนอยู่2.การบริการหาพนักงานoutsource ที่บริษัทฯ นั้นมีอยู่ศึกษาถึงบริการที่บริษัทฯ นั้นมีทางเลือกที่ดี หลากหลายและเอื้อประโยชน์มากน้อยเพียงใด โดยหลักๆ แล้วบริษัทผู้ให้บริการหาพนักงาน outsource จะมีบริการที่หลากหลายแตกต่างกันไป เพื่อช่วยตอบโจทย์ของผู้ใช้บริการให้มากที่สุด หลักๆ แล้วบริการหาพนักงาน outsource จะมี 3 บริการด้วยกัน 2.1.หาพนักงาน outsource แบบพนักงานรายวัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่พนักงานในไลน์ผลิต โดยที่บริษัทฯ จะเข้าไปร่วมปรึกษาหารือกับผู้ใช้บริการ เพื่อศึกษาปัญหา และหาวิถีทางแก้ไขปัญหาร่วมกันแก้ไขปัญหา รวมทั้งตกลงค่าบริการที่ตรงกันและเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย จากนั้นก็จะดำเนินการสรรหาพนักงาน นำส่งให้ ตามที่ได้ตกลงกันจนครบจำนวน ทำจ่ายเงินเดือน และสวัสดิการต่างๆ ของพนักงานตามกฎหมายแรงงาน และเงื่อนไขของบริษัทฯ ตามรอบการชำระค่าบริการในการจัดหาพนักงาน outsource 2.2.หาพนักงาน outsource แบบพนักงานรายเดือน หลักการจะคล้ายกับพนักงานรายวัน เพียงแต่การทำจ่ายเงินเดือนสำรองแทนไปก่อน เป็นรายเดือน ตามที่ผู้ใช้บริการได้ตกลงกับพนักงาน ทั้งนี้บริษัทผู้ให้บริการจะทำการสรรหาพนักงานรายเดือนนั้นมาให้คัดเลือก ทำการสัมภาษณ์ จนมีการจ้างงานเกิดขึ้น 2.3.การโอนย้าย หรือโอนฝากพนักงาน หมายถึงบริษัทฯ มีพนักงานจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ประสงค์ที่จะทำจ่ายเงินเดือน และสวัสดิการเอง จึงนำมาฝากให้บริษัทผู้ให้บริการทำหน้าที่ดังกล่าวแทนทุกอย่าง ตามหลักการดังกล่าวในข้อที่หนึ่งในการจัดหาพนักงาน outsourceนอกเหนือจากบริการดังกล่าวแล้ว อาจจะมีบริการหาพนักงาน outsource ที่แตกย่อยออกมาอีก เช่นจ้างพนักงานทำงานเป็นรายชั่วโมง รายสัปดาห์ รายหนึ่งเดือน หรือมากกว่า ทั้งนี้พนักงานเหล่านี้ต้องทำสัญญาจ้างงานภายใต้บริษัทผู้ให้บริการ เพื่อทำหน้าที่แทนในการทำจ่ายเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ แม้แต่ข้อกรณีพิพาทของพนักงาน ให้ถูกต้องตามกฎหมายแรงงาน3. ข้อดีของการใช้บริการหาพนักงาน outsourceหลายบริษัทฯ หรือองค์การต่างๆ มักจะมองว่าการใช้บริการหาพนักงาน outsource นั้นแพง ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าหากลองคำนวณค่าใช้จ่ายแฝงที่เกิดขึ้น จะมองเห็นว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อยนั้น คุ้มค่ามากแค่ไหน จึงขอนำเสนอข้อดีของการใช้บริการหาพนักงาน outsource ดังนี้ > ประหยัดค่าใช้จ่ายแฝงอันมหาศาล ของผู้ใช้บริการหาพนักงาน outsources > ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซด์ ป้าย ใบปลิว จ้างพนักงานสรรหา ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าอื่นๆ อีกมากมาย > ประหยัดเวลาในการคัดสรรหาพนักงาน และสัมภาษณ์ เพราะบริษัทผู้ให้บริการดำเนินการให้ > ประหยัดค่าชุดพนักงาน และค่าจัดหาชุดพนักงานในกรณีที่มีการตกลงร่วมกันที่ถูกต้อง > เจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้ใช้บริการ มีเวลาไปทำอย่างอื่นให้เกิดคุณค่าต่อองค์การมากขึ้น > ไม่ต้องทำระบบ Payroll หรือคิดคำนวณการจ่ายเงินค่าจ้างในแต่ละรอบการจ่ายเอง > ประหยัดค่า สลิป เงินเดือน ค่าหมึกปริ้น และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง > ประหยัดค่าโอนเงินเดือนผ่านธนาคารรายหัว > ไม่เสียเวลาในการตักเตือน ลงโทษพนักงาน หรือแม้แต่การเลิกจ้าง กรณีที่มีการตกลงร่วมกันที่ถูกต้อง > ประหยัดในเรื่องเอกสารในการทำธุรกรรม สัญญาจ้างงานต่างๆ กับพนักงาน > หาพนักงานได้ รวดเร็ว ทันการณ์ รวมทั้งการหาพนักงานทดแทน > ไม่ต้องเสี่ยงเรื่องกรณีพิพาททางกฎหมายแรงงาน > ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลิกจ้างอันมหาศาล กรณีที่มีการตกลงร่วมกันที่ถูกต้องนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายข้างต้นนั้น หากคิดคำนวณค่าใช้จ่ายแฝงแล้วจะเห็นว่าผู้ใช้บริการคุ้มค่ามากในหลายด้าน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องหาพนักงาน outsource เพื่อมาทำงานระยะเวลาสั้นๆ ในช่วงที่มีออร์เดอร์เยอะ หรือต้องการปิดออร์เดอร์ปลายปี เป็นต้น4. เหตุผลทำไมบริษัทฯ ต้องใช้บริการหาพนักงาน outsourceผู้ใช้บริการต้องหารือกับหลายฝ่าย เช่น ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ฝ่ายการเงิน ฝ่ายวางแผนการผลิต ฯลฯ เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมจำเป็น และถึงเวลาที่ต้องใช้บริการหาพนักงาน outsource ส่วนใหญ่จะมาจากหลายสาเหตุประกอบการพิจารณาในการใช้บริการดังนี้ > ฝ่ายสรรหาพนักงานเริ่มหาพนักงานไม่ทันเนื่องจากมีการขาดลา หรือลาออกของพนักงานที่สูงขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้บริการหาพนักงาน outsource มาเสริม หรือเติมเต็มแรงงานที่ขาดหายไป > ฝ่ายวางแผนการผลิตเริ่มมีปัญหาเรื่องกำลังผลิต ส่งผลให้ผลิตไม่ทันตามออร์เดอร์ หรือทันตามความต้องการของลูกค้า > ความต้องการแรงงานของแต่ละบริษัทฯ ในพื่นที่เริ่มสูงขึ้น มีการแข่งขันในสรรหาพนักงานในกลุ่มเดียวกันมากขึ้น ทำให้ขาดแคลนแรงงาน ไม่ทันต่อสถานการณ์การผลิต > ความต้องการแรงงานในช่วงเทศกาล วันหยุดยาว มีมากขึ้น เพื่อมาเสริมกำลังแรงงานของพนักงานที่ลางานกลับบ้าน และบางทีไม่กลับมาทำงานที่เดิม > เมื่อได้คำนวณค่าใช้จ่ายแฝง ที่ดำเนินการหาพนักงานเองแล้ว ว่ามันมากมาย ควรหันมาใช้บริการหาพนักงาน outsourceไม่ว่าจะได้เหตุผลใดในการใช้บริการ หลายบริษัทเห็นประโยชน์ และข้อดีในการใช้บริการหาพนักงาน outsource ทั้งในด้านการประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลา ตลอดจนบางเรื่องเกี่ยวกับสรรหาพนักงานทดแทน ปัญหาตักเตือน เลิกจ้างพนักงาน สามารถผลักภาระนั้นให้เป็นหน้าที่ของให้ผู้บริการ จึงได้มีการเรียกตัวแทนจากบริษัทฯ ผู้ให้บริการเหล่านั้นเขาไปพูดคุยนำเสนอบริการ ทั้งในฐานะเป็นผู้ให้บริการ ให้คำปรึกษา ตลอดจนหานวัตกรรมใหม่ๆ ในการสรรหาพนักงาน outsource เข้ามา จนกลายเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดี ร่วมกัน เพื่อให้ผลรวมในการทำงานของตนง่าย รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์มากขึ้น โดยพิจารณาจากประเด็นที่นำเสนอไว้ และนอกเหนือจากนี้ทั้งผู้ใช้บริการ และผู้ให้บริการต้องเข้าใจหลักการเดียวกันว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของการใช้บริการหาพนักงาน outsource นั้นคือการเข้ามาร่วมกัน จับมือกันแก้ไขปัญหาร่วมกันเชิงนวัตกรรม เพื่อความสำเร็จของทั้งสองฝ่ายให้ก้าวไปอย่างสง่างาม และประสบความสำเร็จในโลกของการแข่งขันทางธุรกิจ
-
บริษัทจัดหางานกับช่องทางและการหาพนักงานฝ่ายผลิต
27 June 2020 บริการจัดหาพนักงานฝ่ายผลิต สมัครงาน หางานฝ่ายผลิต ตำแหน่งเฉพาะทางการทำงานถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีวิต เพราะหลังจากที่เราแข่งขันกันสอบเข้าศึกษาต่อ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และระดับอุดมศึกษา เมื่อสำเร็จการศึกษาออกมาก็ต้องรีบหางานทำ เพราะการทำงานเป็นที่มาของรายได้ และนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน ดังนั้นการหางานทำ จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจในการเลือกหางานที่เหมาะ ตรงกับความรู้ความสามารถ ของตัวเราสำหรับการหาพนักงานฝ่ายผลิตนั้น บริษัทจัดหางานถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถช่วยให้ท่านสามารถหางานได้เช่นกัน โดยการหาพนักงานฝ่ายผลิตนั้นกระบวนการต่างๆมีหลักการไม่ต่างกับการสรรหาบุคคลากรฝ่ายอื่นๆ โดยต้องผ่านการสัมภาษณ์และคัดกรองความสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหาพนักงานฝ่ายผลิตที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทาง ซึ่งถ้าต้องการสมัครเป็นพนักงานฝ่ายผลิตด้วยแล้ว ต้องคัดกรองพนักงานที่มีทัศนคติที่บอกว่าทำได้และต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจมีการทำงานเป็นทีม นอกเหนือจากคุณสมบัติที่ระบุไว้ในการหาพนักงานฝ่ายผลิตเพื่อส่งให้ลูกค้าสัมภาษณ์ต่อไป หากมีคุณสมบัติและความสามารถเหมาะสมจะได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมทำงานทันที ดังนั้น การเลือกบริษัทจัดหางานที่ให้บริการด้านการหาพนักงานฝ่ายผลิตนั้น ควรพิจารณาหลายด้านประกอบกันเช่น·ต้องเป็นบริษัทฯ ที่มีชื่อเสียงและสามารถตรวจสอบประวัติได้·ต้องเป็นบริษัทฯ ที่มีตำแหน่งงานฝ่ายผลิตหลากหลายให้เลือก·ต้องเป็นบริษัทฯ ที่มีสวัสดิการต่างๆ ที่เหมาะสม·ต้องเป็นบริษัทฯ ที่มีตำแหน่งงานฝ่ายผลิตและอื่นๆ ตรงกับคุณสมบัติที่เรามีในการหาพนักงานฝ่ายผลิตนั้น สิ่งที่ผู้สมัครต้องพิจารณานอกเหนือจากคุณสมบัติตรงกับความรู้ความสามารถที่เรามีหรือไม่ ดูเรื่องสวัสดิการและผลตอบแทน และสุดท้ายให้ดูเรื่องการเดินทางและสิ่งแวดล้อมของสถานที่ทำงานเหมาะสมมากน้อยเพียงไร จึงมีข้อควรระวังในการสมัครงานกับ บริษัทจัดหางานที่หาพนักงานฝ่ายผลิต เช่น สมัครแล้วไม่ได้งานทำ เพราะไม่มีตำแหน่งงานที่แน่นอน มีการเรียกเก็บเงินล่วงหน้าก่อนเริ่มงาน เช่นค่าตรวจร่างกาย ค่าชุดพนักงาน บริษัทฯไม่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลที่ถูกต้อง และประการสุดท้ายที่สำคัญที่สุด บริษัทไม่ปฏิบัติตาม พรบ.คุ้มครองแรงงานทั้งนี้มีช่องในการสมัครงานฝ่ายผลิตกับบริษัทจัดหางานหลายช่องทางต่างๆ ดังนี้·ดูใบปลิวที่บริษัทต้องการหาพนังานฝ่ายผลิตมาปิดประกาศรับสมัครงานหรือใบปลิวที่แจกตามตลาดนัดตามแหล่งชุมชนต่าง ๆ·ทราบข่าวจากเพื่อนที่ทำงานอยู่แล้ว เข้าร่วมโครงการเพื่อนแนะนำเพื่อนแนะนำ·การประชาสัมพันธ์ตำแหน่งงานว่างจากผู้นำชุมชน ได้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในวันที่มีการประชุมประจำเดือนในแต่ละอำเภอ·รับ SMS ข้อความประกาศรับสมัครงานจากฐานข้อมูลของบริษัท จัดหางาน·รับข่าวจากหนังสือพิมพ์ประกาศหาพนักงานฝ่ายผลิตที่ต้องการรับสมัครงาน หรือมีรถแห่ประกาศรับสมัครงาน·ขึ้นทะเบียนว่างงานที่สำนักงานจัดหางานเขตพื้นที่ที่ใกล้กับบ้าน ซึ่งจะมีตัวแทนนายจ้างที่ต้องการหาพนักงานฝ่ายผลิตเข้าไปคัดรายชื่อเพื่อติดต่อมาสมัครงาน·เดินทางไปดูจุดรับสมัครงาน ตามหน้านิคมอุตสาหกรรม ต่าง ๆ หรือตามย่านชุมชน·เข้าไปร่วมงานนัดพบแรงงานที่จัดบริการสำหรับหาพนักงานฝ่ายผลิต ที่สำนักงานจัดหางานจัดขึ้น·สมัครงานตามเวปไซต์ที่มีประกาศหาพนักงานฝ่ายผลิตที่บริษัทจัดหางานต่างๆประกาศไว้ แต่ช่องทางนี้พบการรับสมัครงานฝ่ายผลิตได้ไม่มากนัก สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกสมัครงานกับบริษัทจัดหางานที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านการหาพนักงานฝ่ายผลิต เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว ในการหาตำแหน่งงานว่าง และได้งานที่เหมาะสม สามารถประกอบอาชีพมีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว เพื่อให้ทันกับค่าครองชีพในปัจจุบัน
-
'คนรุ่นใหม่' ก่อหนี้แรง จับตาหนี้เสีย 'Gen Y' ทะลุแสนล้าน
26 June 2020 'คนรุ่นใหม่' ก่อหนี้แรง จับตาหนี้เสีย 'Gen Y' ทะลุแสนล้านข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลก"เครดิตบูโร” ห่วงคนรุ่นใหม่ก่อหนี้เพิ่มขึ้น ไตรมาสแรกยอดขอสินเชื่อบุคคลกว่า 8.4 แสนบัญชี ครึ่งหนึ่งเป็นของ “Gen Y” ด้าน “Gen Z” ก่อหนี้แรง ไตรมาสแรกยอดขอสินเชื่อใหม่พุ่ง 200% ผลจาก “ดิจิทัลเลนดิ้ง” เข้าถึงเงินกู้ง่ายประเทศไทยแม้เคยผ่านเหตุการณ์ร้ายมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น วิกฤติต้มยำกุ้ง น้ำท่วมใหญ่ เงินบาทแข็งค่า แต่สถานการณ์เหล่านี้ ส่งผลกระทบกับบางกลุ่มคนเท่านั้น แตกต่างจากวิกฤติโควิดซึ่งกระทบคนส่วนใหญ่ทั่วโลก และยังส่งผลกระทบกับผู้คนในทุกกลุ่มทั้งคนรวยและคนจน แม้ปัจจุบันจะเริ่มควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิดได้แล้ว โดยหลายกิจการเริ่มกลับมาให้บริการ แต่หลายคนยังคง “ว่างงาน” หรือรายได้ที่ได้รับก็ยังไม่กลับมาเท่ากับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด ขณะที่ข้อมูลของหลายๆ สำนักวิจัยทางเศรษฐกิจ พบว่า ความเป็นหนี้ของคนไทยเพิ่มขึ้นในทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ข้อมูลของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ “เครดิตบูโร” พบว่า กลุ่มที่มีการสร้างหนี้มากที่สุด คือ กลุ่มเจนวาย โดย ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2563 มีหนี้รวมกันถึง 4 ล้านล้านบาท เป็นหนี้เสีย หรือ “เอ็นพีแอล” คงค้างถึง 2.7 แสนล้านบาท รองลงมาคือ กลุ่มเจนเอ็กซ์ มีการก่อหนี้ที่ 3.7 ล้านล้านบาท โดยมีหนี้เสียในระบบอยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาท ขณะที่ เบบี้บูมเมอร์ มีหนี้สินคงค้างรวม 1.2 ล้านล้านบาท มีเอ็นพีแอลที่ 8.4 หมื่นล้านบาท ส่วน เจนแซด มีหนี้สินรวม 2.5 หมื่นล้านบาท และเป็นเอ็นพีแอลแล้ว 1.2 พันล้านบาท โดย เอ็นพีแอล ของ เจนแซด กระจุกตัวในสินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อเช่าซื้อที่ไม่ใช่รถยนต์ หนี้เสีย ‘เจนวาย’ เริ่มเร่งตัวนายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร กล่าวว่า ถ้าดูหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล (พีโลน) ที่อนุมัติใหม่ในไตรมาสแรก มีราวๆ 8.4 แสนบัญชี ในจำนวนนี้ราว 50% เป็นกลุ่มเจนวายหากดูกลุ่มที่มีปัญหาชำระหนี้ ที่เริ่มค้างชำระตั้งแต่ 31 วัน ไปจนถึง 90 วันขึ้นไป ซึ่งถือว่า กลายเป็นหนี้เสียแล้ว พบว่า "กลุ่มเจนวาย" มีมากสุด และหนี้เสียในกลุ่มนี้ยังเร่งตัวขึ้นมากด้วย ล่าสุดอยู่ที่ 1.6 ล้านบัญชี หรือคิดเป็นหนี้ที่มีปัญหามากกว่า 1 แสนล้านบาท อีกกลุ่มที่หนี้เสียเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง คือ เจนเอ็กซ์ มีบัญชีที่มีปัญหากว่า 1.1 ล้านบัญชี คิดเป็นหนี้คงค้างเกือบ 1.4 แสนล้านบาทสำหรับ หนี้บ้าน หากดูจำนวนบัญชีที่อนุมัติใหม่ในไตรมาสแรก พบว่า มี 8 หมื่นบัญชี เป็นของกลุ่มเจนวายในสัดส่วน 64% ส่วนจำนวนหนี้ที่มีปัญหาค้างชำระที่น่าห่วงในกลุ่มนี้ คือ กลุ่มเจนวาย และ เจนเอ็กซ์ พบว่า จำนวนบัญชีที่ค้างชำระเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยเจนวาย 1.1 แสนบัญชี คิดเป็นหนี้คงค้าง 1.4 แสนล้านบาท ส่วนเจนเอ็กซ์ หนี้ที่มีปัญหาเกือบ 1.2 แสนบัญชี มีหนี้ค้างชำระกว่า 1.3 แสนล้านบาทกลุ่มที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ ลูกหนี้กลุ่ม เจนเอ็กซ์ ที่มีอายุตั้งเเต่ 38 - 54 ปีกลุ่มนี้มักบริโภคนิยม จึงก่อหนี้เต็มที่แทบทุกสินเชื่อ เพราะอยู่ในช่วงสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง มั่นคงพอเกิด income shock หรือสูญเสียงาน ภาระค่าใช้จ่ายและภาระการจ่ายหนี้คืนจึงสูงมากๆ“กลุ่มที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ ลูกหนี้กลุ่ม เจนเอ็กซ์ ที่มีอายุตั้งเเต่ 38 - 54 ปี กลุ่มนี้มักบริโภคนิยม จึงก่อหนี้เต็มที่แทบทุกสินเชื่อ เพราะอยู่ในช่วงสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง มั่นคง พอเกิด income shock หรือสูญเสียงาน ภาระค่าใช้จ่ายและภาระการจ่ายหนี้คืนจึงสูงมากๆ แม้ช่วงที่ผ่านมากลุ่มนี้ก็มีการปรับโครงสร้างหนี้ไประดับหนึ่งแล้ว แต่กังวลว่าเมื่อเกิดผลกระทบจากโควิด-19 กลุ่มนี้จะหารายได้จากไหนมาชำระหนี้ แม้จะมีจำนวนหนึ่งที่มีงานทำ หรือมีธุรกิจรองรับก็ตาม”‘เจนแซด’ ก่อหนี้พุ่ง200%อีกกลุ่มที่กังวล คือ ผู้กู้หน้าใหม่ ลูกหนี้ครั้งแรก ซึ่งได้กลายมาเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ของสถาบันการเงินด้วยความที่มี digital lifestyle ไม่ได้เติบโตหรือมีประสบการณ์ในโลกแห่งกระดาษ จึงจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกรรม Digital lending เป็นอย่างมากกลุ่มนี้ อายุไม่เกิน 23 ปี เกิดช่วง 2539 - 2552 ส่วนใหญ่เริ่มเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ โดยระดมทุนกันเองหรือจากครอบครัวมาทำธุรกิจ เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นก็จะต่อยอดด้วยการกู้ business loan แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มนี้มีตัวเลขหนี้เสียระดับที่สูงพอควร และการก่อหนี้มีอัตราเร่งที่สูงมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาช่วงไตรมาสแรกปี 2563 หนี้กลุ่มเจนแซด มีอัตราการเติบโตของหนี้ค่อนข้างไว เฉลี่ยเดือนละ 7% นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2562 และเติบโตขึ้นกว่า 200 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 2.89 แสนบัญชี ส่วนยอดหนี้รวมของคนกลุ่มนี้ ณ สิ้นไตรมาสแรกอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท ‘เจนแซด’นิยมก่อหนี้ซื้อรถยนต์นายสุรพล กล่าวว่า หากดูการก่อหนี้รายคนพบว่า เฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.7 แสนบาทต่อคน ซึ่งเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีภาระหนี้ต่อคนเฉลี่ยที่ 1.5 แสนบาทต่อคน ส่วนหนี้ที่มีปัญหา พบว่า 7-8% เป็นหนี้ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ(SM) และอีก10-12% เป็นหนี้เอ็นพีแอลนายสุรพล กล่าวด้วยว่า หนี้ของคนกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อเช่าซื้อที่ไม่ใช่รถยนต์ โดยหนี้เอ็นพีแอล ส่วนใหญ่ เป็นสินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อเช่าซื้อที่ไม่ใช่รถยนต์ ขณะที่หนี้ SM หรือสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษ ของกลุ่มเจนแซด กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มสินเชื่อรถยนต์เช่นกัน ดังนั้นสินเชื่อรถยนต์จึงเป็นกลุ่มที่ต้องระวังเป็นพิเศษห่วงเศรษฐกิจไม่ฟื้น ทำ ‘หนี้เสีย’ พุ่งส่วนสถานการณ์หนี้หลังจากนี้ เชื่อว่าต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะแม้จะมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์โควิด-19แต่หากเศรษฐกิจ ไม่ฟื้นตัวมากพอจะมีลูกหนี้จำนวนหนึ่งต้องกลายเป็นเอ็นพีแอลเพราะไม่มีงานทำ ดังนั้นความเสี่ยงอยู่ที่ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นเร็วหรือไม่ ต้องใช้ระยะเวลาการฟื้นตัวนานแค่ไหน มาตรการรองรับหลังหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จะเป็นอย่างไร“ในมุมของเครดิตบูโร ที่อยากเสนอ คือ ผ่อนปรนเงื่อนไขบางประการของโครงการเงินกู้ต่างๆ ที่ออกมาเพื่อประคองธุรกิจของคนตัวเล็ก ซึ่งแฝงอยู่ในลูกหนี้บุคคลธรรมดา ที่ใช้สินเชื่อแบบ retail banking มาหมุนทำธุรกิจ เช่น car for cashหรือpersonal OD ให้เดินต่อไปได้ เนื่องจากกลุ่มนี้มีการประเมินว่ามีสายป่านสั้นเพียง 2เดือน”เขากล่าวว่า เงื่อนไขพิเศษ ในที่นี้ อาจทำได้โดย สถาบันการเงินยอมให้สินเชื่อดอกเบี้ยประมาณ 4-5% มีบสย.ค้ำประกันในสัดส่วนที่สูงกว่าปกติเช่น 40-50%ขึ้นไป โดยผ่อนปรนเงื่อนไขว่า หากไม่มีการค้างชำระในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง หากไม่มีการปรับโครงสร้างหนี้มีปัญหา หรือ TDR ในช่วง 12เดือนย้อนหลัง เป็นต้นนอกจากนี้มีผลการวิจัยเรื่อง “พฤติกรรมการใช้เงิน การดำเนินชีวิต และความคิดเห็นที่มีต่อการทำงานของคนรุ่นใหม่ยุค 4.0” โดย แมนพาวเวอร์ กรุ๊ป ซึ่งสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,515 คน ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 21-38 ปี พบว่า พฤติกรรมการดำเนินชีวิตกลุ่มคนยุคใหม่ 4.0 ส่วนใหญ่ชอบความสนุกสนานและความบันเทิง (Entertainment) 28% รองลงมา ชอบการมีอิสระทางความคิดและการดำเนินชีวิต (Freedom) 20% ชื่นชอบเทคโนโลยี 13% ชอบความสะดวกสบาย ทำให้ชีวิตตัวเองดูดีมีระดับ 7% สนใจที่จะศึกษาเล่าเรียนในระดับที่สูงขึ้น 6% ให้ความสนใจเกี่ยวกับกิจกรรมอันเป็นสาธารณสังคม 6% ชอบทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน 4% เป็นผู้นำแฟชั่นรวมถึงผู้ตามแฟชั่นลำดับแรกๆ 3% แต่มีเพียง 13% เท่านั้นที่มีการวางแผนการใช้ชีวิตในอนาคตของตนเอง“คนรุ่นใหม่”มีปัญหาจัดการเงินนางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แมนพาวเวอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายว่า กลุ่ม Gen Y และ Gen Z ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วง 20-40 ปี ไทยมีประชากรใน 2 กลุ่มนี้ ในปี 2562 อยู่ประมาณเกือบ 20 ล้านคน ถือเป็นสัดส่วน 30% หรือเกือบ 1 ใน 3 ของประเทศ ซึ่งมีปัญหาในเรื่องของการบริหารจัดการเรื่องการเงิน และปัญหารายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2562 พบว่า รายได้ครัวเรือนทั่วประเทศเฉลี่ย 26,018 บาทต่อเดือน ส่วนค่าใช้จ่ายของครัวเรือนมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 20,742 บาท หนี้สินเฉลี่ย 164,055 บาทต่อครัวเรือน จะเห็นว่าทิศทางของรายได้กับรายจ่ายเฉียดๆ ให้ผลสะท้อนกลับมาในทิศทางเดียวกับที่แมนพาวเวอร์เคยทำการสำรวจ ซึ่งพบปัญหารายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย และปัญหาการบริหารจัดการเรื่องการเงินส่วนบุคคลจากการสำรวจพบว่า คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท หรืออายุ 20 ปีต้นๆ ถึงกลุ่มที่มีรายได้ในช่วง 50,000 บาท ถือเป็นสัดส่วน 65% ซึ่งในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ สัดส่วนรายได้จะอยู่ที่ 20,000 – 30,000 บาท 27% มาดูที่ค่าใช้จ่าย เราพบว่า คนที่มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 10,000 – 20,000 บาทต่อเดือน จะอยู่ที่ 73% ซึ่งสัดส่วนสูงสุดเฉลี่ยค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 10,000 – 15,000 บาท ราว 30%“เราต้องยอมรับว่า คนรุ่นใหม่มีค่าใช้จ่ายที่สูง ทำให้รายได้ไม่พอ ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับตนเอง อันดับ 1 คือ ค่าใช้จ่ายที่อยู่อาศัย 51% ถัดมาคือ ท่องเที่ยว 47% ความบันเทิง 39% ความสวยความงาม 38% และแฟชั่น 36% สอดคล้องกับตัวเลขของสถิติแห่งชาติที่ได้กล่าวมา จุดที่สอง เราพบว่าคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ Gen Y และ Gen Z น่าจะมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคล ซึ่งแน่นอนว่า อันดับแรก อาจเป็นผลพวงมาจากการขาดวินัยด้านการออม”ที่มา : bangkokbiznews****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
เจาะพฤติกรรมชีวิตแรงงาน 4.0 HR ต้องเป็นหนึ่งกับพนักงาน
25 June 2020 เจาะพฤติกรรมชีวิตแรงงาน 4.0 HR ต้องเป็นหนึ่งกับพนักงานข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกที่มา : กรุงเทพธุรกิจ****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com