การเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นเรื่องท้าทาย อย่างธุรกิจ SME ซึ่งส่วนมากนั้นมีงบประมาณในการลงทุนที่จำกัด เจ้าของกิจการจึงต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังในทุกด้าน โดยเฉพาะในการบริหารแรงงานหรือการหาคนทำงานที่จำเป็นต้องคัดสรรเฉพาะบุคลากรที่มีความชำนาญ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามักจะเกิดปัญหาต่าง ๆ ในการสรรหาและคัดเลือกบุคลากร เช่น อัตราจ้างที่ไม่ลงตัว ทัศนคติไม่ลงรอย พนักงานไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร หรือได้บุคลากรที่ขาดทักษะ เป็นต้น
หนึ่งในวิธีการหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว คือ การหาคนทำงานผ่านช่องทางที่เหมาะสม เข้าถึงผู้ว่างงานได้สะดวก และมีบุคลากรที่มีทักษะเพียบพร้อม แต่จะหาคนทำงานได้ที่ไหนบ้าง?
ช่องทางการหาคนทำงานในปัจจุบัน
เมื่อต้องคัดสรรบุคลากรเข้ามาในธุรกิจ SME ที่มีงบประมาณจำกัด การจะหาผู้ที่มีศักยภาพและเข้ากับองค์กรได้ ก็ต้องเริ่มจากช่องทางที่ใช่ ได้แก่
1. แหล่งประกาศงานบนช่องทางออนไลน์ (Online Job Boards)
ในยุคเทคโนโลยีดิจิทัลนี้ แน่นอนว่าการประกาศหางานผ่านช่องทางออนไลน์ย่อมกลายมาเป็นช่องทางหลักขององค์กรต่าง ๆ อย่างเว็บไซต์ที่เป็น Online Job Boards ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้สมัครและองค์กรได้เข้ามาพบกัน ให้ทั้งความสะดวกและรวดเร็ว องค์กรสามารถกระจายสื่อและข้อความได้กว้างขวาง อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่ผู้ที่อยู่ระหว่างรายงานตัวว่างงาน ซึ่งเป็น Active Candidate มักสมัครเข้ามาเพื่อหางานอีกด้วย นอกจากนี้ ฝ่าย HR ยังมีโอกาสได้พบเจอกับPassive Candidate หรือกลุ่มคนที่มีศักยภาพแต่ไม่แสวงหางาน อีกทั้งสามารถเก็บโปรไฟล์ไว้พิจารณาหรือยื่นข้อเสนอในภายหลังได้อีกด้วย
ข้อดี
ได้พบกับผู้สมัครที่ต้องการงานจริง ๆ
สามารถพบกับผู้มีศักยภาพหลากหลายจำนวนมาก
เข้าถึงผู้สมัครได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
2. เครือข่ายสังคมออนไลน์ด้านธุรกิจ (Business Social Networks)
สื่อโซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งความบันเทิงหรือใช้เพื่อรับ-ส่งข่าวสารเท่านั้น แต่บริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ล้วนหันมาใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือสำคัญในการหาคนทำงาน อีกทั้งใช้ในการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรอีกด้วย และแน่นอนว่าหนึ่งในเครือข่ายออนไลน์ด้านธุรกิจที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก คงหนีไม่พ้น LinkedIn คอมมูนิตี้ที่สามารถเชื่อมต่อกับ “Professional” หรือมืออาชีพจากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่ง SME สามารถสร้างโปรไฟล์บริษัทและประกาศรับสมัครงานผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ ซึ่งหากว่าองค์กรกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน งานตำแหน่งระดับ Senior ช่องทางสื่อโซเชียลมีเดียอย่าง LinkedIn ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ไม่ควรมองข้าม
ข้อดี
เข้าถึงคนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางได้ดี ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้ที่ที่มีระดับการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีหรือสูงกว่า
สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือให้กับองค์กร ผ่านการสร้างโปรไฟล์บน LinkedIn
เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจได้ทั่วโลก สามารถสร้าง Connection และพันธมิตรทางธุรกิจได้
สามารถดูโปรไฟล์และติดต่อผู้สมัครได้โดยตรง ทั้งผู้ที่กำลังหางาน หรือผู้ที่ทำงานอยู่แต่มีโปรไฟล์น่าสนใจ
3. การประกาศงานผ่านสื่อเฉพาะทาง (Specialist Media)
สำหรับธุรกิจที่ต้องการบุคลากรเฉพาะทาง การประกาศรับสมัครงานผ่านสื่อเฉพาะสายงานเป็นอีกช่องทางที่ฝ่าย HR ไม่ควรพลาด เพราะสื่อเฉพาะทางเหล่านี้เปรียบเสมือนเป็นศูนย์รวมผู้คน ข้อมูล และข่าวสารเกี่ยวกับสายงานนั้น ๆ ในปัจจุบัน หลายสื่อก็เปิดพื้นที่ให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามาประกาศรับสมัครงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานเกี่ยวกับการตลาด การขาย งานสายดิจิทัล หรือแม้แต่งานสายบริหารธุรกิจ ก็เข้ามาหาคนทำงานผ่านสื่อเฉพาะทางลักษณะนี้ด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างสื่อเฉพาะทางที่เป็นที่รู้จักได้แก่ Marketing Oops! สื่อด้านธุรกิจและการตลาดแบบออนไลน์ และเป็นสื่อที่อยู่ในเครือข่ายของสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย (AAT) และ PORTFOLIOS.NET ที่เป็นคอมมูนิตี้ออนไลน์สำหรับผู้ที่อยู่ในสายงานการออกแบบและครีเอทีฟ กล่าวได้ว่า สื่อเฉพาะทางเหล่านี้เปิดโอกาสให้ธุรกิจได้พบกับบุคลากรเฉพาะทางได้อย่างตรงจุด เป็นประโยชน์ต่อบริษัท SME ในการประหยัดเวลาและทรัพยากรในการหาคนทำงานที่ใช่ในเวลาที่น้อยกว่า
ข้อดี
สร้างความน่าเชื่อถือแก่ธุรกิจได้ดี สร้างการรับรู้ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
สื่อช่วยผลักดันความน่าสนใจของประกาศรับสมัคร เพิ่มโอกาสที่ผู้คนจะเข้ามาสมัครงาน
ได้สื่อผสมผสานในคราวเดียวกัน ทั้งออนไลน์ สิ่งพิมพ์ และแหล่งงานอื่น ๆ ของสื่อนั้น
4. การประกาศงานผ่านสื่อของตนเอง (Own Media)
นอกจากการประกาศรับสมัครผ่านสื่อ Third-Party ต่าง ๆ ในปัจจุบันแล้ว สื่อขององค์กรเอง เช่น เว็บไซต์ หรือ หน้าเพจ Facebook ขององค์กร ก็เป็นช่องทางที่ควรโฟกัสเช่นกัน โดยเฉพาะบริษัทเล็ก ๆ หรือสตาร์ทอัพ ที่อาจจะยังไม่พร้อมที่จะมีพนักงานฝ่ายบุคคลนัก นิยมใช้ช่องทางนี้หาคนทำงานหรือผู้สนใจร่วมงานโดยตรง เป็นช่องทางอันดับต้น ๆ ที่สามารถพา SME สู่ความสำเร็จในการบริหารทรัพยากรบุคคลได้เลยทีเดียว
ข้อดี
องค์กรสามารถบริหารจัดการได้ด้วยตนเอง รวดเร็ว และสร้างสรรค์ออกมาได้ไม่จำกัด
สามารถคัดกรองผู้สมัครได้โดยตรง สามารถสอบถามถึงข้อมูลที่ต้องการได้ครบถ้วน
มีฐานข้อมูลของผู้สมัครเป็นของตนเอง
ช่วยประหยัดงบประมาณขององค์กร
5. บริษัทจัดหางาน (Recruitment Agency)
บริษัทจัดหางานที่มีคุณภาพไม่เพียงแต่ให้บริการกับผู้ที่หางานเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยองค์กรจัดหาและคัดเลือกบุคลากรได้อีกด้วย ซึ่งบริษัทจัดหางานล้วนเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถค้นหาผู้ที่มีศักยภาพ เข้ากับทีมได้ดี พร้อมมีทักษะตรงตามที่องค์กรต้องการ และมีโอกาสสูงที่จะได้รักษาพนักงานดี ๆ เอาไว้ โดยที่องค์กรไม่จำเป็นต้องสละเวลามาทำเอง และสามารถให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจจุดอื่น ๆ ได้เต็มที่ ในขณะที่บริษัทจัดหางานช่วยดูแลเรื่องการคัดสรรบุคคล
ข้อดี
มีผู้ดูแลและจัดการในการสรรหา ประกาศสมัคร ไปจนถึงคัดเลือกบุคลากร
เพิ่มโอกาสในการได้พบกับพนักงานคุณภาพ ผ่านการคัดกรองอย่างรอบคอบ
มีผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลเป็นที่ปรึกษา
ช่องทางการหาคนทำงานที่ได้กล่าวมานี้สามารถช่วยธุรกิจ SME ในการเข้าถึงผู้สมัครงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมเพิ่มโอกาสในการพบปะผู้ที่มีคุณสมบัติและเหมาะกับวัฒนธรรมองค์กรอีกด้วย