ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกหากพูดถึงเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล “ทักษะ(Skill)”นับเป็นหัวใจสำคัญของแรงงานที่จะขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจให้มีการเติบโต จากสถานการณ์ความผันผวนทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ในปีที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อวิถีการทำงานในรูปแบบการทำงานทางไกลที่สอดคล้องกับวิถีความปกติใหม่(New Normal) โดยจะได้เห็นเพิ่มมากขึ้นทั้งจากฝั่งนายจ้างและแรงงาน นอกจากนี้ องค์กรธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ต้องใช้มาตรการที่ไม่ได้ระบุไว้ในแผนฉุกเฉินมารับมือกับสถานการณ์ครั้งนี้ ล่าสุด ทาเลนท์ โซลูชั่นส์ โดยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป จัดทำการสำรวจตลาดแรงงานจาก 76 ประเทศทั่วโลก โดยใช้ดัชนีแรงงานภาพรวม หรือTotal Workforce Index (TWI) เพื่อมาวิเคราะห์,วางแผน และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พร้อมหนุนเสริมทัพศักยภาพองค์กรด้วยไอที และดันแรงงานฉุกเฉินเติบโต ทางด้านเบ็คกี้ แฟรงกีวิช ประธานแมนพาวเวอร์กรุ๊ป อเมริกาเหนือเปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มคนทำงาน (แรงงาน) เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานเป็นระยะไกลในชั่วข้ามคืน บางองค์กรจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายและแรงงานลง ในขณะที่บางองค์กรต้องเพิ่มจำนวนการผลิตอย่างทันทีทันใด ทักษะด้านไอทีที่สนับสนุนการทำงานจากระยะไกล เช่น การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างสูงเช่นเดียวกับบุคลากรด้านการแพทย์, บุคลากรปฏิบัติการและโลจิสติกส์ “ ที่จำเป็นอย่างยิ่ง” นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มบทบาทและทักษะใหม่ๆ เกิดขึ้น โดยผลักดันให้เกิดแรงงานฉุกเฉินเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในรูปแบบธุรกิจที่มีการปรับปรุงใหม่ถึงแม้จะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิถีของ โควิด-19แต่องค์กรต่างๆ ก็มุ่งมั่นที่จะฟื้นธุรกิจให้กลับมาเหมือนเดิม สำหรับนายจ้างจะมองภาพระยะยาวเกี่ยวกับแรงงานทั้งหมด รวมถึงการปฏิบัติงานทั้งหมดอย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจไม่ใช่เฉพาะแต่ความต้องการด้านทักษะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความต้องการตามสถานที่ด้วย เพื่อประเมินและกำหนดว่าบุคลากรส่วนใดสามารถทำงานที่บ้านได้และส่วนใดบ้างต้องเข้ามาทำงานในสำนักงาน รวมทั้งยังประเมินถึงมาตรการด้านความปลอดภัยและการป้องกันเพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจยังสามารถดำเนินได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การที่จะระบุว่าสิ่งใดที่ยั่งยืนในความปกติใหม่นี้,การผสมผสานที่ลงตัวของลูกจ้างและไม่ใช่ลูกจ้าง,ทักษะและเทคโนโลยีในอนาคตที่จำเป็น ทั้งนี้วิธีการดำเนินงานที่ดีที่สุดภายในสภาพแวดล้อมด้านการกำกับดูแลที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อควรพิจารณาที่เร่งด่วนในปัจจุบันจากการผสมผสานข้อมูลเชิงลึกและความเข้าใจ องค์กรต่างๆ สามารถมั่นใจได้ว่ากลยุทธ์ด้านกำลังคนมีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจในปีนี้ ซึ่งส่งผลให้ “ดัชนีแรงงานภาพรวม หรือ Total Workforce Index (TWI)” จัดทำต่อเนื่องเป็นปีที่7แล้ว และเป็นดัชนีเดียวที่วิเคราะห์ปัจจัยมากกว่า200ปัจจัยจากตลาดแรงงานทั่วโลก76แห่ง ที่จัดทำขึ้นโดย แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ทาเลนท์ โซลูชันส์ เพื่อให้ได้มุมมองที่รอบด้านและครอบคลุม โดยมีปัจจัยหลัก 4 ประการ ได้แก่ ความพร้อมของแรงงาน,ความคุ้มค่า(ประสิทธิภาพด้านต้นทุน), กฎระเบียบและผลิตภาพแรงงาน ให้องค์กรมาใช้ในการวิเคราะห์เจาะลึกความพร้อมของบุคลากรโดยเปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์ของแรงงานที่พร้อมทำงานจากระยะไกลในตลาดต่างๆ และสำรวจความพร้อมของทรัพยากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อช่วยองค์กรรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคความปกติถัดไป (Next Normal)”ทั้งนี้ จากผลสำรวจการวิเคราะห์ด้านดัชนีแรงงาน หรือ Total Workforce Index (TWI)ในปี63ประกอบด้วย1.ความคุ้มค่า ซึ่งเป็นการวัดค่าจ้าง,สวัสดิการ,ภาษีและการดำเนินงาน เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าที่เกิดขึ้น 2.ผลิตภาพ เป็นการวัดและเปรียบเทียบผลิตภาพที่เป็นไปได้ของแรงงาน โดยพิจารณาจากจำนวนชั่วโมงที่นายจ้างสามารถจ่ายให้คนงานได้ด้วยอัตราค่าตอบแทนพื้นฐาน 3.ความพร้อม หมายถึง ความพร้อมของกำลังคนเป็นการวัดและเปรียบเทียบแรงงานฝีมือ หรือแรงงานทักษะในปัจจุบันกับตลาด รวมถึงความยั่งยืนของแรงงาน โดยพิจารณาจากแนวโน้มทางประชากรศาสตร์ของแรงงาน (อายุและการหลั่งไหลของแรงงานย้ายถิ่น) และ4.กฎระเบียบ เป็นการวัดและเปรียบเทียบข้อจำกัดเงื่อนไขและการปฏิบัติในการสร้างความผูกพันของแรงงานแต่ละองค์กรจากภาพการจัดกลุ่มประเทศที่มีคะแนนสูงสุด ด้านความพร้อมของแรงงาน คือ สหรัฐอเมริกา,สิงคโปร์, สวิสเซอร์แลนด์,สหอาหรับเอมิเรตส์ และลักแซมเบิร์ก ซึ่งความพร้อมของกำลังคนเป็นการวัดเปรียบเทียบแรงงานที่มีทักษะในปัจจุบันแต่ละตลาดโดยพิจารณาจากแนวโน้มด้านประชากรศาสตร์ เช่น อายุ และความหลั่งไหลของแรงงานย้ายถิ่น ทั้งนี้ตลาดที่มีความพร้อมสูงสุดของแรงงานฝีมือที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดสูง เช่น ภาษาสเปน,ฝรั่งเศส และความพร้อมของการทำงานทางไกลอยู่ในระดับสูงในส่วนของดัชนีด้านความคุ้มค่า จะเป็นการวัดค่าจ้าง,สวัสดิการ,ภาษีและการดำเนินงาน เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าที่จะเกิดขึ้น จากการจัดอันดับหมวดความคุ้มค่า5อันดับแรก ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์,โครเอเชีย,โมร็อคโก,เวียดนามและไทยทั้งนี้มีปัจจัยเอื้ออำนวย เช่น ต้นทุนแรงงานและกฎระเบียบ ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ประเทศโครเอเชียเข้ามาอยู่ใน 5 อันดับแรก ส่วนประเทศไทยตกจากอันดับ 1 มาอยู่ในอันดับ 5 ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้าง, ต้นทุนแรงงานและกฎระเบียบต่างๆ อ้างอิงข้อมูลจากปี 62 ด้านความคุ้มค่า คือ ประเทศไทยเข้ามาอยู่ในกลุ่มที่มีคะแนน 5 อันดับแรก ซึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่มีต้นทุนต่ำ, ภาษีต่ำและค่าแรงต่ำ รวมทั้งค่าล่วงเวลาที่ต่ำด้วย โดยเน้นที่แรงงานภาคอุตสาหกรรม และการเพิ่มทักษะทางเทคนิค จึงทำให้ประเทศไทยได้คะแนนอันดับหนึ่งในด้านความคุ้มค่า การก้าวสู่ยุคความปกติถัดไป (Next Normal) กำลังจะเกิดขึ้น ปัจจัยด้านความคุ้มค่าของแรงงานควรบูรณาการร่วมกันในหลายภาคส่วนเพื่อสร้างความน่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุนและการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไป ทั้งนี้ จุดเด่นในข้อนี้หากประเทศไทยสามารถพัฒนาทักษะน่าจะส่งผลให้เกิดการจ้างงานในหลายภาคส่วน ที่ไม่ใช่เพียงด้านอุตสาหกรรมเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นโจทย์ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่านำไปพิจารณาทางด้านกฎระเบียบมาตรฐาน ผลสำรวจชี้ว่ากลุ่มประเทศที่ได้รับคะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ไอร์แลนด์,ฟินแลนด์,นิวซีแลนด์, เดนมาร์กและนอร์เวย์ ตามลำดับ ส่วนของกฎระเบียบนี้ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่านายจ้างจำนวนมากขึ้นพยายามลงทุนในรูปแบบที่มีความยืดหยุ่นกว่าเดิม เช่น การทำงานระยะไกลและความเฉพาะเจาะจงของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน พร้อมกันนี้ยังขอเสนอให้ประเทศไทยปรับให้มีความยืดหยุ่นเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางตลาดแรงงานโลกส่วนดัชนีด้านผลิตภาพเป็นการวัดและเปรียบเทียบความเป็นไปได้ของแรงงาน โดยพิจารณาจากจำนวนชั่วโมงที่นายจ้างสามารถจ่ายให้กับลูกจ้างในอัตราค่าตอบแทนพื้นฐาน สำหรับประเทศที่ได้คะแนนสูงสุดในตลาด 5อันดับแรกด้านผลิตภาพ ได้แก่ สิงคโปร์, สหรัฐอเมริกา,อิสราเอล,มาเก๊า และฮ่องกง ซึ่งในปีนี้ฮ่องกงร่วงลงมาจากอันดับหนึ่งและประเทศแคนาดาหลุดจาก5อันดับแรก ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงการให้ความสำคัญกับการศึกษา และข้อจำกัดทางชายแดนที่มีส่วนสำคัญเรื่องความพร้อม รวมทั้งการแก้กฎระเบียบที่กระทบกับแรงงานชั่วคราวพร้อมกันนี้ 5 อันดับด้านข้อมูลเชิงลึก โดยในปีนี้ความเข้าใจหลักดังกล่าวถูกผลักดันโดย “ความปกติใหม่” ให้องค์กรต่างๆ ใช้ทบทวนด้านยุทธศาสตร์แรงงานที่มีแนวโน้มที่จำเป็นต้องทำงานระยะไกลและต้องการทักษะที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนี้ 1. นายจ้างจำนวนมากประเมินยุทธศาสตร์แรงงานระยะไกล และความพร้อมของตลาดครอบคลุมมากกว่าแค่วิเคราะห์ต้นทุน 2. ทักษะแรงงานเป็นปัจจัยผลักดันคุณค่าและทิศทางของแรงงาน แต่จำกัดความต้องการที่เกี่ยวกับงานกำลังพัฒนาไปตามสภาพตลาดปัจจุบัน 3. นายจ้างไม่สามารถใช้เพียงองค์ประกอบของแรงงานที่มีอยู่ได้อีกต่อไป แต่ต้องดำเนินการในเชิงรุกเพื่อกำหนดสัดส่วนแรงงานประจำและชั่วคราวให้เหมาะสมที่สุด โดยยึดหลักความเร่งงานในธุรกิจ 4. บทบาทและกลุ่มทักษะใหม่ๆ กำลังเกิดขึ้น ความกดดันด้านค่าจ้างอยู่ในระดับที่เข้มข้น เช่นเดียวกับความจำเป็นในการค้นหาหรือสร้างพนักงานที่มีทักษะรองรับบทบาทใหม่ๆ และ 5. แม้ตัวเลขการว่างงานจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 63 แต่ก็มีพนักงานจำนวนมากที่ไม่ได้รับการจ้างใหม่ ทำให้นายจ้างสามารถกำหนดความต้องการและโอกาสในการทำงานใหม่ได้มากยิ่งขึ้น10 อันดับตลาดแรงงานที่มีคะแนนสูงสุดในแต่ละปีจะมีการปรับและเพิ่มปัจจัยใหม่ใน Total Workforce Index ™ตามความต้องการและแนวโน้มของโลก โดยวิเคราะห์จากปัจจัย 4 ด้าน คือ ความพร้อม,ความคุ้มค่า,กฎระเบียบและผลิตภาพ สำหรับตลาดที่มีอันดับสูงสุดในTotal Workforce Index ™คือ ตลาดที่มีประสิทธิภาพสัมพัทธ์ (Relative performance)สูงสุดทั้งสี่ด้าน และจากการเพิ่มความสำคัญให้กับความพร้อมของแรงงานในการทำงานระยะไกลมากขึ้น เช่น โครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค,ความเชี่ยวชาญด้านภาษาและทักษะ ประเทศสหรัฐอเมริกาขึ้นจากอันดับ 5 เป็น 1 ขณะเดียวกันนิวซีแลนด์ขึ้นจากอันดับ 3 มาอยู่ที่อันดับ 2 แคนาดาเข้ามาอยู่ใน 5 อันดับแรกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2560 เนื่องจากการเพิ่มปัจจัยความพร้อมของทักษะระยะไกลในดัชนีนอกเหนือจากการปรับคะแนนอื่นๆ ของปี 63 ส่วนกลุ่มประเทศที่ได้คะแนนสูงสุดในช่วง5ปีที่ผ่านมา ได้แก่ ประเทศฮ่องกง, สหรัฐอเมริกา,นิวซีแลนด์,สิงคโปร์และแคนาดา เป็นกลุ่มประเทศที่อยู่ใน10อันดับแรกของตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพความมั่นคงในตลาดแรงงานที่มีวุฒิภาวะและการเติบโตมากขึ้น รวมถึงความพร้อมของทักษะความสามารถทางภาษาและสภาพแวดล้อมการกำกับดูแลที่ยืดหยุ่นปานกลางถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่แมนพาวเวอร์กรุ๊ปได้ใช้เวลาหลายทศวรรษ ในการพัฒนากลยุทธ์และเครื่องมือเพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปรับตัวได้อย่างคล่องตัวหากต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง “ดัชนีแรงงานภาพรวม หรือ Total Workforce Index (TWI)” เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการคาดการณ์และตัดสินใจเพื่ออนาคตขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อวิถีการทำงานในรูปแบบการทำงานทางไกลและวิธีการทำงานใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับความปกติใหม่ หรือNew Normal ซึ่งอาจจะได้เห็นเพิ่มมากขึ้นทั้งจากฝั่งนายจ้างและแรงงานทั้งนี้ บทสรุปจากผลการสำรวจและวิเคราะห์ในการนำเครื่องมือ ดัชนีแรงงานภาพรวม หรือTotal Workforce Index (TWI) เพื่อชี้วัดและวิเคราะห์ศักยภาพ,ความพร้อม,ความคุ้มค่าในตลาดแรงงานและในแต่ละประเทศ เสมือนเป็นทรัพยากรที่ช่วยในการทำนายซึ่งองค์การต่างๆ สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเพื่ออนาคต ซึ่งนับเป็นโจทย์ที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ,ภาคการศึกษา และภาคธุรกิจอาจจะต้องผนึกพลังอย่างจริงจังในการเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทย ซึ่งมีจุดเด่นและศักยภาพที่ดึงดูดการลงทุน แต่สิ่งสำคัญ “ทักษะแรงงาน” ต้องพัฒนาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้พร้อมรับมือสำหรับการก้าวสู่ยุคความปกติถัดไป(Next Normal)ที่มา : bangkokbiznews****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
ทาเลนท์ โซลูชั่นส์ โดยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป เผยรายงานผลการวิเคราะห์ระดับโลก “ดัชนีแรงงานในภาพรวม” ชูทักษะไอทีหนุนการทำงาน ดันแรงงานฉุกเฉิน (กลุ่มงานระยะสั้น) โต
9 April 2021 -
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับเกียรติร่วมเสวนาพิเศษ “ทางรอดสำหรับเด็กจบใหม่ในยุคโควิด-19”
5 April 2021 แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยได้รับเกียรติร่วมเสวนาพิเศษ“ทางรอดสำหรับเด็กจบใหม่ในยุคโควิด-19”ในงานปัจฉิมนิเทศนิสิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อให้นิสิตได้เตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดแรงงานในอนาคต และการปรับตัวให้ทันต่อโลกสถานการณ์ปัจจุบันที่มีผลกระทบต่อการทำงาน พร้อมร่วมแบ่งปันทักษะที่จำเป็นสำหรับนิสิตในการทำงานจาก คุณสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมด้วย คุณรัฐศาสตร์ กรสูต รองผู้อำนวยการกลุ่มสังคมและกำลังคนดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และตัวแทนอาจารย์จากทางมหาวิทยาลัย
-
เทคนิคสำหรับผู้จัดการมือใหม่ให้ประสบความสำเร็จแบบมือโปร
2 April 2021 ปัจจุบันมีคนเก่งเกิดขึ้นมากมายหลายด้าน จากหลายปัจจัยและมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นผู้จัดการมือใหม่อย่างรวดเร็ว ในยุคดิจิทัลที่การเติบโตของเทคโนโลยีและปัจจัยอื่นๆ ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีผลกระทบต่อการบริหารธุรกิจในทุกมุมมอง แม้กระทั่งการบริหารทรัพยากรบุคคลก็ถูกผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอันก้าวกระโดดนี้เช่นกัน ทั้ง 4 เทคนิค จะช่วยให้ผู้จัดการมือใหม่ประสบความสำเร็จก้าวสู่เป็นผู้จัดการมือโปรต่อไป1. Trust Worthy & Changeประการสำคัญมากคือ การมีจรรยาบรรณและการสร้าง ความน่าเชื่อถือ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการทำงานในบทบาทผู้จัดการ เพื่อให้เราเข้าใจบทบาทเป้าหมาย ตัวเองที่สำคัญ การสร้างความน่าเชื่อถือในฐานะเป็นผู้จัดการมือใหม่ให้กับทีมงานที่เราบริหารอยู่ และ บุคลากรในองค์กรให้เชื่อถือเรา เพราะหากเราสามารถสร้างได้เหมือนการก้าวไปสู่มือโปรก็มีโอกาสสำเร็จไปกว่าครึ่ง2. Engagingผู้จัดการมือใหม่ควรต้องมีความสำนึกรับผิดชอบในงานที่ทำ และทีมที่บริหารมุ่งเน้นประโยชน์และความสำเร็จของส่วนรวม บริหารงานและให้คำปรึกษาอย่างเหมาะสม รวมถึงสามารถวิเคราะห์และกำหนดแนวทางเลือกเพื่อการแก้ไขปัญหาล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ3. Human, Technical, Conceptual Skillผู้จัดการมือใหม่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้อง เก่งคน สามารถบริหารจัดการเรื่องคนมีมนุษย์สัมพันธ์เข้ากับคนได้ดี สามารถโน้มน้าวคนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้งานบรรลุเป้าหมายและต้องเก่งงาน รอบรู้จริงในงานที่ทำและเชี่ยวชาญ ตลอดจนสามารถใช้ทรัพยากรให้เหมาะสมกับสภาพการปฎิบัติงานและสุดท้ายต้องเก่งคิด คิดในเชิงสร้างสรรค์ มีสติปัญา ทันคน ทันเหตุการณ์ มีวิสัยทัศน์ ตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างดี4. Coaching and Consulting & developingทักษะสำคัญมากในยุคปัจจุบันคือ การโคช โดยต้องดึงศักยภาพของผู้ร่วมงานออกมาพร้อมทั้งให้คำปรึกษาแนวทาง ให้คิดวิเคราะห์หรือ รวมถึงในบางครั้งต้องมีการสอนงานและการพัฒนาผู้ร่วมทีมให้มีศักยภาพตามเป้าหมายและแผนกลยุทธ์ขององค์กร เพื่อให้เกิดความพร้อมที่จะต้องรับมือกับปัญหาและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างดี
-
วิธีนำเสนองานแบบมืออาชีพ
2 April 2021 เพื่อนๆหลายๆคนเคยเจอเหตุการณ์นี้บ้างไหม เมื่อต้องการที่จะนำเสนองานต่างๆในที่ประชุม ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอต่อหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือลูกทีมในแผนก แล้วไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้จะบอกเคล็ดลับวิธีการนำเสนองานอย่างมืออาชีพเพื่อเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆที่อยากจะได้ไอเดียการนำเสนอในรูปแบบต่างๆสร้างบรรยากาศและแสดงความกระตือรือร้น– ในการนำเสนองาน สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือการสร้างบรรยากาศให้ดูกระตือรือร้น เพราะโดยส่วนใหญ่ ผู้ฟังมักสนใจในสิ่งที่ดูแล้วน่าตื่นเต้น หรือบรรยากาศที่ชวนให้ค้นหาหรือดูแล้วรู้สึกว่าน่าสงสัย มากกว่าบรรยากาศที่ดูแล้วเหมือนเดิม หรือไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากการนำเสนอทั่วๆไป นำเสนอหัวข้อเรื่องให้ชัดเจน– เมื่อสร้างบรรยากาศการนำเสนอที่ดูคึกคักขึ้นมาแล้ว หัวข้อที่จะนำเสนอจะเป็นบทนำเรื่องชูโรง ที่จะดึงดูดผู้ฟังทั้งหมด เข้ามาสู่เนื้อหาที่จะนำเสนอ จุดนี้เป็นจุดที่สำคัญมากอีกหนึ่งจุด ถ้าผู้ฟังไม่เข้าใจหัวข้อนำเสนอตั้งแต่ต้น การนำเสนองานก็จะไม่บรรลุจุดประสงค์ที่วางไว้ นำเสนอให้เหมือนการแสดง– การนำเสนอไม่ใช่การแสดงปาฐกฐา ดังนั้นผู้นำเสนองานควรสร้างบรรยากาศและวิธีการให้เหมือนการแสดง ทั้งนี้เพื่อเป็นการที่จะดึงดูดผู้ฟังให้คล้อยตามไปกับการเสนอข้อมูลต่างๆได้ เป็นอย่างดีโดยที่ไม่เบื่อกับเนื้อหาสาระจนเกินไปสร้าง Powerpoint ให้กระชับ และดูน่าอ่าน– โดยส่วนใหญ่ผู้ฟัง มักไม่ชอบที่จะนั่งอ่าน Presentation ที่มีข้อความเยอะ แต่มักให้ความสนใจกับ Powerpoint ที่มีรูปหรือ กราฟ ที่ทำให้สามารถแสดงเนื้อหาในรูปแบบที่แตกต่างได้ดีกว่า ดังนั้นการจัดวาง Powerpoint ที่มีเนื้อหา รูป และการนำเสนอภาพเคลื่อนไหว หรือ กราฟ ที่พอดีจะเป็นตัวช่วยในการนำเสนองานต่างๆได้ดีกว่า Powerpoint ที่มีแต่ตัวหนังสือเรียบง่าย ทำให้ตัวเลขมีความหมาย– การนำเสนองานบางครั้งตัวเลขก็จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ารูปภาพ หรือภาพเคลื่อนไหว ดังนั้นการใช้ตัวเลขมาประกอบ โดยผสมผสานกับลีลาการนำเสนอที่เร้าใจ จะเป็นตัวดึงดูดและเสริมให้การนำเสนองานมีประสิทภาพมากยิ่งขึ้น อย่าตื่นเต้นกับข้อผิดพลาดระหว่างนำเสนอ– ในบางครั้งผู้นำเสนองานอาจมักพบกับข้อผิดพลาดต่างๆในระหว่างที่นำเสนองาน ยกตัวอย่างเช่น ลืมข้อมูล หรือนำเสนอข้อมูลผิด อย่าตกใจ เพียงแต่พยายามตั้งสติและหาทางดึงความสนใจของผู้ฟังไปในเรื่องอื่น จะเป็นการช่วยให้สามารถกลับมาในเรื่องหลักที่จะนำเสนอได้เน้นถึงประโยชน์ของสิ่งที่นำเสนอ– ในท้ายที่สุดของการนำเสนอ เราไม่ควรลืมถึงการแสดงและเน้นย้ำถึงประโยชน์ของเนื้อหา ที่เรากำลังนำเสนอ เพราะผู้ฟังส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญถึงประโยชน์ของสิ่งที่กำลังนำเสนอ จนบางครั้งมากกว่าเนื้อหาของสิ่งที่นำเสนอด้วยซ้ำ ดังนั้น การเน้นย้ำถึงคุณประโยชน์ของสิ่งที่กำลังนำเสนอจะเป็นตัวส่งเสริมให้การนำเสนองานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซ้อม ซ้อม และ ซ้อม– แน่นอนว่าการนำเสนองานจะมีประสิทธิภาพมากไม่ได้ ถ้าปราศจากการซ้อม การซ้อมนำเสนอ จะเป็นการทำให้เราไม่ลืมถึงเนื้อหา และลำดับการนำเสนอ ดังนั้นยิ่งซ้อมมากยิ่งมีความคุ้นเคยมาก
-
เช็คอิน 4 นิทรรศการน่าสนใจ ประจำเดือนเมษายน
2 April 2021 แมนพาวเวอร์เอาใจชาวสายอาร์ต พาชม 4 นิทรรศการศิลปะจากศิลปินชั้นยอด ทั้งไทยและต่างประเทศ ตลอดทั้งเดือนเมษายนนี้ ให้คุณได้ใช้เวลาไปกับการพักผ่อน มีโอกาสได้ถ่ายรูปสวยๆ หรืออาจจะนำพาคุณให้พบเจอกับไอเดียบางอย่าง พร้อมจุดประกายความคิดให้ตัวเราเองก็เป็นได้ ไม่ว่าจะแก๊งค์เพื่อน, คนที่เรารักหรือครอบครัวก็สามารถชวนกันมาเปลี่ยนบรรยากาศรับชมงานศิลปะแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบนะคะ ตามมาดูกันเลยดีกว่าว่ามีนิทรรศการที่ว่านี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ติดตามได้ที่นี่ภายในงานนิทรรศการจะมีการถ่ายทอดผลงานศิลปะเกี่ยวกับประเด็นสำคัญทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านสังคม, เศรษฐกิจ, การเมือง และสิ่งแวดล้อม ด้วยผลงานจาก 82 ศิลปินชั้นนำทั่วโลก พร้อมแนวคิด "Escape Routes" หรือ "ศิลป์สร้าง ทางสุข" จากกระแสการตอบรับจากผู้ชมที่มีอย่างล้นหลาม ทางผู้จัดเลยมีการขยายเวลาจัดงานไปถึง 30 เมษายน 2564 นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดการจัดงานได้ตามด้านล่างนี้วันและเวลาจัดแสดง : วันนี้ - 30 เมษายน 2564สถานที่จัดแสดง : ณ เดอะ พรีลูด โครงการวัน แบงค็อกเครดิตรูปภาพจาก themomentumงานนิทรรศการศิลปะแห่งนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติศิลปิน เทพศิริ สุขโสภา ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปีพุทธศักราช 2560 ผลงานศิลปะที่มีลักษณะเด่นเป็นอย่างมากเลยก็คือ การเผยแพร่องค์ความรู้ด้านศิลปะ (ทัศนศิลป์) ตามที่อาจารย์เทพศิริ เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มา ทำให้ภาพประกอบและผลงานจิตรกรรมมีความเฉพาะตัวแตกต่างจากศิลปินท่านอื่นสำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดการจัดงานได้ตามด้านล่างนี้วันและเวลาจัดแสดง : วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 2 มิถุนายน 2564สถานที่จัดแสดง : ณ นิทรรศสถาน อาคารศิลปวัฒนธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดให้เข้าชมทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00 – 17.00 น. ปิดให้บริการ เสาร์,อาทิตย์ และวันหยุดราชการเครดิตรูปภาพจาก brandthinkนิทรรศการ “Art For Air”เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง ศิลปิน นักสร้างสรรค์ รวมถึงนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิต่าง ๆ เพื่อสร้างความตระหนักถึงวิกฤตมลพิษทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นด้านฝุ่นควันหรือสภาวะปัญหาโลกร้อนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หากเราได้เข้าไปเยี่ยมชมอาจจะได้เห็นวิธีคิดที่จะนำไปสู่ทางออกของปัญหาดังกล่าว และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปรับปรุงสภาพสังคมให้เกิดมีความตระหนักปัญหาดังกล่าวมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการจัดงานได้ตามด้านล่างนี้วันและเวลาจัดแสดง :14 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2564สถานที่จัดแสดง :– พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา– หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่– หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่– โกดังจริงใจ ของกลุ่มเซ็นทรัล– The Meeting Room Art Gallery– Gallery Seescape– Dream Space– MAIIAMสามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่fb.com/artforaircnxและartforair.orgเครดิตรูปภาพจาก happeningmagazineนิทรรศการ “สาร” เป็นงานที่นำเสนอแนวทางการดำเนินชีวิต ปรัชญาในการทำงานของชวลิต เสริมปรุงสุข (ศิษย์รุ่นสุดท้ายของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี) ที่ทางผู้จัดอยากที่จะนำเสนอให้เราได้เรียนรู้แนวคิด ความเชื่อมั่น และแนวทางการทำงานของการทำงานของงานศิลปะ ซึ่งอาจารย์ชวลิตเป็นบุคคลสำคัญที่ได้เรียนรู้ผ่านจากผู้มีประสบการณ์ มีแนวทางการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะใหม่ทุกวันอย่างสม่ำเสมอทั้งแบบประติมากรรม จิตรกรรมและแบบดิจิทัลอาร์ตส์ (Digital Arts) ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากอีกด้วยสำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดการจัดงานได้ตามด้านล่างนี้วันและเวลาจัดแสดง : 13 มีนาคม - 27 เมษายน 2564สถานที่จัดแสดง : Museum of Contemporary Artเครดิตรูปภาพจาก mocabangkok
-
เปิดรายได้ "สายงาน IT" โกยเงินเดือนสูงสุด 6.5 แสนบาทต่อเดือน
1 April 2021 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกเปิดรายได้ "สายงาน IT" โกยเงินเดือนสูงสุด 6.5 แสนบาทต่อเดือน วันนี้ (23 มี.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไซมอน แมททิวส์ ผู้จัดการระดับภูมิภาคประจำประเทศไทย แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป กล่าวว่า แนวโน้มด้านค่าตอบแทนในกลุ่มสายงานไอที มีแนวโน้มที่ปรับสูงขึ้นในทุกปี แต่ละองค์กรมีการแข่งขันในการเพิ่มค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ เพื่อดึงดูดและเก็บรักษาบุคลากรเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นจากโครงสร้างเงินเดือนของบุคลากรในสายงานไอทีเริ่มตั้งแต่ระดับบัณฑิตจบใหม่ ไปจนถึงระดับผู้บริหาร โดยเริ่มตั้งแต่ต้นที่ 15,000 ไปจนถึง 650,000 ต่อเดือน แบ่งเป็น • อายุงาน 0-2 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 15,000 - 35,000 / เดือน • อายุงาน 3-5 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 38,000 - 46,500 / เดือน • อายุงาน 6-8 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 50,000 - 75,000 / เดือน • อายุงาน 9-10 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 82,000 - 105,000 / เดือน • อายุงานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 118,000 - 250,000 / เดือน • อายุงานมากกว่า 20 ปีขึ้นไป เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 280,000 - 650,000 / เดือน จากสาเหตุสำคัญคือ การเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ เช่น เอไอ, อาร์พีเอ (Robotic Process Automation) บิ๊กดาต้าคลาวด์ ไอโอที และฟินเทคมีบทบาทในการขับเคลื่อนเชิงธุรกิจทำให้โครงสร้างพื้นฐานไอทีของหลายๆ องค์กรเติบโต รวมถึงทุกภาคส่วนของธุรกิจเร่งทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นเพื่อตอบโจทย์คนยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและการเงินรวมทั้งกลุ่มประกันภัย สื่อสาร ค้าปลีก รวมถึงกลุ่มพลังงาน, กลุ่มทรัพยากรบุคคล, ศึกษา และภาคการผลิต ขณะที่ แรงงานด้านไอที ในประเทศไทย และทั่วโลกยังคงมีปัญหาขาดแคลน ในขณะที่ตลาดไอทีเติบโตสูง จากผลสำรวจการเติบโตของตลาดไอทีทั่วโลกของไอดีซี พบว่า ตั้งแต่ปี 2561-2565 ตลาดไอทีมีสัดส่วนการเติบโตอยู่ที่25.8% ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัลในไทย ภายในปี 2565 คาดว่าจะเติบโตที่ 61% ของจีดีพี ส่งผลให้อัตราการจ้างงานด้านไอทีเติบโตควบคู่ไปด้วย ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ระบุว่าไทยมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในสาขาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จำนวน 5.7 แสนคนต่อปี แต่ทำงานตรงสายงานแค่เพียง 15% เท่านั้น และในแต่ละปีประเทศไทยสามารถผลิตบัณทิตด้านไอทีที่มีคุณสมบัติเพียงพอกับความต้องการของภาคธุรกิจได้ไม่เกิน 5,000 คนที่มา : TNN ช่อง 16****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
เอ็กซ์พีริส ประเทศไทย เผยผลสำรวจล่าสุดถึงความต้องการแรงงานไอทีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมเจาะลึกสายอาชีพเติบโตสูงสวนกระแสแม้ในสถานการณ์โควิด-19
26 March 2021 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกเอ็กซ์พีริส ประเทศไทย เผยผลสำรวจล่าสุดถึงความต้องการแรงงานไอทีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมเจาะลึกสายอาชีพเติบโตสูงสวนกระแสแม้ในสถานการณ์โควิด-19เอ็กซ์พีริส บริษัทในเครือแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดผลสำรวจถึงแนวโน้มตลาดงานด้านไอทีที่มีความต้องการสูงรองรับยุคดิจิทัล ชูปัจจัยการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วของเทคโนโลยี เร่งภาคธุรกิจขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติพร้อมเปิดค่าตอบแทนสายงานไอทีเริ่มต้น 15,000 จนถึง 650,000 ต่อเดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและประสบการณ์ แนะหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมมือพัฒนาแรงงานตรงความต้องการภาคธุรกิจหวังลดปัญหาขาดแคลนแรงงาน Tech Talent ในระดับประเทศมร.ไซมอน แมททิวส์ ผู้จัดการระดับภูมิภาคประจำประเทศไทย, แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดแรงงานในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากทั้งวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ทำให้ภาคอุตสาหกรรม, ธุรกิจต่างๆ รวมทั้งแรงงานต้องปรับตัวให้พร้อมรับมือบุคลากรสายงานไอทีนับเป็นกลุ่มงานที่ตลาดแรงงานมีความต้องการสูงและยังมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปีด้วย จากการคาดการณ์ในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้าจะเห็นว่าทิศทางความต้องการในสายงานไอทียังคงเติบโตเป็นแบบขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับจำนวนบุคลากรไอทีในตลาดงานที่ไม่เพียงพอและอยู่ในภาวะขาดแคลน โดยมี 4 ปัจจัยหลักเป็นตัวขับเคลื่อน ได้แก่ ปัจจัยแรก การเติบโตของกลุ่มเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ อาทิเช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI),Robotic Process Automation (RPA), บิ๊กดาต้า (Big Data), คลาวด์ (Cloud), อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things-IoT) และฟินเทค (Fintech) เป็นต้น ซึ่งเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเชิงธุรกิจทำให้โครงสร้างพื้นฐานไอทีของหลายๆ องค์กรเติบโตไปด้วย ดังนั้นจึงทำให้มีความต้องการบุคลากรไอทีจำนวนมากเข้ามาช่วยในส่วนนี้ปัจจัยที่สอง ในทุกภาคส่วนของธุรกิจมีการเร่งทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นเพื่อตอบโจทย์ประสบการณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล ซึ่งกลุ่มที่เห็นได้ชัดก็คือ กลุ่มธนาคารและการเงินซึ่งปัจจุบันการใช้งานและธุรกรรมต่างๆ ทางการเงินทำได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือรวมทั้งกลุ่มการประกันภัย การสื่อสาร ธุรกิจค้าปลีก และยังตามมาด้วยกลุ่มอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มพลังงาน, กลุ่มทรัพยากรบุคคล, ภาคการศึกษาและอุตสาหกรรมการผลิต เป็นต้น ส่วนปัจจัยที่สาม มาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ, โลจิสติกส์ และธุรกิจเดลิเวอรี่ ที่ช่วยขับเคลื่อนให้กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องเติบโตตามไปด้วยอย่างมีนัยสำคัญ และปัจจัยสุดท้าย ก็คือ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด (COVID-19) เป็นอัตราเร่งให้ทุกองค์กรมีการปรับวิถีชีวิตและการทำงานสู่รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ทำให้รูปแบบการทำงานขององค์กรเปลี่ยนไปเป็นการทำงานแบบรีโมท (Remote Work) และทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) มากขึ้น“สำหรับคนที่ทำงานด้านไอที รูปแบบการทำงานแบบรีโมท (Remote Work) หรือทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด กลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีหลายๆ แห่ง นำรูปแบบการทำงานนี้มาใช้ซึ่งช่วยความยืดหยุ่นในการทำงานของคนทำงานไอที ปัจจุบัน ทำให้หลายๆ องค์กรมีการปรับรูปแบบการทำงานและกลยุทธ์เพื่อเตรียมพร้อมด้านเทคโนโลยีมากขึ้น จึงทำให้เกิดความต้องการทางด้านบุคลากรไอทีเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย” อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ถึงดีมานด์ (Demand) การเติบโตของแรงงานไอทีในตลาด พบว่าในบางช่วงมีการชะลอตัวลงเช่นกัน โดยปีที่ผ่านมาในช่วงไตรมาส2 หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเพิ่มมากขึ้นเป็นวงกว้างในหลายประเทศทำให้เกิดการล็อคดาวน์ กลุ่มองค์กรมีการปรับแผนและชะลอการจ้างตำแหน่งงานใหม่ ซึ่งมีเหตุผลมาจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ หรือยังไม่มั่นใจในสถานการณ์เบื้องหน้า แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 และ 4 เริ่มมีการกลับมาของความต้องการบุคลากรด้านไอทีที่มากขึ้นและรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง ทางด้านมุมของซัพพลาย (Supply)ในประเทศไทยและทั่วโลกยังคงประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรไอที จากข้อมูลผลสำรวจการเติบโตของตลาดไอทีทั่วโลกของไอดีซีพบว่า ในระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 2561 – 2565 ตลาดไอทีมีสัดส่วนการเติบโตอยู่ที่ประมาณ25.8% ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย ภายในปี 2565 คาดการณ์ว่าจะมีสัดส่วนการเติบโตอยู่ที่ 61% ของจีดีพี ส่งผลให้อัตราการจ้างงานด้านไอทีเติบโตควบคู่ไปด้วย ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2566 ทั่วโลกจะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนบุคลากรไอทีมากกว่า 2 ล้านตำแหน่ง สำหรับประเทศไทย ปัจจัยหลักๆ ที่ ส่งผลกระทบต่อการขาดแคลน ประกอบด้วย 1. กลุ่มคนรุ่นใหม่เลือกที่จะประกอบอาชีพอิสระบางคนอาจมองข้ามหลักสูตรที่ใช้ไอที เนื่องจากพวกเขาพบว่าวิชาที่ใช้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์นั้นยากและมีการแข่งขันสูง2. มหาวิทยาลัยจำนวนมากเปิดสอนสาขาไอทีโดยเน้นที่ปริมาณมากกว่าคุณภาพ ซึ่งข้อมูลจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ระบุว่า ประเทศไทยมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในสาขาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จำนวน 5.7 แสนคนต่อปี แต่ทำงานตรงสายงานแค่เพียง 15% เท่านั้น และในแต่ละปีประเทศไทยสามารถผลิตบัณทิตด้านไอทีที่มีคุณสมบัติเพียงพอกับความต้องการของภาคธุรกิจได้ไม่เกิน 5,000 คน และ 3.บุคลากรไอทีที่มีคุณภาพจะเน้นเลือกทำงานกับองค์กรใหญ่ๆ และบริษัทข้ามชาติหรือบางส่วนก็ได้โอกาสไปทำงานที่ต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนออกไปตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางด้านไอทีของตัวเอง และบางส่วนมีการเปลี่ยนแปลงผันสายงานตัวเองจากไอทีไปทำในสายงานอื่นๆ ดังนั้น จะเห็นได้ว่าจาก 3 ปัจจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าแรงงานด้านไอทีกำลังขาดแคลนอย่างมีนัยสำคัญ จึงอยากขอเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผนึกความร่วมมือกับภาคธุรกิจเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง ทางด้านนางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยเปิดเผยต่อว่า สำหรับแนวโน้มด้านค่าตอบแทนในกลุ่มสายงานไอที มีแนวโน้มที่ปรับสูงขึ้นในทุกปี ตรงนี้เป็นผลมาจากแรงงานในสายงานไอทีที่ตลาดต้องการมีการแข่งขันกันสูง องค์กรต่างๆ มีความต้องการบุคลากรไอทีที่มีคุณภาพเพื่อเข้ามาช่วยขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงธุรกิจในยุคดิจิทัล รวมทั้ง บุคลากรในสายงานนี้อยู่ในสภาวะขาดแคลนในตลาดแรงงาน แต่ละองค์กรจึงมีการแข่งขันในการเพิ่มค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ เพื่อดึงดูดและเก็บรักษาบุคลากรเหล่านี้สะท้อนให้เห็นจากโครงสร้างเงินเดือนของบุคลากรในสายงานไอทีเริ่มตั้งแต่ระดับบัณฑิตจบใหม่ ไปจนถึงระดับผู้บริหาร โดยเริ่มตั้งแต่ต้นที่ 15,000 ไปจนถึง 650,000 ต่อเดือน ทั้งนี้อยู่กับคุณสมบัติและประสบการณ์ ทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และทักษะด้านภาษา ค่าเฉลี่ยค่าจ้างแบบรายเดือนที่เป็นพนักงานประจำแบ่งเป็น ดังนี้•อายุงาน 0-2 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 15,000 – 35,000 / เดือน •อายุงาน 3-5 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 38,000– 46,500 / เดือน•อายุงาน 6-8 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 50,000 – 75,000 / เดือน •อายุงาน 9-10 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 82,000 – 105,000 / เดือน • อายุงานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 118,000 – 250,000 / เดือน • อายุงานมากกว่า 20 ปีขึ้นไป เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 280,000 – 650,000 / เดือน นอกจากนี้ ทางเอ็กซ์พีริสยังมีการสรรหาบุคลากรในสายงานไอที โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มบริการ ได้แก่ การบริการสรรหาพนักงานประจำด้านไอที (IT Permanent Service)รองรับตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ จนถึง ผู้บริหารระดับสูง เพื่อรองรับการขับเคลื่อนดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นให้กับลูกค้าทั้งภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม ส่วนกลุ่มที่สอง คือ การบริการสรรหาบุคลากรทางด้านไอทีที่เป็นพนักงานสัญญาจ้าง ระยะสั้น ไปจนถึงระยะยาว (IT Staffing Service)รองรับตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ จนถึง ผู้บริหารระดับสูง ให้กับบริษัทลูกค้าที่ไม่ต้องการจ้างพนักงานให้เป็นพนักงานประจำของบริษัทลูกค้าโดยตรง อีกทั้ง ยังให้บริการทางด้าน IT outsourcing ที่เน้นการให้บริการตามความต้องการเฉพาะเจาะจงของลูกค้า ล่าสุด ได้ทำการจัดอันดับ 5 ความต้องการแรงงานสูงสุดและเงินเดือนในแต่ละกลุ่มงาน แบ่งเป็น IT Permanentได้แก่ 1.AI and Data อาทิเช่น AI Specialists, Data Scientists, Data Engineer, Big Data Developer, Data Analystระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 40,000 – 195,000 บาทต่อเดือน2.Engineering and Cloud เช่น Reliability Engineer, DevOps, Cloud Computing, Cloud Architect, Cloud Solutions Consultant, Python Developer ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 35,000 – 155,000 บาทต่อเดือน3.Software & Application Developers เช่น Software Engineer, Application Engineer / Developer, Frontend / Backend / Full Stack Engineer / Developer, Mobile Application Developer, Programmerระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 33,500 – 110,000 บาทต่อเดือน 4.Product Development เช่น Product Owner, Quality Assurance Tester/Engineer, Agile Coach, Software Quality Assurance Engineer, Product Analyst, Scrum Master ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 42,000 – 145,000 บาทต่อเดือน5.Sales, Marketing and Content เช่น Social Media Assistant / Content Production, Growth Hacker, Customer Success, Sales Development Representative, Specialist Digital Marketing Specialist ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 28,000 – 108,000 บาทต่อเดือน ส่วนทางด้าน IT Staffingมีดังนี้ 1.Software/ Application / Mobile Developers เช่น Software Engineer,Application Engineer / Developer, Frontend / Backend / Full Stack Engineer / Developer, Mobile Application Developer, Programmer ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 40,000 – 150,000 บาทต่อเดือน2.SAP Consultant ใน Module ต่างๆ อาทิเช่น SAP FI/CO, SD, MM เป็นต้น ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 80,000 – 260,000 บาทต่อเดือน3.Project Management /Project Admin / Project Manager / Project Coordinator ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 25,000 – 200,000 บาทต่อเดือน4. Helpdesk / IT Support Engineerระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 15,000 – 100,000 บาทต่อเดือน5. Software Tester / QA ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 35,000 – 90,000 บาทต่อเดือนอย่างไรก็ตาม การแข่งขันในสายงานไอทีในยุคนี้นับว่าต้องเร่งสปีดตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ภาพของไอทีกำลังเปลี่ยนถ่ายจากยุคฮาร์ดแวร์ไปสู่การเป็นบริการมากขึ้น ดังนั้น บุคลากรสายงานไอทีต้องมีการเรียนรู้อยู่ตลอดทั้งการรีสกิล (Reskill) และ อัพสกิล (Upskill) ในกลุ่มเทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น AI, Big Data, Cloud, IoT, Cyber Security, Blockchain, Fintech อย่างต่อเนื่องตามด้วยทักษะการทำงานร่วมกัน, การสื่อสาร และความเข้าใจเชิงธุรกิจ และทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อให้การทำงานประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทักษะความสามารถเฉพาะทางที่สำคัญเหล่านี้นับเป็นการสร้างความได้เปรียบ รวมไปถึงเป็นการเพิ่มโอกาสเข้าทำงานในบริษัทหรือองค์กรชั้นนำอีกด้วย“ด้วยความก้าวล้ำของเทคโนโลยีที่กำลังมีบทบาทในเชิงธุรกิจและชีวิตประจำวัน ฝ่ายไอทีจะต้องเน้นการมีส่วนร่วมเป็นบิสซิเนส พาร์ทเนอร์ (Business Partner) กับฝั่งธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลนี้ แรงงานด้านไอทีนับเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจและเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทางตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับธุรกิจ สำหรับบุคลากรไอทีที่ประสบความสำเร็จและเติบโตในสายงานนั้น ทางเอ็กซ์พีริส พบว่า แรงงานกลุ่มนี้นี้มีการสร้างเครือข่าย Tech Connection ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรม อาทิTech Event และคอมมูนิตี้ต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ทางสายอาชีพกับคนไอทีในแวดวงเดียวกัน รวมไปถึงต้องปรับ “ทัศนคติ” ให้เข้าใจบทบาทการทำงานเชิงผสมผสานระหว่างไอทีและธุรกิจในยุคดิจิทัลมีการศึกษาและพัฒนาทักษะความรู้ในกลุ่มเทคโนโลยีเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีการอัพสกิล (Upskill) และรีสกิล (Reskill) องค์ความรู้เพื่อเพิ่มพูนทักษะปูทางสู่ความสำเร็จในอาชีพ ซึ่งหนทางสู่การเป็น Tech Talent สำหรับแรงงานไอทียุคใหม่ต้องรู้ครบเครื่อง ประกอบไปด้วย 5Cดังนี้ 1.Customers Focusมีความสามารถที่จะเข้าใจความต้องการและโจทย์ทางธุรกิจ พร้อมตอบสนองบริการและโซลูชั่นทางเทคโนโลยีได้อย่างแม่นยำ 2.Communication การทำงานในยุคนี้บุคลากรไอทีต้องทำงานเป็นคู่คิดให้กับทีมงานธุรกิจ รวมไปถึงลูกค้า และพันธมิตรต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทักษะการสื่อสารจึงเป็นหัวใจสำคัญเพราะต้องใช้สร้างความเข้าใจร่วมกันทุกฝ่ายเพื่อให้เข้าใจความต้องการและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ 3.Collaborationการทำงานร่วมกันเป็นทีม ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากสำหรับบุคลากรไอทีในยุคนี้ ตั้งแต่งานพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการให้บริการทางไอทีนั้น ย่อมต้องมีการระดมความคิดเห็น ความร่วมมือร่วมใจ การช่วยกันแก้ไขปัญหาและการทำงานเป็นทีม เพื่อให้ประสบผลสำเร็จในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการ 4. Creativityความคิดสร้างสรรค์ ถือเป็นทักษะที่บุคลากรไอทีควรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะคนไอทีกำลังแข่งขันสูงด้วยนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์และบริการ และ 5.Commitment เทคโนโลยีในยุคนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมากและองค์กรต่างมีการเร่งทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น เพื่อพัฒนากระบวนการทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์ / บริการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับสายงานไอทีก็เป็นอีกหนึ่งสายงานที่ต้องฝึกฝน พัฒนาทักษะ และหาความรู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อนำเสนอโซลูชั่นใหม่ๆ ความมุ่งมั่นตั้งใจและการรับผิดชอบต่อบทบาทตัวเองจะเป็นกุญแจอีกตัวที่สำคัญที่นำพาให้ทำงานได้อย่างประสบผลสำเร็จต่อไป” นางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล กล่าวทิ้งท้าย****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
“เอ็กซ์พีริส” เปิด 5 อันดับความต้องการแรงงานสูงสุด สวนกระแสวิกฤตโควิด
23 March 2021 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลก“เอ็กซ์พีริส” เผยตลาดแรงงานชะลอตัวต่อเนื่อง เว้นไอทียังต้องการสูงแถมผลตอบแทนก็สูงนายไซมอน แมททิวส์ ผู้จัดการระดับภูมิภาคประจำประเทศไทย แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดแรงงานในปัจจุบัน ได้รับผลกระทบจากทั้งวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ทำให้ภาคอุตสาหกรรม, ธุรกิจต่างๆ รวมทั้งแรงงานต้องปรับตัวให้พร้อมรับมือ บุคลากรสายงานไอทีนับเป็นกลุ่มงานที่ตลาดแรงงาน มีความต้องการสูงและยังมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปีด้วย จากการคาดการณ์ในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้าจะเห็นว่าทิศทางความต้องการในสายงานไอทียังคงเติบโตเป็นแบบขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับจำนวนบุคลากรไอทีในตลาดงานที่ไม่เพียงพอและอยู่ในภาวะขาดแคลน โดยมี 4 ปัจจัยหลักเป็นตัวขับเคลื่อน ได้แก่ ปัจจัยแรก การเติบโตของกลุ่มเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ อาทิเช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI), Robotic Process Automation (RPA), บิ๊กดาต้า (Big Data), คลาวด์ (Cloud), อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things-IoT) และฟินเทค (Fintech) เป็นต้น ซึ่งเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเชิงธุรกิจทำให้โครงสร้างพื้นฐานไอทีของหลายๆ องค์กรเติบโตไปด้วยนายไซมอนกล่าวว่า จากเหตุดังกล่าว จึงทำให้มีความต้องการบุคลากรไอทีจำนวนมากเข้ามาช่วยในส่วนนี้ ปัจจัยที่สอง ในทุกภาคส่วนของธุรกิจมีการเร่งทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นเพื่อตอบโจทย์ประสบการณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล ซึ่งกลุ่มที่เห็นได้ชัดก็คือ กลุ่มธนาคารและการเงิน ซึ่งปัจจุบันการใช้งานและธุรกรรมต่างๆ ทางการเงินทำได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งกลุ่มการประกันภัย การสื่อสาร ธุรกิจค้าปลีก และยังตามมาด้วยกลุ่มอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มพลังงาน, กลุ่มทรัพยากรบุคคล, ภาคการศึกษาและอุตสาหกรรมการผลิต เป็นต้น ส่วนปัจจัยที่สาม มาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ, โลจิสติกส์ และธุรกิจเดลิเวอรี่ ที่ช่วยขับเคลื่อนให้กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องเติบโตตามไปด้วยอย่างมีนัยสำคัญ และปัจจัยสุดท้าย ก็คือ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด (COVID-19) เป็นอัตราเร่งให้ทุกองค์กรมีการปรับวิถีชีวิตและการทำงานสู่รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ทำให้รูปแบบการทำงานขององค์กรเปลี่ยนไปเป็นการทำงานแบบรีโมท (Remote Work) และทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) มากขึ้น“สำหรับคนที่ทำงานด้านไอที รูปแบบการทำงานแบบรีโมท (Remote Work) หรือทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด กลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีหลายๆ แห่ง นำรูปแบบการทำงานนี้มาใช้ซึ่งช่วยความยืดหยุ่นในการทำงานของคนทำงานไอที ปัจจุบัน ทำให้หลายๆ องค์กรมีการปรับรูปแบบการทำงานและกลยุทธ์เพื่อเตรียมพร้อมด้านเทคโนโลยีมากขึ้น จึงทำให้เกิดความต้องการทางด้านบุคลากรไอทีเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย”นายไซมอนกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ถึงดีมานด์ (Demand) การเติบโตของแรงงานไอทีในตลาด พบว่าในบางช่วงมีการชะลอตัวลงเช่นกัน โดยปีที่ผ่านมาในช่วงไตรมาส 2 หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเพิ่มมากขึ้นเป็นวงกว้างในหลายประเทศทำให้เกิดการล็อคดาวน์ กลุ่มองค์กรมีการปรับแผนและชะลอการจ้างตำแหน่งงานใหม่ ซึ่งมีเหตุผลมาจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ หรือยังไม่มั่นใจในสถานการณ์เบื้องหน้า แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 และ 4 เริ่มมีการกลับมาของความต้องการบุคลากรด้านไอทีที่มากขึ้นและรวดเร็วอย่างต่อเนื่องนายไซมอนกล่าวว่า ทางด้านมุมของซัพพลาย (Supply) ในประเทศไทยและทั่วโลกยังคงประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรไอที จากข้อมูลผลสำรวจการเติบโตของตลาดไอทีทั่วโลกของไอดีซีพบว่า ในระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2561 – 2565 ตลาดไอทีมีสัดส่วนการเติบโตอยู่ที่ประมาณ25.8% ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย ภายในปี 2565 คาดการณ์ว่าจะมีสัดส่วนการเติบโตอยู่ที่ 61% ของจีดีพี ส่งผลให้อัตราการจ้างงานด้านไอทีเติบโตควบคู่ไปด้วย ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2566 ทั่วโลกจะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนบุคลากรไอทีมากกว่า 2 ล้านตำแหน่ง สำหรับประเทศไทย ปัจจัยหลักๆ ที่ ส่งผลกระทบต่อการขาดแคลน ประกอบด้วย 1. กลุ่มคนรุ่นใหม่เลือกที่จะประกอบอาชีพอิสระ บางคนอาจมองข้ามหลักสูตรที่ใช้ไอที เนื่องจากพวกเขาพบว่าวิชาที่ใช้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์นั้นยากและมีการแข่งขันสูง 2. มหาวิทยาลัยจำนวนมากเปิดสอนสาขาไอทีโดยเน้นที่ปริมาณมากกว่าคุณภาพ ซึ่งข้อมูลจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ระบุว่า ประเทศไทยมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในสาขาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จำนวน 5.7 แสนคนต่อปี แต่ทำงานตรงสายงานแค่เพียง 15% เท่านั้น และในแต่ละปีประเทศไทยสามารถผลิตบัณทิตด้านไอที ที่มีคุณสมบัติเพียงพอกับความต้องการของภาคธุรกิจได้ไม่เกิน 5,000 คนนายไซมอนกล่าวว่า 3. บุคลากรไอทีที่มีคุณภาพจะเน้นเลือกทำงานกับองค์กรใหญ่ๆ และบริษัทข้ามชาติหรือบางส่วนก็ได้โอกาสไปทำงานที่ต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนออกไปตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางด้านไอทีของตัวเอง และบางส่วนมีการเปลี่ยนแปลงผันสายงานตัวเองจากไอทีไปทำในสายงานอื่นๆ ดังนั้น จะเห็นได้ว่าจาก 3 ปัจจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าแรงงานด้านไอทีกำลังขาดแคลนอย่างมีนัยสำคัญ จึงอยากขอเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผนึกความร่วมมือกับภาคธุรกิจเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังนางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยต่อว่า สำหรับแนวโน้มด้านค่าตอบแทนในกลุ่มสายงานไอที มีแนวโน้มที่ปรับสูงขึ้นในทุกปี ตรงนี้เป็นผลมาจากแรงงานในสายงานไอทีที่ตลาดต้องการมีการแข่งขันกันสูง องค์กรต่างๆ มีความต้องการบุคลากรไอทีที่มีคุณภาพเพื่อเข้ามาช่วยขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงธุรกิจในยุคดิจิทัล รวมทั้ง บุคลากรในสายงานนี้อยู่ในสภาวะขาดแคลนในตลาดแรงงาน แต่ละองค์กรจึงมีการแข่งขันในการเพิ่มค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ เพื่อดึงดูดและเก็บรักษาบุคลากรเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นจากโครงสร้างเงินเดือนของบุคลากรในสายงานไอทีเริ่มตั้งแต่ระดับบัณฑิตจบใหม่ ไปจนถึงระดับผู้บริหาร โดยเริ่มตั้งแต่ต้นที่ 15,000 ไปจนถึง 650,000 ต่อเดือน ทั้งนี้อยู่กับคุณสมบัติและประสบการณ์ ทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และทักษะด้านภาษา ค่าเฉลี่ยค่าจ้างแบบรายเดือนที่เป็นพนักงานประจำแบ่งเป็น ดังนี้อายุงาน 0-2 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 15,000 – 35,000 / เดือนอายุงาน 3-5 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 38,000 – 46,500 / เดือนอายุงาน 6-8 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 50,000 – 75,000 / เดือนอายุงาน 9-10 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 82,000 – 105,000 / เดือนอายุงานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 118,000 – 250,000 / เดือนอายุงานมากกว่า 20 ปีขึ้นไป เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 280,000 – 650,000 / เดือนนางสาวสุธิดากล่าวว่า นอกจากนี้ ทางเอ็กซ์พีริสยังมีการสรรหาบุคลากรในสายงานไอที โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มบริการ ได้แก่ การบริการสรรหาพนักงานประจำด้านไอที (IT Permanent Service) รองรับตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ จนถึง ผู้บริหารระดับสูง เพื่อรองรับการขับเคลื่อนดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นให้กับลูกค้าทั้งภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม ส่วนกลุ่มที่สอง คือ การบริการสรรหาบุคลากรทางด้านไอทีที่เป็นพนักงานสัญญาจ้าง ระยะสั้น ไปจนถึงระยะยาว (IT Staffing Service) รองรับตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ จนถึง ผู้บริหารระดับสูง ให้กับบริษัทลูกค้าที่ไม่ต้องการจ้างพนักงานให้เป็นพนักงานประจำของบริษัทลูกค้าโดยตรง อีกทั้ง ยังให้บริการทางด้าน IT outsourcing ที่เน้นการให้บริการตามความต้องการเฉพาะเจาะจงของลูกค้าที่มา : matichon****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
การใช้คำศัพท์ที่ดึงดูดและโดนใจ (Power Words) ในการเขียนเรซูเม่
5 March 2021 การใช้คำศัพท์ที่ดึงดูดและโดนใจ (Power Words) ในการเขียนเรซูเม่การใช้ภาษาในเรซูเม่นับว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อการสมัครงานเป็นอย่างมาก นายจ้างจะดูความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งงานและประวัติในเรซูเม่ของคุณ แน่นอนถ้าเรซูเม่ของคุณเข้าตาแล้ว คุณจะได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์งานนั่นเอง ดังนั้นจะต้องเขียนเรซูเม่ที่ดึงดูด ชัดเจน อ่านง่าย และสามารถทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้อย่างรวดเร็วนั้น การเขียนเรซูเม่จึงต้องคำนึงถึงคำศัพท์หรือ Power Wordsที่ใช้เพื่อนำเสนอคุณสมบัติของคุณให้ตรงกับความต้องการของตำแหน่งนั้นๆ การใช้ Power Words หรือคำศัพท์ที่ดึงดูดและโดนใจที่จะทำให้คุณมีโอกาสสูงในการได้งานโดยทั่วไป จุดประสงค์ของเรซูเม่ หรือ Resume Objectiveมักจะเขียนต่อจากข้อมูลและประวัติของผู้สมัคร ประมาณไม่เกิน 2-3 ประโยค ในส่วนนี้จะบอกถึงจุดประสงค์ของการสมัครงานและเป้าหมายในการทำงานของคุณ ไม่ควรบอกถึงเป้าหมายชีวิตว่าในอนาคตอีกห้าปีสิบปีคุณอยากเปิดบริษัทของตัวเองหรือต้องการจะรีไทร์เมื่อไหร่ แต่ควรเขียนสั้นๆโดยการใช้ Power Words อธิบายว่าเราต้องการทำอะไรให้บริษัท แล้วมีเป้าหมายที่ตรงกับความต้องการของบริษัทหรือตำแหน่งงานนั้นๆสิ่งที่ขาดไม่ได้ในจุดประสงค์ของเรซูเม่คือการบอก จุดแข็งของคุณ ความเชี่ยวชาญ และ วุฒิประวัติเบื้องต้น เพื่อที่นำเสนอคุณสัมบัติตัวเองว่าเหมาะสมแก่ตำแหน่งงานหรือไม่ เนื่องจากผู้อ่านต้องอ่านเรซูเม่หลายฉบับ ดังนั้นควรเขียนเรซุเม่ให้กระชับโดยใช้ Power Words ให้ผู้อ่านเกิดความสนใจ ดึงดูดจากตัวคุณแล้วอยากที่จะร่วมงานกับคุณ เพียงแค่อ่านสองสามประโยคนี้ถ้าหากคุณกำลังสมัครงานเพื่อเปลี่ยนสายงานหรือมีประสบการณ์ในการทำงานน้อย ให้คุณเลือก Power Words ที่พูดถึงว่า อนาคตคุณอยากเป็นอะไรในสายงานนั้นมากกว่าที่จะพูดถึงประวัติการงานของคุณที่ผ่านมา หากให้ดีควรใส่ความสำเร็จของคุณ คุณลักษณะความสามารถ และ คุณสมบัติพิเศษลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความโดดเด่นของเรซูเม่ให้นายจ้างสนใจในการเขียนจุดประสงค์ของเรซูเม่ ที่ดีนั้นควรคำนึงถึง การใช้คำศัพท์ที่ถูกต้องและมีความโดดเด่น หรือ Power Wordsนั้นเอง โดยใช้คำศัพท์อย่างเช่น นำทีม คิดค้น ผลักดัน นำเสนอ เปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อน พัฒนา มอบหมาย กำหนดมาตรฐาน รับผิดชอบ วิเคราะห์ สร้างสรรค์ และ สื่อสาร เป็นต้นการใช้Power Words จึงเป็นสิ่งที่โดดเด่นและน่าประทับใจแก่ผู้อ่าน และทำให้คุณมีโอกาสที่จะได้รับเข้าทำงานมากกว่าผู้สมัครคนอื่นตัวอย่างของ Power Word:ก กระตุ้น ก่อตั้ง กำหนด กำหนดโครงสร้าง เก็บรักษา เกินกว่า ไกล่เกลี่ย แก้ไขข ขยาย ขะมักเขม้น ขับเคลื่อน ขาย เข้าร่วม เขียนค ค้นคว้า ค้นหา ควบคุม คัดเลือก คัดออก คาดการณ์ คำนวน คิดค้นขึ้น คุณสมบัติจ จดสิทธิบัตร จบการศึกษา จัดเตรียม จัดแจง จัดการ จัดซื้อ จัดตั้ง จัดทำ จัดพิมพ์ จัดระเบียบ จัดระบบ จัดหา จัดหาให้จำนวน จุดประกาย จูงใจ เจรจาช ชนะ ช่วยเหลือ ชักชวน ชำนาญ ชี้แนะ เชื่อฟังด ดัดแปลง ดำเนินการ ดูแล ได้รับประโยชน์ ได้รับต ตรวจตรา ตรวจสอบ ตัดสิน ตัดสินใจ ติดตั้ง ติดตามท ทดลอง ทบทวน ทำให้เป็นประโยชน์ ทำให้เหมาะ ทำให้ดีขึ้น ทำให้ทันสมัย ทำให้สะดวก ทำงบประมาณ สัญญา ทำสำเร็จ ทำหน้าที่แทน ทำรายได้น นำ นำเสนอ นำส่งบ บรรจุ บรรยาย บริการ บริหารงาน บันทึกป ปกป้องลิขสิทธ์ ปฎิบัติหน้าที่ ประเมิน ประกอบโครงสร้าง ประนีประนอม ประพันธ์ ประสบผลสำเร็จ ประหยัด ปรับตัว ปรึกษาปิด เป็นระบบ เปรียบเทียบ เปลี่ยนแปลงผ ผลกระทบ ผลักดัน ผลิต เผชิญกับ แผ่ขยายฝ ฝึก ฝึกฝนพ พัฒนา พิมพ์ พิสูจน์ เพิ่มขึ้น เพิ่มพูมฟ ฟื้นฟูม มอบหมาย มาตรฐาน มีส่วนร่วม มุ่งไป แม่นยำน โน้มน้าวร รวบรวม รู้ถึง ระบุ รักษา รับประกัน รับผิดชอบ รับมือ รับรอง รายงาน ริเริ่ม เร่งรัด เริ่มดำเนินการ เรียบเรียงล ลงบันทึก ลดปริมาณ ลด ลดหย่อน ล้ำหน้า เลือกสรรว วัดระดับ วางแผน ว่าจ้าง วิเคราะห์ วิจัยศ ศึกษาส ส่งของ สต๊อคสินค้า สนับสนุน สมดุล สร้าง สร้างกรอบความคิด สร้างสรรค์ สอดคล้อง สอน สะสม สัมภาษณ์ สื่อสาร เสนอเสนอแนะ เสนองาน เสร็จสิ้นห เหมาะสมอ อธิบาย อนุมัติ อบรม ออกแบบ อ้างอิง เอกสารประกอบ
-
10 คำคมผู้หญิงเก่ง ผู้เป็นแรงบันดาลใจ
5 March 2021 ติดตามคำคมดีๆจาก 10 ผู้หญิงเก่งผู้เป็นแรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จของใครๆหลายๆคน มุมมองดีๆที่อาจพลิกชีวิตของคุณได้ ผู้หญิงทำงานสายสตรองห้ามพลาด!!! หากคุณพร้อมเดินทางตามล่าความสำเร็จไปด้วยกันพญ.นลินี ไพบูลย์ - ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด แรงบันดาลใจหมายถึงพลังที่ทำให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าแบบมีเป้าหมาย เราใช้พลังที่มีอยู่ขับเคลื่อนเป้าหมายหรือความฝันไปสู่ความสำเร็จนวลพรรณ ล่ำซำ - กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ส่วนผสมนึงที่สร้างสมดุลในชีวิต คือ ความสุข พลังใจจากครอบครัว และคนรอบข้าง และที่สำคัญ คือพลังใจจากตัวเองจรีพร จารุกรสกุล -ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พี่เป็นคนไม่กลัวอะไรอยู่แล้วเพราะมองว่าทุกอย่างเป็นโอกาส แม้แต่ต้องเผชิญวิกฤตก็ตาม เพราะเมื่อใดที่มีปัญหามา ก็ต้องก้าวข้ามไปเพื่อทำให้ดีขึ้นศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เราเป็นผู้บริหารที่ชอบเดินไปพร้อมกับคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ “one woman show” เรามีความสุขที่มองกลับมาและเห็นทีมงานประสบความสำเร็จ เราต้องร่วมทุกข์ร่วมสุข ซึ่งวิธีการสร้างวิสัยทัศน์นั้นง่ายและเร็ว เราแค่บอกทีมงานว่าคืออะไร แต่เราต้องการให้ทุกคนมองไปในแนวทางเดียวกัน เราจึงโค้ชให้ทีมคิดและทำ มากกว่าแค่พูดว่าให้ทำอะไรวนิษา เรซ - ผู้อำนวยการโรงเรียนวนิษา "โอกาส" ก็เหมือน "รถเมล์" รถเมล์...ไม่มาจอดหน้าบ้านหรอก เราต้องเดินออกไปที่...ป้ายรถเมลล์รสสุคนธ์ กองเกตุ - เจ้าของสถาบันสอนการแสดงและพัฒนาบุคลิกภาพ เดอะดราม่า อะคาเดมี่ คนที่สำเร็จในโลกนี้ ไม่มีใครเก่งกว่าเรา เขาแค่คิดและลงมือทำอย่างต่อเนื่องก่อนเราเมลานี เพอร์กินส์ - เจ้าของแอปพลิเคชั่น Canvaอย่าท้อใจหากคุณพยายามสร้างบางสิ่งบางอย่างอย่างเต็มที่แล้วแต่ยังไม่สำเร็จ เพราะความสำเร็จใช้เวลา ความสำเร็จข้ามคืนของคนที่คุณเห็น ล้วนเกิดจากการทำงานนับปีในช่วงเวลาที่คุณไม่ได้ไปนั่งเฝ้าเขาทำงาน ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ – ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด “…เราไม่ได้มองว่า เรามีเทคโนโลยีอะไร แต่ตั้งต้นจากปัญหาหรือความไม่สะดวก (pain point) ของลูกค้าคืออะไร และเราต้องใช้เทคโนโลยีอะไรตอบโจทย์หรือแก้ปัญหานั้น…”สรานี สงวนเรือง - ผู้ก่อตั้งบริษัท ฟลอริช ดิจิทัล จำกัด “เราจะทำตัวเองให้พร้อมกับทุกโอกาสที่จะเข้ามาเสมอ”วิโอเลต วอเทียร์ - นักร้องและนักแสดง ลูกครึ่งไทย-เบลเยียม “เราอย่าอยู่กับที่ อย่าปล่อยให้อะไรดึงเราไว้ อย่าให้อารมณ์โกรธดึงเราลงมา อย่ายึดติดกับมันจนจมทำอะไรไม่ได้ แต่ใช้มันเป็นแรงผลักดัน”
-
แผนพิชิตความสำเร็จทุกเป้าหมาย
5 March 2021 การดำเนินชีวิตในปัจจุบันนี้ล้วนเต็มไปด้วยการแข่งขัน หลายคนอยากจะทำเป้าหมายนั้นให้ประสบความสำเร็จแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วันนี้แมนพาวเวอร์มีกลยุทธ์ของการวางแผนพิชิตความสำเร็จทุกเป้าหมาย ไม่ว่าเป้าหมายนั้นจะยากแค่ไหน หากคุณวางแผนเป็นอย่างดี ความสำเร็จอยู่ในมือของคุณโดยไม่ช้า1.ความสำเร็จเริ่มต้นที่ใจและทัศนคติที่ดีการที่คุณจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จต้องเริ่มด้วยการที่คุณมีใจที่คอยเป็นแรงขับเคลื่อนที่จะทำงานนั้น ๆ และมีทัศนคติที่ดีสำหรับงานหรือเป้าหมายของคุณก่อน เพราะว่าถ้าหากคุณไม่มีใจหรือทัศนคติที่แย่สำหรับงานที่คุณกำลังจะทำ แค่เริ่มคุณก็จบแล้ว2.กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน หลังจากที่คุณมีใจและทัศนคติที่ดีแล้วสิ่งที่คุณต้องทำต่อไปคือตั้งเป้าหมายของคุณเอาไว้ซึ่งต้องเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน สามารถวัดผลได้ตามกรอบระยะเวลา บรรลุผลได้และตั้งอยู่บนหลักความเป็นจริง3.เขียนแผนการทำงานอย่างละเอียดในส่วนนี้คุณต้องเขียนวิธีการทำงานและแผนของคุณอย่างละเอียด ซึ่งคุณอาจจะแบ่งเป้าหมายของคุณเป็นเป้าหมายย่อยแต่ทุกเป้าหมายต้องต่อเนื่องและนำไปสู่เป้าหมายใหญ่ที่คุณตั้งเอาไว้ เพื่อที่จะค่อย ๆ ทำและสำเร็จไปทีละจุด โดยมีการกำหนดการวัดผลและกรอบเวลาในแต่ละขั้นตอนการทำงานเอาไว้อย่างชัดเจน4.คิดถึงแนวทางแก้ปัญหาเป็นไปไม่ได้เลยว่าเส้นทางแห่งความสำเร็จของคุณนั้นมันจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ เพราะฉะนั้นจงพยายามนึกถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตและเตรียมแนวทางการแก้ปัญหาเหล่านั้นเอาไว้ เพื่อที่เวลาเกิดปัญหาขึ้นจริง ๆ คุณจะสามารถผ่านมันไปอย่างไม่ยากเย็นนัก5.มุ่งมั่นลงมือทำตามแผนที่วางเอาไว้ขั้นตอนนี้คุณต้องลงมือปฏิบัติในสิ่งที่คุณวางแผนเอาไว้อย่างมุ่งมั่น โดยในระหว่างทางคุณอาจจะมีเหนื่อย มีท้อ แต่คุณสามารถพักได้และจงลุยต่อเมื่อหายเหนื่อย เมื่อเจออุปสรรคก็พร้อมที่จะก้าวผ่านจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้
-
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยแนวโน้มตลาดแรงงานปี 2564 พร้อมแนะนำนายจ้าง-ลูกจ้างปรับตัวรับมือทุกการเปลี่ยนแปลง
8 February 2021 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยแนวโน้มตลาดแรงงานปี 2564 พร้อมแนะนำนายจ้าง-ลูกจ้างปรับตัวรับมือทุกการเปลี่ยนแปลง แมนพาวเวอร์กรุ๊ปประเทศไทยเผยทิศทางและแนวทางการปรับทัพของตลาดงานและการปรับตัวของแรงงานในปี 2564 ชี้ผลพวงวิกฤตไวรัสโควิด-19 และเศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลตลาดงาน-แรงงานเปลี่ยนวิถีรูปแบบการทำงานและมองภาพปี 2564 เป็นปีแห่งฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญของภาครัฐภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมที่ต้องผนึกกำลังร่วมกันพร้อมจัดอันดับงานมาแรง10อันดับที่ตลาดงานต้องการและ 10 อันดับงานที่แรงงานพร้อมลุยเพื่อเป็นการลดช่องว่างและเติมเต็มตลาดงานในปัจจุบันมร.ไซมอนแมททิวส์, ผู้จัดการระดับภูมิภาคประเทศไทย,แถบตะวันออกกลางและเวียดนามแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำที่ปรึกษาด้านแรงงานเชิงนวัตกรรมกว่า 80 ประเทศทั่วโลกและในประเทศไทยเปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจในทุกอุตสาหกรรมเพราะมีความเชื่อมโยงกันรวมถึงตลาดแรงงานที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทั้งวิถีการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติงาน ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ที่ต้องปรับตัวรับกับสถานการณ์ทั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจโลกรวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทยนับเป็นผลพวงจากปัจจัยข้างต้นอย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐในเชิงนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวที่นับว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักรวมถึงด้านการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนที่เข้ามาช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อยเพื่อขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจในประเทศทางด้านการลงทุนจากต่างประเทศแม้ลดลงแต่ยังได้รับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง“นอกจากนี้ยังเป็นช่วงการทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะรูปแบบการทำงานภายใต้วิถีชีวิตแบบ New Normal ดังนั้นส่งผลให้ปี 2563 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการ Recovery สู่การ Renew ในปี 2564 ที่ต้องจับตาการฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการร่วมกัน อย่างไรก็ตามแม้สัญญาณการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ แต่การตระหนักรู้ตื่นตัวเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับจุลภาคจนถึงมหภาคทั้งภาคครัวเรือนภาคธุรกิจภาคอุตสาหกรรมภาครัฐทั้งในระดับประเทศจนถึงนานาประเทศในระดับโลกผมคิดว่าหากพวกเราปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงเราจะสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมีสติและสามารถแก้ไขปัญหาได้จนบรรลุความสำเร็จได้ต่อไป” มร.ไซมอนแมททิวส์กล่าวทางด้าน นางสาวสุธิดากาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดแมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยต่อว่าแนวโน้มในปี 2564 ตลาดงานในส่วนขององค์กรธุรกิจมีการกลยุทธ์และการออกแบบการทำงานในรูปแบบใหม่เพื่อการลดต้นทุนจะถูกนำมาใช้ในองค์กรต่างๆมากขึ้นเพื่อให้มีความกระชับและมีต้นทุนที่ลดลงทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสตั้งแต่ต้นปี 2563 อีกทั้งการปรับโครงสร้างองค์กรและออกแบบกระบวนการทำงานใหม่ส่งผลให้รูปแบบการจ้างงานมีความยืดหยุ่นจากการจ้างงานแบบประจำมาเป็นรูปแบบการจ้างงานระยะสั้นประเภทต่างๆทั้งการจ้างงานชั่วคราวการจ้างงานแบบสัญญาจ้างและการจ้างงานในรูปแบบเอาท์ซอร์ส (Outsource) จะเป็นที่นิยมแพร่หลายตอบโจทย์การขาดแคลนกำลังคนได้ตามความต้องการนอกจากนี้เรากำลังเห็นแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีในการทำให้ขั้นตอนบางอย่างเป็นอัตโนมัติและดิจิตัลโดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นบางส่วนจนถึงทั้งกระบวนการทำงานอาทิพนักงานขายหน้าร้านพนักงานบริการลูกค้างานธุรการพนักงานขนส่งพนักงานฝ่ายการผลิตทั้งนี้ในการการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเชื่อมโยงผ่านแพลตฟอร์มส่งผลให้เกิดการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ใหม่ๆที่แรงงานต้องเตรียมพร้อมให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลเราพบการมีพนักงานที่หลากหลายและมีกลุ่มคนทำงานหลายช่วงอายุในองค์กร (Multi-Generational Pool of Workers) ซึ่งปัจจุบัน แต่ละเจนเนอเรชั่นมีสัดส่วนที่เป็นกำลังแรงงานที่มีอายุระหว่าง 15-60 ปี ในส่วนของ Gen X กับ Yมีมากสุดและในกลุ่ม Gen Z จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นตามการเริ่มต้นเข้ามาในตลาด ซึ่งคนแต่ละรุ่นมีวิธีคิดและการทำงานที่แตกต่างกันไปตามประสบการณ์และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานที่จะต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันและประสบความสำเร็จด้วยกันต่อไปอีกหนึ่งแนวโน้มที่จะเห็นในโลกของการทำงานกลุ่มแรงงานจะเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างทางเลือกเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มคนทำงานประจำยังคงรักษาความมั่นคงในอาชีพและจะมีการสร้างรายได้เสริมจากการรับงานอิสระประเภทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายงานหรือเป็นเรื่องที่ถนัด เช่น ทำขนมทำอาหารขายออนไลน์ หรือการขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น ทางด้านกลุ่มแรงงานที่ทำงานอิสระจะรับทำงานที่หลากหลายมากขึ้น บางคนผันไปเป็นรายได้หลักและการสร้างความมั่นคงจากงานระยะสั้นหลายๆ งานโดยสามารถบริหารจัดการและเลือกทำงานพร้อมๆกันได้หลายอย่าง นอกจากนี้ กระบวนการเรียนรู้และการเสริมทักษะต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในระดับบุคคลจะเป็นตัวเชื่อมโยงแรงงานและอาชีพต่างๆ ให้สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบทั้งงานปัจจุบันและงานในอนาคตได้สำหรับภาพรวมทิศทางตลาดแรงงานปี 2564 มีความสอดคล้องกัน 8 ใน 10 สายงาน แต่ลดลงมาจากปีที่แล้วร้อยละ 10 เนื่องจาก ตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะชะลอตัวทำให้บางสายงานโตสวนกระแสบางสายงานความต้องการลดลงถึงคงที่จากผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและโควิด-19 จึงยังไม่มีการขยายโครงสร้าง โดยจากผลสำรวจจากกลุ่มลูกค้าของแมนพาวเวอร์กรุ๊ปประเทศไทย 10อันดับสายงานที่ตลาดงานต้องการ (ภาพในตาราง) ดังนี้อันดับ 1 สายงานขายและการตลาด 23.10% อันดับ 2 สายงานบัญชีและการเงิน 9.58% อันดับ 3 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์ 9.50% อันดับ 4 สายงานวิศวกร 8.52% อันดับ 5 สายงานไอที 7.78% อันดับ 6 งานระยะสั้นต่างๆ 6.96% อันดับ 7 สายงานธุรการ 6.80% อันดับ 8 สายงานบริการลูกค้า 5.32% อันดับ 9 สายงานการผลิต 5.24% และอันดับ 10 สายงานบริการทางการแพทย์และสุขภาพ 3.28% ส่วน 10 อันดับสายงานที่ตลาดแรงงานต้องการ ดังนี้อันดับ 1 สายงานขายและการตลาด 29.70% อันดับ 2 สายงานวิศวกร 15.23% อันดับ 3 สายงานบริการลูกค้า 13.43% อันดับ 4 สายงานธุรการ 7.40% อันดับ 5 สายงานทรัพยากรบุคคล 7.37% อันดับ 6 สายงานไอที 5.9% อันดับ 7 สายงานบัญชีและการเงิน 5.66% อันดับ 8 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์ 5.51% อันดับ 9 งานระดับผู้บริหาร 3.51% และอันดับ 10 สายงานการผลิต 2.28%ดังนั้นจะเห็นได้ว่าตลาดงานและแรงงานยังมีความสอดคล้องในสัดส่วนความต้องการของตลาดกับแรงงาน (ภาพในตาราง) อีกทั้ง ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าสายงานขนส่งและโลจิสติกส์มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ 4.83% ตามทิศทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซ, ค้าขายออนไลน์และธุรกิจเดลิเวอรี่ ทางด้านงานขายและการตลาด ขึ้นอันดับ 1 มา 5 ปีต่อเนื่องกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการเติบโตทางธุรกิจให้ความสำคัญกับบุคลากรที่เป็นตัวกลางในการนำเสนอสินค้าและบริการ โดยเฉพาะสินค้าความงามและสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ส่วนการตลาดเข้ามาวางกลยุทธ์ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์สู่การนำเสนอการสื่อสารเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการโปรโมชั่นและกิจกรรมทางการตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องนอกจากนี้ในกลุ่มงานระยะสั้นประเภทต่างๆ ,งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพมีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมากและเป็นตลาดงานส่วนที่มีความสำคัญในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ แต่งานในกลุ่มงานธุรการงานบริการลูกค้าและงานการผลิตก็ยังคงมีความต้องการสูง เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศส่วนใหญ่ยังคงเป็นธุรกิจและอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมและกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนแปลงแม้งานเหมือนเดิมแต่ก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทั้งบางส่วนจนถึงหลายส่วนจึงทำให้แรงงานต้องพัฒนาทักษะที่มารองรับกับการทำงานกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีในกระบวนการทำงานและการผลิต เป็นต้นพร้อมกันนี้ยังเผยถึงอาชีพที่มาแรงในปี 2564 มี 10 อาชีพตามผลสำรวจประกอบด้วย อันดับหนึ่ง งานขายและการตลาด อันดับสอง งานบัญชีและการเงิน อันดับที่สาม งานขนส่งและโลจิสติกส์ อันดับสี่ งานวิศวกร อันดับที่ห้า งานไอที อันดับที่หก งานระยะสั้นต่างๆ อันดับเจ็ด งานธุรการ อันดับแปด งานบริการลูกค้า อันดับเก้า งานการผลิต และอันดับสิบ งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพนอกจากนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยถึงกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สูงสุด 5 อันดับประกอบด้วย 1.ธุรกิจท่องเที่ยวรายได้ลดลง 73% 2.ธุรกิจบันเทิงรายได้ลดลด 59% 3.ธุรกิจรับจ้างบริการรายได้ลดลง 44% 4.ธุรกิจการผลิตรายได้ลดลง 42% 5.ธุรกิจอาหารรายได้ลดลง 41%จากข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับแนวโน้มที่ภาคแรงงานต้องเตรียมพร้อมในการปรับเปลี่ยนรับการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าวิกฤตดังกล่าวจะปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานและธุรกิจต่างๆ จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ“ทั้งนี้สิ่งสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในตลาดงานและแรงงานในปีนี้ต่อไปจนถึงอนาคตการทำงานของแรงงานจะต้องตอบโจทย์ตลาดงานมีทักษะที่มีความหลากหลายพร้อมกับการพัฒนาตนเองด้วยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นบนพื้นฐานของความสมดุลในชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัวโดยแรงงานสามารถออกแบบความมั่นคงของชีวิตได้ตามสถานการณ์และบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นหากทุกคนมีการเตรียมตัวและตั้งรับที่ดีโดยเฉพาะภาคแรงงาน แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมไทยต่อไป แม้ในยามวิกฤตที่เกิดขึ้น หากภาครัฐภาคธุรกิจภาคอุตสาหกรรมและแรงงานเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงปรับตัวยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ เราจะสามารถค้นพบ “ทางเลือกสู่ทางรอดแรงงานไทยปี64” เท่าทันยุคเปลี่ยนผ่านที่รวดเร็วได้ต่อไป” นางสาวสุธิดากาญจนกันติกุล กล่าวทิ้งท้ายที่มา : newsdatatoday****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยแนวโน้มตลาดแรงงานปี 2564 พร้อมแนะนำนายจ้าง-ลูกจ้างปรับตัวรับมือทุกการเปลี่ยนแปลง
8 February 2021 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยแนวโน้มตลาดแรงงานปี 2564พร้อมแนะนำนายจ้าง-ลูกจ้างปรับตัวรับมือทุกการเปลี่ยนแปลงแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยทิศทางและแนวทางการปรับทัพของตลาดงาน และการปรับตัวของแรงงานในปี 2564 ชี้ผลพวงวิกฤตไวรัสโควิด-19และเศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลตลาดงาน-แรงงานเปลี่ยนวิถี รูปแบบการทำงานและมองภาพปี 2564 เป็นปีแห่งฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญของภาครัฐภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมที่ต้องผนึกกำลังร่วมกันพร้อมจัดอันดับงานมาแรง 10 อันดับที่ตลาดงานต้องการ และ 10 อันดับงานที่แรงงานพร้อมลุย เพื่อเป็นการลดช่องว่างและเติมเต็มตลาดงานในปัจจุบันมร.ไซมอน แมททิวส์,ผู้จัดการระดับภูมิภาค ประเทศไทย, แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำที่ปรึกษาด้านแรงงานเชิงนวัตกรรมกว่า 80 ประเทศทั่วโลก และในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจในทุกอุตสาหกรรมเพราะมีความเชื่อมโยงกันรวมถึงตลาดแรงงานที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทั้งวิถีการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติงานซึ่งรวมถึงประเทศไทย ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ที่ต้องปรับตัวรับกับสถานการณ์ทั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทยนับเป็นผลพวงจากปัจจัยข้างต้นอย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐในเชิงนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวที่นับว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักรวมถึงด้านการลงทุน และการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนที่เข้ามาช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อย เพื่อขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจในประเทศ ทางด้านการลงทุนจากต่างประเทศแม้ลดลงแต่ยังได้รับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง“นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงการทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะรูปแบบการทำงานภายใต้วิถีชีวิตแบบ New Normal ดังนั้น ส่งผลให้ปี 2563 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการ Recovery สู่การ Renew ในปี 2564 ที่ต้องจับตาการฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการร่วมกันอย่างไรก็ตามแม้สัญญาณการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ แต่การตระหนักรู้ ตื่นตัว เกิดขึ้นตั้งแต่ระดับจุลภาคจนถึงมหภาคทั้งภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ ทั้งในระดับประเทศจนถึงนานาประเทศในระดับโลกผมคิดว่า หากพวกเราปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงเราจะสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมีสติและสามารถแก้ไขปัญหาได้จนบรรลุความสำเร็จได้ต่อไป” มร.ไซมอน แมททิวส์ กล่าวทางด้านนางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุลผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเปิดเผยต่อว่า แนวโน้มในปี 2564 ตลาดงานในส่วนขององค์กรธุรกิจมีการปรับกลยุทธ์และการออกแบบการทำงานในรูปแบบใหม่เพื่อการลดต้นทุนจะถูกนำมาใช้ในองค์กรต่างๆ มากขึ้นเพื่อให้มีความกระชับและมีต้นทุนที่ลดลงทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสตั้งแต่ต้นปี 2563อีกทั้งการปรับโครงสร้างองค์กรและออกแบบกระบวนการทำงานใหม่ส่งผลให้รูปแบบการจ้างงานมีความยืดหยุ่นจากการจ้างงานแบบประจำมาเป็นรูปแบบการจ้างงานระยะสั้นประเภทต่างๆ ทั้งการจ้างงานชั่วคราว การจ้างงานแบบสัญญาจ้าง และการจ้างงานในรูปแบบเอาท์ซอร์ส (Outsource)จะเป็นที่นิยมแพร่หลายตอบโจทย์การขาดแคลนกำลังคนได้ตามความต้องการนอกจากนี้เรากำลังเห็นแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีในการทำให้ขั้นตอนบางอย่างเป็นอัตโนมัติและดิจิตัล โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นบางส่วนจนถึงทั้งกระบวนการทำงาน อาทิ พนักงานขายหน้าร้าน พนักงานบริการลูกค้า งานธุรการ พนักงานขนส่ง พนักงานฝ่ายการผลิต ทั้งนี้ ในการการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเชื่อมโยงผ่านแพลตฟอร์มส่งผลให้เกิดการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่แรงงานต้องเตรียมพร้อมให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลเราพบการมีพนักงานที่หลากหลายและมีกลุ่มคนทำงานหลายช่วงอายุในองค์กร(Multi-Generational Pool of Workers) ซึ่งปัจจุบัน แต่ละเจนเนอเรชั่นมีสัดส่วนที่เป็นกำลังแรงงานที่มีอายุระหว่าง 15-60 ปีในส่วนของ Gen X กับ Y มีมากสุด และในกลุ่ม Gen Zจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นตามการเริ่มต้นเข้ามาในตลาด ซึ่งคนแต่ละรุ่นมีวิธีคิดและการทำงานที่แตกต่างกันไปตามประสบการณ์และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานที่จะต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันและประสบความสำเร็จด้วยกันต่อไปอีกหนึ่งแนวโน้มที่จะเห็นในโลกของการทำงานกลุ่มแรงงานจะเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างทางเลือกเพื่อสร้างรายได้ เพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มคนทำงานประจำยังคงรักษาความมั่นคงในอาชีพและจะมีการสร้างรายได้เสริมจากการรับงานอิสระประเภทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายงานหรือเป็นเรื่องที่ถนัด เช่น ทำขนม ทำอาหารขายออนไลน์ หรือการขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้นทางด้านกลุ่มแรงงานที่ทำงานอิสระจะรับทำงานที่หลากหลายมากขึ้น บางคนผันไปเป็นรายได้หลักและการสร้างความมั่นคงจากงานระยะสั้นหลายๆงาน โดยสามารถบริหารจัดการและเลือกทำงานพร้อมๆ กันได้หลายอย่างนอกจากนี้ กระบวนการเรียนรู้และการเสริมทักษะต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในระดับบุคคลจะเป็นตัวเชื่อมโยงแรงงานและอาชีพต่างๆ ให้สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบทั้งงานปัจจุบันและงานในอนาคตได้สำหรับภาพรวมทิศทางตลาดแรงงานปี 2564 มีความสอดคล้องกัน 8 ใน 10 สายงาน แต่ลดลงมาจากปีที่แล้วร้อยละ 10เนื่องจากตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะชะลอตัวทำให้บางสายงานโตสวนกระแส บางสายงานความต้องการลดลงถึงคงที่จากผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและโควิด-19 จึงยังไม่มีการขยายโครงสร้างโดยจากผลสำรวจจากกลุ่มลูกค้าของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย 10 อันดับสายงานที่ตลาดงานต้องการ (ภาพในตาราง) ดังนี้ อันดับ 1 สายงานขายและการตลาด 23.10%อันดับ 2 สายงานบัญชีและการเงิน9.58% อันดับ3 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์9.50% อันดับ4 สายงานวิศวกร8.52% อันดับ5 สายงานไอที 7.78% อันดับ6 งานระยะสั้นต่างๆ 6.96% อันดับ7 สายงานธุรการ 6.80% อันดับ8 สายงานบริการลูกค้า 5.32% อันดับ9 สายงานการผลิต 5.24% และอันดับ10 สายงานบริการทางการแพทย์และสุขภาพ 3.28%ส่วน10 อันดับสายงานที่ตลาดแรงงานต้องการ ดังนี้ อันดับ 1สายงานขายและการตลาด29.70%อันดับ 2สายงานวิศวกร 15.23% อันดับ3 สายงานบริการลูกค้า13.43% อันดับ4 สายงานธุรการ 7.40% อันดับ5สายงานทรัพยากรบุคคล 7.37% อันดับ6 สายงานไอที5.9% อันดับ7 สายงานบัญชีและการเงิน5.66% อันดับ8 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์5.51% อันดับ9 งานระดับผู้บริหาร3.51% และอันดับ10 สายงานการผลิต2.28%ดังนั้น จะเห็นได้ว่าตลาดงานและแรงงานยังมีความสอดคล้องในสัดส่วนความต้องการของตลาดกับแรงงาน (ภาพในตาราง) อีกทั้ง ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าสายงานขนส่งและโลจิสติกส์มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ 4.83%ตามทิศทางธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ, ค้าขายออนไลน์ และธุรกิจเดลิเวอรี่ทางด้านงานขายและการตลาดขึ้นอันดับ 1 มา 5 ปีต่อเนื่องกันซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการเติบโตทางธุรกิจให้ความสำคัญกับบุคลากรที่เป็นตัวกลางในการนำเสนอสินค้าและบริการ โดยเฉพาะสินค้าความงาม และสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ส่วนการตลาดเข้ามาวางกลยุทธ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์สู่การนำเสนอการสื่อสารเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการ โปรโมชั่นและกิจกรรมทางการตลาดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องนอกจากนี้ ในกลุ่มงานระยะสั้นประเภทต่างๆ , งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพมีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมากและเป็นตลาดงานส่วนที่มีความสำคัญในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้แต่งานในกลุ่มงานธุรการ งานบริการลูกค้าและงานการผลิตก็ยังคงมีความต้องการสูง เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศส่วนใหญ่ยังคงเป็นธุรกิจและอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมและกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนแปลง แม้งานเหมือนเดิมแต่ก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทั้งบางส่วนจนถึงหลายส่วน จึงทำให้แรงงานต้องพัฒนาทักษะที่มารองรับกับการทำงานกับเทคโนโลยีโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี ในกระบวนการทำงานและการผลิต เป็นต้นพร้อมกันนี้ ยังเผยถึงอาชีพที่มาแรงในปี 2564 มี 10 อาชีพตามผลสำรวจ ประกอบด้วย อันดับหนึ่งงานขายและการตลาด อันดับสองงานบัญชีและการเงินอันดับที่สามงานขนส่งและโลจิสติกส์ อันดับสี่งานวิศวกรอันดับที่ห้า งานไอที อันดับที่หกงานระยะสั้นต่างๆ อันดับเจ็ดงานธุรการอันดับแปด งานบริการลูกค้า อันดับเก้างานการผลิตและ อันดับสิบ งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพ นอกจากนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยถึงกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สูงสุด 5 อันดับ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจท่องเที่ยว รายได้ลดลง 73% 2.ธุรกิจบันเทิง รายได้ลดลด 59% 3.ธุรกิจรับจ้าง บริการ รายได้ลดลง 44% 4.ธุรกิจการผลิต รายได้ลดลง 42% 5.ธุรกิจอาหาร รายได้ลดลง 41% จากข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับแนวโน้มที่ภาคแรงงานต้องเตรียมพร้อมในการปรับเปลี่ยนรับการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับผลกระทบอย่างไรก็ตามเชื่อว่าวิกฤตดังกล่าวจะปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานและธุรกิจต่างๆจะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ“ทั้งนี้ สิ่งสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในตลาดงานและแรงงานในปีนี้ต่อไปจนถึงอนาคต การทำงานของแรงงานจะต้องตอบโจทย์ตลาดงาน มีทักษะที่มีความหลากหลาย พร้อมกับการพัฒนาตนเองด้วยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นบนพื้นฐานของความสมดุลในชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัว โดยแรงงานสามารถออกแบบความมั่นคงของชีวิตได้ตามสถานการณ์และบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น หากทุกคนมีการเตรียมตัวและตั้งรับที่ดีโดยเฉพาะภาคแรงงาน แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมไทยต่อไป แม้ในยามวิกฤตที่เกิดขึ้น หากภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและแรงงานเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ปรับตัว ยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ เราจะสามารถค้นพบ “ทางเลือกสู่ทางรอดแรงงานไทยปี 64” เท่าทันยุคเปลี่ยนผ่านที่รวดเร็วได้ต่อไป” นางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล กล่าวทิ้งท้าย****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com#ManpowerGroupThailand #แมนพาวเวอร์ #แมนพาวเวอร์กรุ๊ปประเทศไทย #อาชีพมาแรงแห่งปี #วิถีชีวิตNewNormal #แรงงาน #ทิศทางแรงงาน #ตลาดแรงงาน #แนวโน้มทิศทางตลาดแรงงาน
-
'งานขาย การตลาด' งานมาแรง ตลาด-แรงงานต้องการ ชี้ปีแห่งการฟื้นฟู
7 February 2021 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกงานขาย การตลาด แชมป์สายงานที่ทั้งแรงงาน และตลาดต้องการสูงสุดปี 2564 แมนพาวเวอร์ ชี้ปีนี้ปีแห่งการฟื้นตัวครั้งสำคัญของภาคอุตสาหกรรมนางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำที่ปรึกษาด้านแรงงาน เปิดเผยว่า จากผลสำรวจจากกลุ่มลูกค้าของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย พบว่า สายงานขาย การตลาด เป็นสายงานที่ ทั้งตลาดงาน และตลาดแรงงาน มีความต้องการเป็นอันดับ 1 สะท้อนให้เห็นถึงความสอดคล้องกัน ในสัดส่วนความต้องการของตลาดกับแรงงาน10 อันดับ สายงานที่ตลาดงานต้องการ มีดังนี้อันดับ 1 สายงานขายและการตลาด 23.10%อันดับ 2 สายงานบัญชีและการเงิน 9.58%อันดับ 3 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์ 9.50%อันดับ 4 สายงานวิศวกร 8.52%อันดับ 5 สายงานไอที 7.78%อันดับ 6 งานระยะสั้นต่างๆ 6.96%อันดับ 7 สายงานธุรการ 6.80%อันดับ 8 สายงานบริการลูกค้า 5.32%อันดับ 9 สายงานการผลิต 5.24%อันดับ 10 สายงานบริการทางการแพทย์และสุขภาพ 3.28%10 อันดับ สายงาน ที่ตลาดแรงงานต้องการ ดังนี้อันดับ 1 สายงานขายและการตลาด 29.70%อันดับ 2 สายงานวิศวกร 15.23%อันดับ 3 สายงานบริการลูกค้า 13.43%อันดับ 4 สายงานธุรการ 7.40%อันดับ 5 สายงานทรัพยากรบุคคล 7.37%อันดับ 6 สายงานไอที 5.9%อันดับ 7 สายงานบัญชีและการเงิน 5.66%อันดับ 8 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์ 5.51%อันดับ 9 งานระดับผู้บริหาร 3.51%อันดับ 10 สายงานการผลิต 2.28%ทั้งนี้ ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า สายงานขนส่งและโลจิสติกส์ มีอัตราการเติบโตสูงสุด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ 4.83% ตามทิศทางธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ค้าขายออนไลน์ และธุรกิจเดลิเวอรี่ ขณะที่ งานขายและการตลาดขึ้นอันดับ 1 มา 5 ปีต่อเนื่องกัน สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการเติบโตทางธุรกิจ ให้ความสำคัญกับบุคลากรที่เป็นตัวกลาง ในการนำเสนอสินค้าและบริการ โดยเฉพาะสินค้าความงาม และสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ส่วนการตลาด จะเป็นการเข้ามาวางกลยุทธ์ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ สู่การนำเสนอการสื่อสารเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ หรือบริการโปรโมชั่น และกิจกรรมทางการตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยถึง กลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สูงสุด 5 อันดับ ประกอบด้วย1. ธุรกิจท่องเที่ยว รายได้ลดลง 73%2. ธุรกิจบันเทิง รายได้ลดลด 59%3. ธุรกิจรับจ้าง บริการ รายได้ลดลง 44%4. ธุรกิจการผลิต รายได้ลดลง 42%5. ธุรกิจอาหาร รายได้ลดลง 41%ข้อมูลดังกล่าว สอดคล้องกับแนวโน้มที่ภาคแรงงานต้องเตรียมพร้อม รับการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า วิกฤติที่เกิดขึ้น ทั้งจากโควิด-19 และเศรษฐกิจ จะปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงาน และธุรกิจต่าง ๆ จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้ อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับสิ่งสำคัญ ของการเปลี่ยนแปลงในตลาดงาน และแรงงานในปีนี้ ต่อไปจนถึงอนาคต การทำงานของแรงงาน จะต้องตอบโจทย์ตลาดงาน มีทักษะที่มีความหลากหลาย พร้อมกับการพัฒนาตนเอง ด้วยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น บนพื้นฐานของความสมดุล ในชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัวดังนั้น หากทุกคนมีการเตรียมตัว และตั้งรับที่ดี โดยเฉพาะภาคแรงงาน แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เชื่อมั่นว่า ประเทศไทย จะเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และพัฒนา เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมไทยต่อไป แม้ในยามวิกฤตที่เกิดขึ้น"หากภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและแรงงานเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ปรับตัว ยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ เราจะสามารถค้นพบ ทางเลือกสู่ทางรอดแรงงานไทยปี 64 เท่าทันยุคเปลี่ยนผ่านที่รวดเร็วได้ต่อไป นางสาวสุธิดา กล่าวด้านนายไซมอน แมททิวส์ ผู้จัดการระดับภูมิภาค ประเทศไทย แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจในทุกอุตสาหกรรม เพราะมีความเชื่อมโยงกัน รวมถึงตลาดแรงงาน ที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งวิถีการดำเนินชีวิต และการปฏิบัติงาน ซึ่งรวมถึงประเทศไทยอย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐ ในเชิงนโยบาย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว ที่นับว่าได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงด้านการลงทุน และการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนที่เข้ามาช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อย เพื่อขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจในประเทศ ทางด้านการลงทุนจากต่างประเทศแม้ลดลงแต่ยังได้รับการลงทุนอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ ยังเป็นช่วงการทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญ ของภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะรูปแบบการทำงาน ภายใต้วิถีชีวิตแบบ New Normal ดังนั้น ส่งผลให้ปี 2563 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการ Recovery สู่การ Renew ในปี 2564 ที่ต้องจับตาการฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญ ที่ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการร่วมกันผลสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสตั้งแต่ต้นปี 2563 อีกทั้งการปรับโครงสร้างองค์กรและออกแบบกระบวนการทำงานใหม่ ยังส่งผลให้รูปแบบการจ้างงาน มีความยืดหยุ่น จากการจ้างงานแบบประจำ มาเป็นรูปแบบการจ้างงานระยะสั้น ประเภทต่าง ๆ ทั้งการจ้างงานชั่วคราว การจ้างงานแบบสัญญาจ้าง และการจ้างงานในรูปแบบเอาท์ซอร์ส จะเป็นที่นิยมแพร่หลาย ตอบโจทย์การขาดแคลนกำลังคนได้ตามความต้องการพร้อมกันนี้ จะได้เห็นแนวโน้มการใช้เทคโนโลยี ปรับสู่ระบบอัตโนมัติและดิจิทัล โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นบางส่วน จนถึงทั้งกระบวนการทำงาน อาทิ พนักงานขายหน้าร้าน พนักงานบริการลูกค้า งานธุรการ พนักงานขนส่ง พนักงานฝ่ายการผลิต ส่งผลให้เกิดการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ใหม่ ๆ ที่แรงงานต้องเตรียมพร้อม ให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลเราพบการมีพนักงานที่หลากหลายและมีกลุ่มคนทำงานหลายช่วงอายุในองค์กร (Multi-Generational Pool of Workers) ซึ่งปัจจุบัน แต่ละเจนเนอเรชั่นมีสัดส่วนที่เป็นกำลังแรงงานที่มีอายุระหว่าง 15-60 ปีในส่วนของ Gen X กับ Y มีมากสุด และในกลุ่ม Gen Z จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นตามการเริ่มต้นเข้ามาในตลาด ซึ่งคนแต่ละรุ่นมีวิธีคิดและการทำงานที่แตกต่างกันไปตามประสบการณ์และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานที่จะต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันและประสบความสำเร็จด้วยกันต่อไปที่มา : The Bangkok Insight****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
แมนพาวเวอร์ เผย“งานขายและการตลาด”อาชีพมาแรงปี 64
6 February 2021 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยทิศทางการปรับทัพของตลาดงาน และการปรับตัวของแรงงานในปี 2564 ชี้ผลพวงวิกฤติไวรัสโควิด-19และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้ตลาดงาน-แรงงาน เปลี่ยนวิถี ,รูปแบบการทำงาน มองภาพปี 2564 เป็นปีแห่งฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญของภาครัฐ ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม ที่ต้องผนึกกำลังร่วมกัน พร้อมจัดอันดับงานมาแรง 10 อันดับที่ตลาดงานต้องการ และ 10 อันดับงานที่แรงงานพร้อมลุย เพื่อเป็นการลดช่องว่างและเติมเต็มตลาดงานในปัจจุบันมร.ไซมอน แมททิวส์, ผู้จัดการระดับภูมิภาค ประเทศไทย, แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำที่ปรึกษาด้านแรงงานเชิงนวัตกรรมกว่า 80 ประเทศทั่วโลก และในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจในทุกอุตสาหกรรมเพราะมีความเชื่อมโยงกัน รวมถึงตลาดแรงงานที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทั้งวิถีการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติงาน ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ที่ต้องปรับตัวรับกับสถานการณ์ทั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 วิกฤติเศรษฐกิจโลก รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทยขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐในเชิงนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงด้านการลงทุน และการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนที่เข้ามาช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อย เพื่อขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจในประเทศ ทางด้านการลงทุนจากต่างประเทศแม้ลดลงแต่ยังได้รับการลงทุนอย่างต่อเนื่องมร.ไซมอน กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงการทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะรูปแบบการทำงานภายใต้วิถีชีวิตแบบ New Normal ดังนั้น ส่งผลให้ปี 2563 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการ Recovery สู่การ Renew ในปี 2564 ที่ต้องจับตาการฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการร่วมกัน แม้สัญญาณการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ แต่การตระหนักรู้ ตื่นตัว เกิดขึ้นตั้งแต่ระดับจุลภาคจนถึงมหภาค ทั้งภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ ทั้งในระดับประเทศจนถึงนานาประเทศในระดับโลก โดยคิดว่า หากพวกเราปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงเราจะสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมีสติและสามารถแก้ไขปัญหาได้จนบรรลุความสำเร็จได้ต่อไปทางด้านนางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยแนวโน้มในปี 2564 ตลาดงานในส่วนขององค์กรธุรกิจมีการกลยุทธ์และการออกแบบการทำงานในรูปแบบใหม่ เพื่อการลดต้นทุนจะถูกนำมาใช้ในองค์กรต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้มีความกระชับและมีต้นทุนที่ลดลง ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสตั้งแต่ต้นปี 2563 อีกทั้งการปรับโครงสร้างองค์กรและออกแบบกระบวนการทำงานใหม่ส่งผลให้รูปแบบการจ้างงานมีความยืดหยุ่นจากการจ้างงานแบบประจำมาเป็นรูปแบบการจ้างงานระยะสั้นประเภทต่างๆ ทั้งการจ้างงานชั่วคราว จ้างงานแบบสัญญาจ้าง และจ้างงานในรูปแบบเอาท์ซอร์ส (Outsource)จะเป็นที่นิยมแพร่หลายตอบโจทย์การขาดแคลนกำลังคนได้ตามความต้องการแมนพาวเวอร์กรุ๊ป เห็นแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีในการทำให้ขั้นตอนบางอย่างเป็นอัตโนมัติและดิจิตัล โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นบางส่วนจนถึงทั้งกระบวนการทำงาน เช่น พนักงานขายหน้าร้าน พนักงานบริการลูกค้า งานธุรการ พนักงานขนส่ง พนักงานฝ่ายการผลิตการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเชื่อมโยงผ่านแพลตฟอร์ม ส่งผลให้เกิดการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่แรงงานต้องเตรียมพร้อมให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล โดยการมีพนักงานที่หลากหลายและมีกลุ่มคนทำงานหลายช่วงอายุในองค์กร (Multi-Generational Pool of Workers) ซึ่งปัจจุบัน แต่ละเจนเนอเรชั่น มีสัดส่วนที่เป็นกำลังแรงงานที่มีอายุระหว่าง 15-60 ปี ในส่วนของ Gen X กับ Y มีมากสุด และในกลุ่ม Gen Z จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นตามการเริ่มต้นเข้ามาในตลาด ซึ่งคนแต่ละรุ่น มีวิธีคิดและการทำงานที่แตกต่างกันไป ตามประสบการณ์และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานที่จะต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันและประสบความสำเร็จด้วยกันต่อไปอีกหนึ่งแนวโน้มที่จะเห็นในโลกของการทำงาน กลุ่มแรงงานจะเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างทางเลือกเพื่อสร้างรายได้ เพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มคนทำงานประจำยังคงรักษาความมั่นคงในอาชีพและจะมีการสร้างรายได้เสริมจากการรับงานอิสระประเภทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายงานหรือเป็นเรื่องที่ถนัด เช่น ทำขนม ทำอาหารขายออนไลน์ หรือการขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น ทางด้านกลุ่มแรงงานที่ทำงานอิสระจะรับทำงานที่หลากหลายมากขึ้น บางคนผันไปเป็นรายได้หลักและการสร้างความมั่นคงจากงานระยะสั้นหลายๆงาน โดยสามารถบริหารจัดการและเลือกทำงานพร้อมๆ กันได้หลายอย่าง นอกจากนี้ กระบวนการเรียนรู้และการเสริมทักษะต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในระดับบุคคลจะเป็นตัวเชื่อมโยงแรงงานและอาชีพต่างๆ ให้สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบทั้งงานปัจจุบันและงานในอนาคตได้ สำหรับภาพรวมทิศทางตลาดแรงงานปี 2564 มีความสอดคล้องกัน 8 ใน 10 สายงาน แต่ลดลงมาจากปีที่แล้ว 10% เนื่องจากตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะชะลอตัวทำให้บางสายงานโตสวนกระแส บางสายงานความต้องการลดลงถึงคงที่จากผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและโควิด-19 จึงยังไม่มีการขยายโครงสร้าง โดยจากผลสำรวจจากกลุ่มลูกค้าของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย10 อันดับสายงานที่ตลาดงานต้องการ ดังนี้ อันดับ 1 สายงานขายและการตลาด 23.10% อันดับ 2 สายงานบัญชีและการเงิน 9.58% อันดับ 3 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์ 9.50% อันดับ 4 สายงานวิศวกร 8.52% อันดับ 5 สายงานไอที 7.78% อันดับ 6 งานระยะสั้นต่างๆ 6.96% อันดับ 7 สายงานธุรการ 6.80% อันดับ 8 สายงานบริการลูกค้า 5.32% อันดับ 9 สายงานการผลิต 5.24% และอันดับ 10 สายงานบริการทางการแพทย์และสุขภาพ 3.28%ส่วน10 อันดับสายงานที่ตลาดแรงงานต้องการดังนี้ อันดับ 1สายงานขายและการตลาด 29.70% อันดับ 2 สายงานวิศวกร 15.23% อันดับ 3 สายงานบริการลูกค้า 13.43% อันดับ 4 สายงานธุรการ 7.40% อันดับ 5 สายงานทรัพยากรบุคคล 7.37% อันดับ 6 สายงานไอที 5.9% อันดับ 7 สายงานบัญชีและการเงิน 5.66% อันดับ 8 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์ 5.51% อันดับ 9 งานระดับผู้บริหาร 3.51% และอันดับ 10 สายงานการผลิต 2.28%ดังนั้น จะเห็นได้ว่าตลาดงานและแรงงานยังมีความสอดคล้องในสัดส่วนความต้องการของตลาดกับแรงงาน (ภาพในตาราง) อีกทั้ง ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าสายงานขนส่งและโลจิสติกส์มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ 4.83% ตามทิศทางธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ, ค้าขายออนไลน์ และธุรกิจเดลิเวอรี่ ทางด้านงานขายและการตลาดขึ้นอันดับ 1 มา 5 ปีต่อเนื่องกันซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการเติบโตทางธุรกิจให้ความสำคัญกับบุคลากรที่เป็นตัวกลางในการนำเสนอสินค้าและบริการ โดยเฉพาะสินค้าความงาม และสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ส่วนการตลาดเข้ามาวางกลยุทธ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์สู่การนำเสนอการสื่อสารเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการโปรโมชั่นและกิจกรรมทางการตลาดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องในกลุ่มงานระยะสั้นประเภทต่างๆ , งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพมีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมากและเป็นตลาดงานส่วนที่มีความสำคัญในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ แต่งานในกลุ่มงานธุรการ งานบริการลูกค้าและงานการผลิตก็ยังคงมีความต้องการสูง เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศส่วนใหญ่ยังคงเป็นธุรกิจและอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมและกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนแปลง แม้งานเหมือนเดิมแต่ก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทั้งบางส่วนจนถึงหลายส่วน จึงทำให้แรงงานต้องพัฒนาทักษะที่มารองรับกับการทำงานกับเทคโนโลยีโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี ในกระบวนการทำงานและการผลิตแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ยังเผยถึงอาชีพที่มาแรงในปี 2564 มี 10 อาชีพตามผลสำรวจ ประกอบด้วย อันดับหนึ่งงานขายและการตลาด อันดับสองงานบัญชีและการเงิน อันดับที่สามงานขนส่งและโลจิสติกส์ อันดับสี่งานวิศวกร อันดับที่ห้า งานไอที อันดับที่หกงานระยะสั้นต่างๆ อันดับเจ็ดงานธุรการ อันดับแปด งานบริการลูกค้า อันดับเก้างานการผลิตและ อันดับสิบ งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพนอกจากนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยถึงกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สูงสุด 5 อันดับ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจท่องเที่ยว รายได้ลดลง 73% 2.ธุรกิจบันเทิง รายได้ลดลด 59% 3.ธุรกิจรับจ้าง บริการ รายได้ลดลง 44% 4.ธุรกิจการผลิต รายได้ลดลง 42% 5.ธุรกิจอาหาร รายได้ลดลง 41% จากข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับแนวโน้มที่ภาคแรงงานต้องเตรียมพร้อมในการปรับเปลี่ยนรับการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าวิกฤตดังกล่าวจะปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานและธุรกิจต่างๆจะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพนางสาวสุธิดา ย้ำด้วยว่า สิ่งสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในตลาดงานและแรงงานในปีนี้ต่อไป จนถึงอนาคต การทำงานของแรงงานจะต้องตอบโจทย์ตลาดงาน มีทักษะที่มีความหลากหลาย พร้อมกับการพัฒนาตนเองด้วยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นบนพื้นฐานของความสมดุลในชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัว โดยแรงงานสามารถออกแบบความมั่นคงของชีวิตได้ตามสถานการณ์และบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปดังนั้น หากทุกคนมีการเตรียมตัวและตั้งรับที่ดีโดยเฉพาะภาคแรงงาน แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมไทยต่อไป แม้ในยามวิกฤตที่เกิดขึ้น หากภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและแรงงานเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ปรับตัว ยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ เราจะสามารถค้นพบ “ทางเลือกสู่ทางรอดแรงงานไทยปี 64” เท่าทันยุคเปลี่ยนผ่านที่รวดเร็วได้ต่อไปที่มา : MGR Online****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
เจาะลึกอาชีพมาแรงแห่งปี 2564 ตลาดแรงงาน นายจ้าง-ลูกจ้างต้องปรับตัวรับมือทุกการเปลี่ยนแปลง
5 February 2021 ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยทิศทางและแนวทางการปรับทัพของตลาดงาน และการปรับตัวของแรงงานในปี 2564 ชี้ผลพวงวิกฤตไวรัสโควิด-19และเศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลตลาดงาน-แรงงานเปลี่ยนวิถี รูปแบบการทำงานและมองภาพปี 2564 เป็นปีแห่งฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญของภาครัฐภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมที่ต้องผนึกกำลังร่วมกัน พร้อมจัดอันดับงานมาแรง 10 อันดับที่ตลาดงานต้องการ และ 10 อันดับงานที่แรงงานพร้อมลุย เพื่อเป็นการลดช่องว่างและเติมเต็มตลาดงานในปัจจุบันมร.ไซมอน แมททิวส์ ผู้จัดการระดับภูมิภาค ประเทศไทย แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำที่ปรึกษาด้านแรงงานเชิงนวัตกรรมกว่า 80 ประเทศทั่วโลก และในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจในทุกอุตสาหกรรมเพราะมีความเชื่อมโยงกัน รวมถึงตลาดแรงงานที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทั้งวิถีการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติงาน ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ที่ต้องปรับตัวรับกับสถานการณ์ทั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทยนับเป็นผลพวงจากปัจจัยข้างต้น อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐในเชิงนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวที่นับว่าได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงด้านการลงทุน และการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนที่เข้ามาช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อย เพื่อขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจในประเทศ ทางด้านการลงทุนจากต่างประเทศแม้ลดลงแต่ยังได้รับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง“นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงการทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะรูปแบบการทำงานภายใต้วิถีชีวิตแบบ New Normal ดังนั้น ส่งผลให้ปี 2563 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการ Recovery สู่การ Renew ในปี 2564 ที่ต้องจับตาการฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการร่วมกัน อย่างไรก็ตามแม้สัญญาณการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ แต่การตระหนักรู้ ตื่นตัว เกิดขึ้นตั้งแต่ระดับจุลภาคจนถึงมหภาค ทั้งภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ ทั้งในระดับประเทศจนถึงนานาประเทศในระดับโลก ผมคิดว่า หากพวกเราปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงเราจะสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมีสติและสามารถแก้ไขปัญหาได้จนบรรลุความสำเร็จได้ต่อไป” มร.ไซมอน แมททิวส์ กล่าวทางด้านนางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยต่อว่า แนวโน้มในปี 2564 ตลาดงานในส่วนขององค์กรธุรกิจมีการกลยุทธ์และการออกแบบการทำงานในรูปแบบใหม่ เพื่อการลดต้นทุนจะถูกนำมาใช้ในองค์กรต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้มีความกระชับและมีต้นทุนที่ลดลง ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสตั้งแต่ต้นปี 2563 อีกทั้งการปรับโครงสร้างองค์กรและออกแบบกระบวนการทำงานใหม่ส่งผลให้รูปแบบการจ้างงานมีความยืดหยุ่นจากการจ้างงานแบบประจำมาเป็นรูปแบบการจ้างงานระยะสั้นประเภทต่างๆ ทั้งการจ้างงานชั่วคราว การจ้างงานแบบสัญญาจ้าง และการจ้างงานในรูปแบบเอาท์ซอร์ส (Outsource)จะเป็นที่นิยมแพร่หลายตอบโจทย์การขาดแคลนกำลังคนได้ตามความต้องการนอกจากนี้ เรากำลังเห็นแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีในการทำให้ขั้นตอนบางอย่างเป็นอัตโนมัติและดิจิตัล โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นบางส่วนจนถึงทั้งกระบวนการทำงาน อาทิ พนักงานขายหน้าร้าน พนักงานบริการลูกค้า งานธุรการ พนักงานขนส่ง พนักงานฝ่ายการผลิต ทั้งนี้ ในการการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเชื่อมโยงผ่านแพลตฟอร์มส่งผลให้เกิดการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่แรงงานต้องเตรียมพร้อมให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลเราพบการมีพนักงานที่หลากหลายและมีกลุ่มคนทำงานหลายช่วงอายุในองค์กร (Multi-Generational Pool of Workers) ซึ่งปัจจุบัน แต่ละเจนเนอเรชั่นมีสัดส่วนที่เป็นกำลังแรงงานที่มีอายุระหว่าง 15-60 ปีในส่วนของ Gen X กับ Y มีมากสุด และในกลุ่ม Gen Z จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นตามการเริ่มต้นเข้ามาในตลาด ซึ่งคนแต่ละรุ่นมีวิธีคิดและการทำงานที่แตกต่างกันไปตามประสบการณ์และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานที่จะต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันและประสบความสำเร็จด้วยกันต่อไปอีกหนึ่งแนวโน้มที่จะเห็นในโลกของการทำงาน กลุ่มแรงงานจะเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างทางเลือกเพื่อสร้างรายได้ เพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มคนทำงานประจำยังคงรักษาความมั่นคงในอาชีพและจะมีการสร้างรายได้เสริมจากการรับงานอิสระประเภทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายงานหรือเป็นเรื่องที่ถนัด เช่น ทำขนม ทำอาหารขายออนไลน์ หรือการขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น ทางด้านกลุ่มแรงงานที่ทำงานอิสระจะรับทำงานที่หลากหลายมากขึ้น บางคนผันไปเป็นรายได้หลักและการสร้างความมั่นคงจากงานระยะสั้นหลายๆงาน โดยสามารถบริหารจัดการและเลือกทำงานพร้อมๆ กันได้หลายอย่าง นอกจากนี้ กระบวนการเรียนรู้และการเสริมทักษะต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในระดับบุคคลจะเป็นตัวเชื่อมโยงแรงงานและอาชีพต่างๆ ให้สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบทั้งงานปัจจุบันและงานในอนาคตได้สำหรับภาพรวมทิศทางตลาดแรงงานปี 2564 มีความสอดคล้องกัน 8 ใน 10 สายงาน แต่ลดลงมาจากปีที่แล้วร้อยละ 10 เนื่องจากตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะชะลอตัวทำให้บางสายงานโตสวนกระแส บางสายงานความต้องการลดลงถึงคงที่จากผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและโควิด-19 จึงยังไม่มีการขยายโครงสร้าง โดยจากผลสำรวจจากกลุ่มลูกค้าของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย 10 อันดับสายงานที่ตลาดงานต้องการ (ภาพในตาราง) ดังนี้ อันดับ 1 สายงานขายและการตลาด 23.10% อันดับ 2 สายงานบัญชีและการเงิน 9.58% อันดับ 3 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์ 9.50% อันดับ 4 สายงานวิศวกร 8.52% อันดับ 5 สายงานไอที 7.78% อันดับ 6 งานระยะสั้นต่างๆ 6.96% อันดับ 7 สายงานธุรการ 6.80% อันดับ 8 สายงานบริการลูกค้า 5.32% อันดับ 9 สายงานการผลิต 5.24% และอันดับ 10 สายงานบริการทางการแพทย์และสุขภาพ 3.28% ส่วน 10 อันดับสายงานที่ตลาดแรงงานต้องการ ดังนี้ อันดับ 1สายงานขายและการตลาด 29.70% อันดับ 2 สายงานวิศวกร 15.23% อันดับ 3 สายงานบริการลูกค้า 13.43% อันดับ 4 สายงานธุรการ 7.40% อันดับ 5 สายงานทรัพยากรบุคคล 7.37% อันดับ 6 สายงานไอที 5.9% อันดับ 7 สายงานบัญชีและการเงิน 5.66% อันดับ 8 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์ 5.51% อันดับ 9 งานระดับผู้บริหาร 3.51% และอันดับ 10 สายงานการผลิต 2.28%ดังนั้น จะเห็นได้ว่าตลาดงานและแรงงานยังมีความสอดคล้องในสัดส่วนความต้องการของตลาดกับแรงงาน (ภาพในตาราง) อีกทั้ง ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าสายงานขนส่งและโลจิสติกส์มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ 4.83% ตามทิศทางธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ, ค้าขายออนไลน์ และธุรกิจเดลิเวอรี่ ทางด้านงานขายและการตลาดขึ้นอันดับ 1 มา 5 ปีต่อเนื่องกันซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการเติบโตทางธุรกิจให้ความสำคัญกับบุคลากรที่เป็นตัวกลางในการนำเสนอสินค้าและบริการ โดยเฉพาะสินค้าความงาม และสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ส่วนการตลาดเข้ามาวางกลยุทธ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์สู่การนำเสนอการสื่อสารเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการโปรโมชั่นและกิจกรรมทางการตลาดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องนอกจากนี้ ในกลุ่มงานระยะสั้นประเภทต่างๆ , งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพมีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมากและเป็นตลาดงานส่วนที่มีความสำคัญในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ แต่งานในกลุ่มงานธุรการ งานบริการลูกค้าและงานการผลิตก็ยังคงมีความต้องการสูง เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศส่วนใหญ่ยังคงเป็นธุรกิจและอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมและกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนแปลง แม้งานเหมือนเดิมแต่ก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทั้งบางส่วนจนถึงหลายส่วน จึงทำให้แรงงานต้องพัฒนาทักษะที่มารองรับกับการทำงานกับเทคโนโลยีโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี ในกระบวนการทำงานและการผลิต เป็นต้นพร้อมกันนี้ ยังเผยถึงอาชีพที่มาแรงในปี 2564 มี 10 อาชีพตามผลสำรวจ ประกอบด้วย อันดับหนึ่งงานขายและการตลาด อันดับสองงานบัญชีและการเงิน อันดับที่สามงานขนส่งและโลจิสติกส์ อันดับสี่งานวิศวกร อันดับที่ห้า งานไอที อันดับที่หกงานระยะสั้นต่างๆ อันดับเจ็ดงานธุรการ อันดับแปด งานบริการลูกค้า อันดับเก้างานการผลิตและ อันดับสิบ งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพนอกจากนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยถึงกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สูงสุด 5 อันดับ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจท่องเที่ยว รายได้ลดลง 73% 2.ธุรกิจบันเทิง รายได้ลดลด 59% 3.ธุรกิจรับจ้าง บริการ รายได้ลดลง 44% 4.ธุรกิจการผลิต รายได้ลดลง 42% 5.ธุรกิจอาหาร รายได้ลดลง 41% จากข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับแนวโน้มที่ภาคแรงงานต้องเตรียมพร้อมในการปรับเปลี่ยนรับการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าวิกฤตดังกล่าวจะปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานและธุรกิจต่างๆจะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ“ทั้งนี้ สิ่งสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในตลาดงานและแรงงานในปีนี้ต่อไปจนถึงอนาคต การทำงานของแรงงานจะต้องตอบโจทย์ตลาดงาน มีทักษะที่มีความหลากหลาย พร้อมกับการพัฒนาตนเองด้วยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นบนพื้นฐานของความสมดุลในชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัว โดยแรงงานสามารถออกแบบความมั่นคงของชีวิตได้ตามสถานการณ์และบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น หากทุกคนมีการเตรียมตัวและตั้งรับที่ดีโดยเฉพาะภาคแรงงาน แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมไทยต่อไป แม้ในยามวิกฤตที่เกิดขึ้น หากภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและแรงงานเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ปรับตัว ยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ เราจะสามารถค้นพบ “ทางเลือกสู่ทางรอดแรงงานไทยปี 64” เท่าทันยุคเปลี่ยนผ่านที่รวดเร็วได้ต่อไป” นางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล กล่าวทิ้งท้ายมร.ไซมอน แมททิวส์ ผู้จัดการระดับภูมิภาค ประเทศไทย แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ปสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ปที่มา : gotomanager****************************************************************************************************เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ติดต่อฝ่ายการตลาด: แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยบริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลกโทร. 02-171-2345อีเมล : recruitmentthailand@manpower.th.comwww.manpowerthailand.com
-
การทำงานเพื่อเปลี่ยนโลก : อนาคตที่ยั่งยืนเพื่อคนทำงาน
3 February 2021 จุดมุ่งหมายของเราไม่เคยตรงประเด็นเท่ากับที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2563 นี้ เราเชื่อมั่นว่างานที่มีความหมายและความยั่งยืนมีอำนาจที่จะเปลี่ยนโลก การหาคนที่มีทักษะตามที่ลูกค้าของเราต้องการเพื่อให้ทุกอย่างยังดำเนินต่อไปตามปกติ ช่วยให้แรงงานพัฒนาทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ เพื่อให้พวกเขามีโอกาสได้รับการว่าจ้างทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และทำให้ที่ทำงานมีความเสมอภาคและมีส่วนร่วมยิ่งขึ้น READ OUR 2020 SOCIAL IMPACT REPORT (TH&EN)
-
Channel Youtube เพื่อคนทำงาน
28 January 2021 เชื่อว่าใครหลายๆคนต้องรู้จักแอปพลิเคชันที่เป็นที่นิยมอันดับต้นๆทั่วโลกอย่างยูทูปกันเป็นอย่างดี ยูทูปเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์รวบรวมวิดีโอที่ใครๆก็สามารถสร้างช่องเป็นของตัวเองและแบ่งปันวิดีโอไปยังผู้อื่นได้ทั่วโลกได้ ทั้งความรู้, ความบันเทิงและโอกาสที่เราสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย วันนี้แมนพาวเวอร์มีช่องยูทูปเนื้อหาสาระดีๆ เหมาะสำหรับคนทำงาน เอาไว้ให้คุณได้กดกระดิ่งและซับสไครบ์ไว้ดูในยามว่างกัน ติดตามช่องเนื้อหายูทูปสาระดีๆ ได้ที่นี่LDA Worldสำหรับวัยรุ่นคนทำงานรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ รับรองช่องนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Podcast, Review อุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมไปถึง Tips การให้คำแนะนำการใช้งานฟังก์ชันอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ช่องนี้มีไว้ครบ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผู้บอกเล่าหรือคนนำเสนอคอนเทนต์จะเป็นสาวยูทูปเบอร์รุ่นใหม่ที่ให้ความรู้ความเข้าใจ พร้อมมอบรอยยิ้มอันสดใสให้ผู้ชมThe Standardรายการสำนักข่าวออนไลน์ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่กี่ปี แต่กลับได้รับความนิยมจากโลกออนไลน์ เต็มเปี่ยมไปด้วยทีมงานคุณภาพจากทีมงาน The Momentum ชุดเดิม นำทีมโดย เคน นครินทร์ นำเสนอเนื้อหาข่าวในประเทศและต่างประเทศ ด้านการเมือง ธุรกิจ สิ่งแวดล้อม กีฬา และเทคโนโลยี รวมไปถึงไลฟ์สไตล์และคัลเจอร์ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องยูทูปของคนที่ชื่นชอบติดตามข่าวสารบ้านเมืองที่คุณเองก็ไม่ควรพลาดKim Property Liveหากใครชื่นชอบในเรื่องของการลงทุน วันนี้เราขอแนะนำช่อง Kim Property Live เนื้อหาเกี่ยวกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ผ่านผู้ดำเนินรายการ คุณคิม-ชัชวาลย์ วัฒนะโชติ เป็นผู้เชี่ยวชาญความรู้ด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หุ้นและทองคำ จากความฝันที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองและให้ความสนใจในการศึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นพิเศษ จึงได้ศึกษาหาความรู้การลงทุนอย่างจริงจังจนได้มีบริษัทเป็นของตัวเอง และถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ที่ได้มาผ่านทางช่องยูทูปจนมีผู้ติดตามหลายแสนรายในปัจจุบันDrAmp Teamคนทำงานหลายๆคนส่วนใหญ่นิยมหันมารักสุขภาพมากขึ้น เพราะปัจจุบันเรามีช่องทางที่หลากหลายช่วยแนะนำแนวทางในการรักษาสุขภาพอย่างถูกวิธีก็จะทำให้เราไม่ต้องไปเสียสุขภาพหรือเสียเงินเพื่อรักษาร่างกายตัวเองในภายหลัง ช่องยูทูป DrAmp Team คือช่องทางเลือกดีๆสำหรับคนรักสุขภาพ โดยมีหมอแอมป์ นพ. ตนุพล วิรุฬหการุญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและชะลอวัยและการลดน้ำหนัก ที่จะให้คำแนะนำคุณในเรื่องของแนวทางการดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้มีอายุที่ยืนยาว เตรียมพร้อมร่างกายให้พร้อมอยู่ตลอดในทุกๆวัน
-
วลีและสำนวนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการทำงาน
28 January 2021 การทำงานในองค์กรต่างชาติบางครั้งเราอาจจะต้องเจอกับ Idioms (สำนวน) หรือ Phrases (วลี) ในภาษาอังกฤษต่างๆ ได้อยู่บ่อยๆ ในชีวิตของการทำงานแต่ละวัน เช่น การโต้ตอบอีเมลหรือการประชุมงาน แต่คำภาษาอังกฤษบางคำ ความหมายก็ไม่ได้แปลตรงตัวไปซะทีเดียว แมนพาวเวอร์ขอชวนคุณเรียนรู้สำนวนและวลีภาษาอังกฤษที่มักเจอในการทำงาน ให้คุณสามารถฟังและอ่านภาษาอังกฤษได้เข้าใจความหมายของคำอย่างถ่องแท้มากยิ่งขึ้น1. Talk over = การพูดคุยถึงปัญหากับใครบางคนก่อนที่จะตัดสินใจ หรือลงมือทำอะไรบางอย่างลงไป2. Run up against = การแก้ไขปัญหาที่ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้า3. Think through = คิดอย่างรอบคอบ4. Knuckle down = การเริ่มทำงานอย่างหนัก5. Wrestle with การพยายามเข้าใจหรือต่อสู้กับปัญหา6. Run into problems = พบเจอเริ่มเจอกับปัญหา7. Slack off (v.) อู้งาน Goof off (v.) อู้งาน8. Shirk (v.) หนีงาน ไม่รับผิดชอบงาน9. Burn the candle at both ends = ทำงานเป็นเวลานาน (เช้าจรดเย็น)10. Learn the ropes = เรียนรู้การทำงาน11. Work your fingers to the bone = ทำงานอย่างหนัก12. Work for peanuts = ทำงานเพื่อเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ13. Rank and file = คนเก่าแก่ขององค์กร14. Work all the hours that God sends = ทำงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้15. Go the extra mile = ทำเกินกว่าที่คาดเท่านี้...คุณก็จะมารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างดูดีมีความมืออาชีพต่อไป
-
เทคนิคสร้างเสริมประสบการณ์สู่การเป็นผู้จัดการ Gen Y
27 January 2021 เทคนิคสร้างเสริมประสบการณ์สู่การเป็นผู้จัดการ Gen Yปัจจุบันคน Gen Y หลายคนได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้จัดการ บางคนเป็นพนักงานที่มีผลงานดี แต่เมื่อขึ้นเป็นผู้จัดการกลับกลายเป็นผู้จัดการที่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงขอแนะนำ 8 เทคนิคสร้างเสริมประสบการณ์สู่การเป็นผู้จัดการ Gen Y ให้ประสบความสำเร็จ1. สร้างทีมงานมืออาชีพ – จะเป็นทีมงานที่ประสบความสำเร็จได้ ในฐานะผู้จัดการ คุณจะแสดงศักยภาพของคุณได้มากเพียงได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากความสามารถของลูกน้องในทีมของคุณด้วย คุณจึงต้องเลือกสรรคนที่เหมาะสมมาร่วมทีม และสร้างเป้าหมายเดียวกัน2. มีความเป็นผู้นำ - แน่นอนว่าการเป็นผู้จัดการนั้น คุณจะต้องมีความเป็นผู้นำที่ดี สามารถบอกได้ว่าตนเองต้องการอะไร และคนอื่นหรือลูกน้องในทีมต้องทำอะไร คุณจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้องในทีม และนำทีมทำงานอย่างมีจุดหมายและดำเนินไปอย่างมีแบบแผน3. ให้เกียรติผู้อื่นในทีม – ถึงคุณจะได้ขึ้นมาอยู่ในระดับหัวหน้างาน ไม่ว่าจะอายุมากกว่าหรือน้อยกว่าคุณคุณก็ต้อง ให้เกียรติผู้อื่นในทีม รวมถึงเปิดใจยอมรับความคิดเห็น หรือความคิดใหม่ๆของทีมหรือลูกน้องของคุณ โดยไม่เห็นแก่พวกพ้อง ถ้าเราทำงานโดยไม่ให้เกียรติผู้อื่น ผู้อื่นก็จะไม่ให้เกียรติเราเช่นกัน4. สร้างแรงจูงใจให้คนในทีม – คุณจะต้องหาให้ได้ว่า อะไรเป็นแรงจูงใจสำคัญสำหรับคนในทีมของคุณ และใช